จากการที่รัฐบาลเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อรับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท สำหรับลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากกิจการที่ต้องปิดตัวลง หรือจะหยุดชั่วคราว ผ่านทาง www.เราไม่ทิ้งกัน.com ซึ่งปรากฎว่ามีผู้ลงทะลุไปกว่า 22.9 ล้านคนแล้ว
อย่างไรก็ตามมีการกำหนดตัวเลขผู้ที่จะได้รับการช่วยเหลือออกมาแล้ว จากเดิม 3 ล้าน ขยายเป็น 9 ล้านคน ดังนั้นอีกสิบกว่าล้านคนจะถูกคัดออกตามเกณฑ์ของรัฐบาล
ใครบ้างจะถูกคัดออก
- คนที่ไม่ได้มีสัญชาติไทย
- คนที่อายุไม่ถึง 18 ปี เนื่องจากเกณฑ์เบื้องต้นเป็นผู้มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันลงทะเบียน แม้จะทำงานควบคู่ไปด้วยก็ตาม แต่จะมีมาตรการอื่นๆ ที่ดูแลตามา
- นักเรียน นักศึกษา ที่ยังมีสถานะนักเรียน นักศึกษาอยู่ แม้จะอายุเกิน 18 ปี แล้วก็ตาม
- ผู้ที่อยู่ในระบบประกันสังคม ยกเว้น
-เป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ( คือ ผู้ประกันที่ออกจากงาน แล้วส่งต่อเอง ) หรือ มาตรา 40 ( ผู้ประกันตนอาชีพอิสระ แต่เข้ามาสมัครประกันสังคม )
-เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 จะะต้องอยู่ในข่ายที่ส่งเงินเข้าประกันสังคมไม่ครบ 6 เดือน และได้รับผลกระทบจากโควิด-19 - ข้าราชการ ทั้งข้าราชการพลเรือนและอื่นๆ ที่ยังได้รับเงินเดือน
- ข้าราชการเกษียณอายุ และได้รับบำนาญ
- คนที่ไม่มีอาชีพ หรือคนที่ว่างงาน
- กรณีผู้สูงอายุ ถ้ามีอาชีพ เช่นค้าขายยังเข้าเกณ์ แต่ถ้าไม่ได้ทำงาน ไม่เข้าเกณฑ์
- กรณีลูกจ้างถูกลดเงินเดือน ต้องดูความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เราไม่เคยมีฐานข้อมูลมาก่อนเรื่องอาชีพอิสระ และเราต้องทำงานแข่งกับเวลา เพื่อไม่ให้เงินไปถึงประชาชนช้า หลักการของเราวันนี้เราแยกเป็นแรงงานในระบบทางประกันสังคมดูแล ส่วนไหนที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มประกันสังคมกระทรวงการคลังจะดูแล
ทั้งนี้นายลวรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า เบื้องต้นสี่กลุ่มอาชีพที่ผ่านเกณฑ์ที่ประเมินแล้วว่าได้รับผลกระทบแน่นอน และมีฐานข้อมูลอยู่ กลุ่มนี้ตรวจสอบง่าย ประกอบด้วย
1.ผู้ขายสลากกินแบ่งรัฐบาล
2.คนขับรถแท็กซี่
3.ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง
4.มัคคุเทศ
ส่วนกลุ่มที่มีความยากคือ ค้าขาย กับรับจ้าง อาจจะใช้เวลานานกว่ากลุ่มที่มีฐานข้อมูลแล้ว และอาจจะต้องขอข้อมูลพิ่ม เช่น ขอดูหน้าร้าน หรือลงไปดูในพื้นที่ และจะส่งฐานข้อมูลไปให้ไปรษณีย์ไทยช่วยเชค ว่าจริงไหม