การรถไฟแห่งประเทศไทยได้รับการติดต่อกลับจากผู้โดยสารรายหนึ่งว่า ชายหนุ่มที่ถูกชายวัย 57 ปี ติดโควิด-19 ไอใส่ จะเข้าพบเจ้าหน้าที่เร็วๆ นี้ หลังเดินทางไปทำเรื่องเปลี่ยนตั๋วโดยสารให้กับเจ้าของตั๋วโดยสารตัวจริง
ตามที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย เผยแพร่ภาพกล้องวงจรปิด หน้าห้องขายตั๋วโดยสาร สถานีชุมทางบางซื่อ วันที่ 30 มีนาคม ขณะที่นายอนันต์ (สงวนนามสกุล) ซึ่งเสียชีวิตบนขบวนรถไฟ ใช้ไม้ค้ำเดินไปช่องขายตั๋ว และไอใส่ชายหนุ่มยืนอยู่ข้างหน้า ก่อนเดินไปอีกไปช่องขายตั๋วอีกช่อง และได้เดินสวนกับหญิงสาวเสื้อสีเหลืองในระยะประชิด เพื่อแจ้งให้บุคคลทั้ง 2 ไปพบแพทย์ ตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือกักตัว 14 วัน เพื่อดูอาการ หลังแพทย์แจ้งว่า ผู้เสียชีวิตติดเชื้อไวรัสโควิด19
ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ทีมข่าวเดินทางไปยังสถานีชุมทางบางซื่อ ซึ่งมีทั้งหมด 3 ชานชลา โดยวันนี้ยังมีผู้มาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่จะตรวจคัดกรองเข้มผู้โดยสารทุกคน (ตรวจวัดอุณหภูมิ-กรอกประวัติ) รวมทั้งนำเส้นขาว-แดง มากั้นช่องทางจำหน่ายตั๋ว เพื่อให้เข้า-ออกทางเดียวเท่านั้น
นายอภิชาติ พรมคำ นายสถานีชุมทางบางซื่อ บอกทีมข่าวว่า วันที่ 30 มีนาคมผ่าน นายอนันต์ ชายในคลิป ได้เดินทางมาที่สถานีชุมทางบางซื่อเพื่อเดินทาง ก่อนจะเดินสอบถามเวลาการเดินรถจากเจ้าหน้าที่ และได้ไอใส่ชายหนุ่มที่กำลังติดต่อเจ้าหน้าที่
ขณะเดียวกัน ตำรวจรถไฟได้เข้าตรวจสอบข้อมูลและภาพวงจรปิด ร่วมกับเจ้าหน้าที่สถานีชุมทางบางซื่อ ซึ่งล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้รับการติดต่อจากผู้โดยสารรายหนึ่งว่า ชายหนุ่มที่ถูกนายอนันต์ไอใส่ และเจ้าหน้าที่กำลังตามหาตัว เป็นญาติที่นำตั๋วรถไฟมาคืนแทนเจ้าของตั๋ว
โดยผู้โดยสารแจ้งว่า ชายหนุ่มคนดังกล่าวจะเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ เพื่อขอดูกล้องวงจรปิดว่าชายที่ปรากฏในคลิป ใช่บุคคลที่เจ้าหน้าที่ต้องการพบหรือไม่ เบื้องต้นแจ้งไว้ว่าจะมาวันนี้ แต่ขณะนี้ก็ยังไม่เดินทางมา
ทั้งนี้ หลังทราบว่านายอนันต์เสียชีวิตเพราะโควิด ได้สั่งกักเจ้าหน้าที่และผู้ที่ใกล้ชิด-สัมผัสผู้เสียชีวิต และทำความสะอาด ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อสถานีชุมทางบางซื่อ แล้ว
สำหรับ ไทม์ไลน์นายอนันต์ ก่อนจะเสียชีวิต
26 มีนาคม เดินทางกลับมาจากประเทศปากีสถาน
30 มีนาคม
14 นาฬิกาเศษ โดยสารแท็กซี่เขียวเหลือง(ไม่ทราบทะเบียน) มาชุมทางรถไฟบางซื่อ โดยมี วิน จยย. เข้าไปช่วยถือของ พาไปห้องน้ำ
พาไปนั่งพัก เก้านี้ฝั่งตรงข้ามห้องขายตั๋ว
14.55 น. เดินรอดเส้นกั้นขาว-แดง ไม่ผ่านจุดคัดกรอง ไปช่องขายตั๋ว-หมายเลข 3 เพื่อถามเวลาขบวนรถ และไอใส่ชายหนุ่ม ที่กำลังติดต่อเจ้าหน้าที่ และเดินไปช่องขายตัว-หมายเลข 1 เพื่อถามเวลา ก่อนเดินสวนหญิงสาวเสื้อสีเหลือง กลับไปนังเก้านี้ฝั่งตรงข้ามห้องขายตั๋ว
14.45 น. เดินผ่านจุดคัดกรอง โดยไม่ผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิ ขึ้นรถขบาน 31 ก่อนลงจากรถ เพราะขึ้นผิดขบวน
15.10 น. ออกเดินทาง จากชุมทางรถไฟบางซื่อ ปลายทางสุไหงโกลก โดยรถนอนปรับอากาศชั้น 2 ขบวนด่วนพิเศษทักษิณที่ 37 คันที่ 4 เลขที่ 28 (Fมีรายงานว่า วิน จยย และคนใบ้ช่วยถือของขึ้นรถ)
19.10 น. ขบวนรถถึงสถานีหัวหิน เจ้าหน้าที่สถานี นำเจ้าหน้าที่จุดคัดกรองขึ้นตรวจสอบผู้โดยสาร ตรวจวัดอุณหภูมิได้ 36 องศาเซลเซียส ไม่มีอาการไอหรืออาเจียน และแนะนำให้นายอนันต์ลงพักรักษาตัวที่สถานีหัวหิน แต่ผู้โดยสารยืนยันจะเดินทางต่อ
22.15 น. เจ้าหน้าที่บนขบวนรถพบนายอนันต์ ล้มหมดสติหน้าห้องน้ำ จึงแจ้งหยุดขบวนรถที่สถานีทับสะแก ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยท้องถิ่นขึ้นรถทำการช่วยเหลือ ก่อนจะได้รับแจ้งว่าผู้โดยสารเสียชีวิตแล้วและนำศพส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลทับสะแก ก่อนขบวนรถไฟออกเดินทางต่อ โดยปลดตู้โดยสารดังกล่าวออกจากขบวน และย้ายผู้โดยสารไปยังตู้โดยสารอื่นแทน
วันที่ 31 มีนาคม เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทับสะแก แจ้งว่าผู้โดยสารเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว คือโรค เบาหวาน และเจ้าหน้าที่เข้าฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อภายในตู้โดยสาร
1 เมษายน สาธารณสุขอำเภอทับสะแก แจ้งผลไม่เป็นทางการ ว่าพบเชื้อไวรัสโควิด-19 ในร่างผู้เสียชีวิต
หลังนายอนันต์ เสียชีวิต เพราะโควิด19 การรถไฟ สั่งหยุดงานพนักงานที่สัมผัสใกล้ชิดผู้เสียชีวิต ดังนี้
1 พนักงานสถานีชุมทางบางซื่อ 4 นาย คือ พนักงานขายตั๋วโดยสาร 2 นาย (ที่นายอนันต์ ยืนไอใส่ชายหนุ่ม และซื้อตัวโดยสาร) / ผู้ช่วยนายสถานีชุมทางบางซื่อและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
2 เจ้าหน้าที่ ประจำขบวนด่วนพิเศษทักษิณที่ 37 คันที่ 4 ถูกกักตัว 7 คน และตำรวจรถไฟประจำขบวน 1 นาย
3 เจ้าหน้าที่สถานีรถหัวหินและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กักตัว 8 นาย และสถานีทับสะแก ถูกกักตัว 1 7 นาย
ขณะที่ วิน จยย. ที่มาช่วยนายอนันต์ ถือของ หรือคนอื่นๆที่ได้ใกล้ชิด สัมผัสกับผู้เสียชีวิต ได้ถูกให้กักตัวดูอาการแล้ว
