สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอิทธิพลของพายุเฮอร์ริเคนเออร์มาในสหรัฐฯ หลังจากที่พัดขึ้นฝั่งฟลอริดาก็ทำให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วม ขณะที่บ้านเรือนกว่า 3 ล้านหลังไม่มีไฟฟ้าใช้
หลังจากที่ทางการรัฐฟลอริดาได้ประกาศให้ประชาชนกว่า 6.5 ล้านคน อพยพทันทีที่เฮอร์ริเคนเออร์มาพัดขึ้นฝั่ง ก็ทำให้เกิดฝนตกหนักลมกระโชกแรง อิทธิพลของพายุยังทำให้เกิดคลื่นลมในทะเล บางจุดคลื่นสูงกว่า 4 เมตร มวลน้ำได้เอ่อเข้าท่วมเขตเมือง ขณะที่ต้นไม้ใหญ่และป้ายโฆษณาต่างๆ ถูกพายุพัดหักโค่น
หนึ่งในพื้นที่ที่เจออิทธิพลของพายุหนักที่สุดคือเมืองไมอามี โดยมีรายงานว่าเครนก่อสร้างถูกพายุถล่มจนโค่น ขณะที่ถนนหนทางกลายเป็นเมืองร้างเนื่องจากทางการประกาศเตือนไม่ให้ประชาชนออกนอกเคหะสถานเพื่อความปลอดภัย หลายครอบครัวมาอยู่รวมกันที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวรวมถึงตามโรงแรม อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ มีรายงานว่าบ้านเรือนและอาคารกว่า 3.4 ล้านหลังคาเรือน ไม่มีไฟฟ้าใช้ ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 4 ราย
สำหรับเส้นทางเคลื่อนตัวของเออร์มา หลังขึ้นฝั่งที่ฟลอริดา เมื่อช่วงเวลาประมาณ 10 โมงที่ผ่านมา ศูนย์กลางของพายุอยู่ที่เมืองแทมป้า ในรัฐฟลอริดา แม้ว่าจะลดกำลังลงเป็นเฮอริเคนระดับสอง แต่ยังทำให้เกิดฝนตกหนักทั่วเมือง
ด้านศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ (เอ็นเอชซี) คาดการณ์ว่า ในคืนวันนี้ (11 ก.ย.)ประมาณ 19.00 น. ตามเวลาประเทศไทย พายุเฮอร์ริเคนเออร์มาจะเคลื่อนตัวไปยังเมืองเกนส์วิลล์ รัฐฟลอริดา ก่อนจะอ่อนกำลังลงเป็นเฮอร์ริเคนระดับ 1 ซึ่งมีความเร็วลมที่ศูนย์กลางต่ำกว่า 153 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก่อนที่พายุลูกนี้จะอ่อนกำลังลงต่อเนื่องเป็นพายุโซนร้อน เมื่อเคลื่อนตัวผ่านมลรัฐจอร์เจียในวันอังคาร (12 ก.ย.) ราว 7.00 น.ตามเวลาไทย และเคลื่อนตัวเข้าสู่มลรัฐแอละแบมาในอีก 12 ชั่วโมงถัดไป ในขณะที่มันอ่อนกำลังลงเป็นเพียงพายุดีเปรสชั่น
อีกด้านหนึ่งมีรายงานว่า เกิดเหตุคนร้ายฉวยโอกาสบุกเข้าปล้นบ้านเรือนและร้านค้าต่างๆ ในระหว่างที่เจ้าของอพยพหนีพายุออกไปนอกพื้นที่ เป็นเหตุให้ตำรวจในเขตต่างๆ รวมถึงเขตปกครองไมอามี-เดด และเมืองฟอร์ต ลอเดอร์เดลต้องกระจายกำลังลงพื้นที่ดูแลความปลอดภัยของบ้านเรือนและร้านค้าของประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
