เพื่อนเผยเหยื่อโควิดตายรายที่ 15 ขับรถสาธารณะที่สุวรรณภูมิ รู้เสี่ยงแต่เลี่ยงไม่ได้ ต้องทำมาหากิน (คลิป)

2 เม.ย. 63

วันที่ 2 เมษายน 2563 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19 ) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวัน ว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 104 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 1,875 ราย รักษาตัว 1,355 ราย อาการหนัก 23 ราย และรักษาหายแล้ว 505 ราย เสียชีวิตรายใหม่เพิ่ม 3 ราย รวมผู้เสียชีวิตรวม 15 ราย 

865719

สำหรับผู้เสียชีวิตรายที่ 1 คือ ชายอายุ 57 ปี เสียชีวิตบนรถไฟ มีประวัติเดินทางกลับจากปากีสถาน เมื่อวันที่ 29 มี.ค. เดินทางกลับสุไหงโกลก วันที่ 30 มี.ค.

รายที่ 2 ชายไทยอายุ 77 ปี มีโรคประจำตัว ถุงลมโป่งพอง สัมผัสผู้ป่วยก่อนหน้า เริ่มป่วยตั้งแต่วันที่ 158 มี.ค. รักษาที่ จ.ปัตตานี วันที่ 31 มี.ค.เสียชีวิต

695847

รายที่ 3 ชายไทยอายุ 55 ปี อาชีพขับรถสาธารณะที่สนามบินสุวรรณภูมิ ได้กลับสุรินทร์ วันที่ 15 มี.ค. โดยพักที่บ้านตลอด  16 มี.ค.เดินทางกลับมากทม. เริ่มมีไข้ ไอแห้ง ๆ ไม่มีน้ำมูก วันที่ 18 มี.ค. เริ่มป่วยและมีอาการเหนื่อยมากขึ้น เข้ารับการรักษาที่คลินิกแห่งหนึ่ง วันที่ 21 มี.ค.อาการทรุดไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง วันที่ 29 มี.ค.เข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง กระทั่งเสียชีวิตวันที่ 1 เม.ย.

916035

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมาที่สนามบินสุวรรณภูมิ สอบถาม นายบีม (นามสมมติ) อายุ 56 ปี เพื่อนผู้เสียชีวิตรายที่ 15 บอกว่า ผู้ตายประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่มาประมาณ 20 ปีแล้ว ครั้งล่าสุดที่เจอกับผู้ตายคือช่วงต้นเดือนมี.ค. แต่ไม่ได้ใกล้ชิดกัน กระทั่งผู้ตายได้หายตัวไปหลายสัปดาห์

จาการสอบถามเพื่อนที่ขับแท็กซี่ด้วยกันทราบว่า ผู้ตายไม่สบายและกำลังรักษาตัวอยู่ โดยบอกว่าโชคดีที่ไปตรวจแล้วไม่เป็นโควิดหลังจากนั้นก็เงียบหายไป และตนทราบเพียงว่าผู้ตายกลับบ้านที่จ.สุรินทร์ กระทั่งเมื่อวานนี้ช่วงเย็นทราบว่าเจ้าตัวเสียชีวิตแล้ว อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ารู้สึกตกใจมาก ทุกคนรู้ว่าเสี่ยงที่จะติดเชื้อแต่ต้องจำใจทำงานเพื่อหาเงิน แต่โชคดีที่ผู้ตายผ่อนรถแท็กซี่หมดไปแล้วและลูกหลานต่างก็มีงานทำเป็นหลักแหล่ง

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส