เปิดใจ น.ศ.คัมแบ็กรายงานตัว ปัดหนีออกสนามบิน รับไม่ได้ถูกยื้อ 6 ชม.ไร้คนแจง (คลิป)

4 เม.ย. 63

จากการณีผู้โดยสารที่เดินทางมาจากต่างประเทศ กลับเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 3 เม.ย. 63 รวมตัวกันขอคำชี้แจงเกี่ยวกับการกักตัว บางส่วนไม่ยินยอมให้พาไปกักตัว บางส่วนได้หลบหนีออกไปจากสนามบิน เนื่องจากปฏิเสธที่จะเดินทางไปกักตัวในพื้นที่ที่ทางรัฐบาลได้จัดเตรียมไว้ให้ ที่ศูนย์เฝ้าระวังอาคารรับรองสัตหีบ จ.ชลบุรี

543785

ไทม์ไลน์เหตุการณ์ ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. 63 เวลา 20.00 น. ผู้โดยสาร 152 ราย จาก 6 เที่ยวบินปฏิเสธการกักตัว เจ้าหน้าที่ให้กลับบ้านเพื่อกักตัวเองและดูอาการ

590480

จากนั้น เวลา21.45 น. ผู้โดยสาร 3 รายมีไข้สูง หลบหนีการกักตัวตอนช่วงชุลมุน โดยเจ้าหน้าที่คุมตัวได้ในช่วงเช้าวันถัดไป

387710

ขณะเดียวกัน เวลา 22.30 น. ผู้โดยสารอีกกลุ่มเที่ยวบินถึงสนามบิน 214 ราย เจ้าหน้าที่พาไปที่กักตัวที่สัตหีบ 14 วัน โดยส่งขึ้นรถบัสไปในเวลาเที่ยงคืน

810756

จากนั้น เวลา 23.00 น. สำนักการบินพลเรือนฯ ได้ออกประกาศด่วน สั่งห้ามทุกเที่ยวบินเข้าประเทศไทยเป็นการชั่วคราว 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 4-6 เม.ย. 63

618987

โดยเที่ยวบินที่คนไทยเดินทางกลับมา ประกอบด้วย เที่ยวบิน JL0031 จากญี่ปุ่น 73 คน, NH0847 จากญี่ปุ่น 18 คน, QR0832 จากการ์ต้า 11 คน, SQ0976 จากสิงค์โปร์ 44 คน, TG0641 จากญี่ปุ่น 12 คน

391134

ล่าสุด วันที่ 4 เม.ย. 63 เวลา 16.00 น. พล.อ.พรพิพิฒน์ เบญญศรี ผบ.สส., พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม., นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค ตัวแทนจากการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณี 152 คนไทยที่เดินทางมาจากต่างประเทศ แต่ไม่ยอมรับมาตรการกักตัว 14 วัน จนเกิดเหตุชุลมุนเมื่อคืนที่ผ่านมา

441538

พล.อ.พรพิฒน์ กล่าวยืนยันว่า การพาคนไทยที่กลับมาจากต่างประเทศไปกักตัวนั้น ยังเป็นไปตามมาตรฐานที่ได้กำหนดไว้ แต่เมื่อวานเป็นวันแรกที่มีการประกาศยกระดับสถานการณ์ฉุกเฉิน ห้ามออกนอกเคหะสถาน ทำให้ต้องยกระดับในการตรวจสอบผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการ ยอมรับว่ากระบวนการในการบริหารจัดการเมื่อวานอาจจะไม่ราบรื่น ทำให้ผู้โดยสารรอนานกว่าปกติ ซึ่งในวันนี้มีผู้โดยสารบางส่วนเดินทางมารายงานตัวแล้ว ตนก็ดีใจ และขอบคุณผู้ที่กลับมารายงานตัวด้วยความสมัครใจ

234559

ขณะที่ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ระบุว่า เตรียมเปิดเผยรายชื่อผู้ที่ไม่มารายงานตัว และจะถูกดำเนินคดี ในฐานความผิดฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.สาธารณะสุข โดยมีอัตราโทษ จำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่น หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมกับย้ำ ว่ารายชื่อทั้ง 152 คน อยู่ในมือเจ้าหน้าที่ทั้งหมดแล้ว นอกจากนี้ มีผู้มารายงานตัวแล้วล่าสุด 103 คน

846505

อย่างไรก็ตาม 152 คนที่หลบหนีไปนั้น กระจายไปยังจังหวัดต่าง ๆ ได้แก่ นนทบุรี 10 คน, อุบลราชธานี 5 คน, ปทุมธานี 7 คน, ชลบุรี 8 คน, กรุงเทพ 44 คน, เชียงใหม่ 4 คน, ราชบุรี 4 คน, สงขลา 4 คน, สมุทรปราการ 4 คน, ระยอง 4 คน, ร้อยเอ็ด 4 คน, ขอนแก่น 4 คน, นครสวรรค์ 3 คน, นครปฐม 3 คน, นครราชสีมา 3 คน, บุรีรัมย์ 3 คน, มหาสารคาม 3 คน, เชียงราย 3 คน, สมุทรสาคร 2 คน, ปราจีนบุรี 2 คน และยโสธร 2 คน

718691

น.ส.ตูน ผู้เดินทางมารายงานตัว เปิดใจว่า ตนเองไปเรียนที่ประเทศญี่ปุ่น และจบการศึกษาพอดี ประกอบกับวีซ่าหมด จึงตั้งใจจะเดินทางกลับมาบ้าน ตนเองเป็นผู้โดยสารไฟลท์แรกจาก 5 ไฟลท์ที่เดินทางมาถึง ซึ่งก่อนจะกลับ ตนเองก็ดำเนินการตามกระบวนการของสถานทูต เมื่อมาถึงก็เข้ารับการตรวจโรค ปรากฎว่าไม่มีไข้

776342

เจ้าหน้าที่ก็เชิญให้เข้าไปอยู่ในห้องรับรอง ยึดพาสสปอร์ตไป จนเวลาประมาณ 20.00 น. เริ่มมีคนโวยวายว่าเจ้าหน้าที่จะเอาอย่างไร ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ตอบไม่ได้ ทำให้รอโดยไม่รู้อะไรเลย ผ่านไปจนถึง 21.00 น. รวมเวลาประมาณ 5-6 ชม. เจ้าหน้าที่มาแจ้งว่าต้องถูกกักตัวในสถานที่ที่รัฐบาลจัดไว้ให้ ซึ่งจากข้อมูลที่อ่านมาคือสามารถกลับไปกักตัวที่บ้านได้ หลายคนจึงรับไม่ได้

ทั้งนี้ เรายินดีที่จะกักตัว แต่ทางเจ้าหน้าที่ต้องแจ้งเราก่อน ยืนยันว่าไม่ได้หนี แต่ทางเจ้าหน้าที่ให้เรากลับไปกักตัวที่บ้าน นอกจาก นี้คนที่ไม่อยากกักเพราะหลายคนบินกลับมาจากต่างประเทศก็จะมีพวกของมีค่าและเอกสารสำคัญต่าง ๆ การที่ต้องไปอยู่รวมกันอาจจะรู้สึกไม่สบายใจ

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส