“เอ พศิน” เตือนใส่แมสก์นานเลือดเป็นกรด หมอชี้ได้ออกซิเจนน้อย ควรถอดพัก 30 นาที (คลิป)

6 เม.ย. 63

ต้องบอกว่าการรณรงค์ให้ใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัส Covid-19 ได้ผลกับประชาชนอย่างดีเยี่ยม แต่ที่เป็นผลกระทบในระยะยาวของการใส่หน้ากากเป็นเวลานาน คือ อากาศไม่ได้ถ่ายเท แต่กลับสูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นอากาศเสียเข้าไปแทนออกซิเจนที่ปกติควรจะได้รับ

747827

แน่นอนว่าหากอาการบ่งชี้ต่าง ๆ ไม่เกิดขึ้นกับตัว หลายคนก็คงนึกไม่ถึงว่ามันจะร้ายแรงขนาดนี้ แต่สำหรับนักแสดงหนุ่มอย่าง “เอ พศิน” ที่ออกมาโพสต์ข้อความเตือนในไอจีส่วนตัวถึงผลกระทบจากการใส่หน้ากากติดต่อกันเป็นเวลาหลายชั่วโมงต่อวัน

698007

ล่าสุดวันที่ 6 เม.ย.63 หนุ่มเอ เปิดเผยว่า อาการอึดอัด หายใจไม่ออก ตัวร้อน มึนศรีษะ หน้ามือตามัว ทั้ง ๆ ที่สุขภาพร่างกายยังแข็งแรง และทำให้เกิดความสับสันได้ว่า หรือตัวเองจะป่วยหรือเปล่านั่นเกิดจากการใส่หน้ากากติดต่อกันนานเกินไป บวกกับมีพระอาจารย์ที่ตนเคารพนับถือส่งข้อมูลเหล่านี้มาให้ด้วย ทางที่ดีที่สุดหากหน้ากากมีแผ่นรองฝุ่นละอองที่หนามากเท่าไหร่ จะต้องคำนึงถึงเวลาใส่ที่สั้นลง 3-4 ชั่วโมง แล้วพักสักครึ่งชั่วโมง เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก

จำลองง่าย ๆ เปรียบหน้ากากเป็นหนึ่งในเครื่องแต่งกายที่ใส่แล้วก็ต้องถอดซัก อย่ามองข้ามวิธีการใช้งานที่ถูกต้อง ทั้งยังเตือนถึงคนที่ชอบดึงหน้ากากลงมาพักไว้ที่คางเวลาจะพูดหรือกินข้าว ระวังจะทำให้เชื้อไวรัสแพร่กระจายเพิ่มขึ้นในบริเวณนั้น

145417

นอกจากนี้ยังแนะวิธีเช็กคุณภาพของหน้ากากด้วยวิธีแฮปปี้เบิร์ดเดย์ คือการใส่หน้ากากที่มีแล้วเป่าเทียนหรือไฟแช็กที่อยู่ตรงหน้า หากเป่าแล้วไฟดับแสดงว่าหน้ากากชิ้นนั้นประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสไม่ดีพอ และฝากให้ทุกคนมีสติในการเสพสื่อ ตรวจสอบทุกครั้งก่อนแชร์โดยเฉพาะในช่วงนี้

544600

นพ.สิทธา ลิขิตนุกูล หรือ "หมอกอล์ฟ" แพทย์สังคมสื่อสารเพื่อคุณธรรม กล่าวว่า เคล็ดลับวันละข้อ ได้เวลาถอดหน้ากาก เพราะสวมนาน ๆ เกินไป ออกซิเจนในเลือดลดลง ทำให้เลือดเป็นกรด เกิดปวดหัว มึนหัว เมื่อยตัว ครั่นเนื้อครั่นตัวได้

372381

โดยมีข้อแนะนำดังนี้ ให้ถอดในบ้าน หรือที่ ๆ ปลอดภัยไม่พลุกพล่าน ไม่เสี่ยงติดเชื้อ

1.สวม N95 ไม่สวมเกิน 1 ชม. ถอดมาพัก 30 นาที
2.หน้ากากอนามัย สวมไม่เกิน 2 ชม. พัก 30 นาที
3.หน้ากากผ้า สวมไม่เกิน 4 ชม. ถอดพัก 30 นาที

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส