จากรณีมูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมกู้ภัย อบต.วังกระโจม นำกำลังเข้าตรวจสอบเหตุมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านหลังหนึ่ง ต.วังกระโจม อ.เมือง จ.นครนายก พบศพนางเสาวณี กองแก้ว 69 ปี นอนเสียชีวิตภายในบ้านข้างตู้เสื้อผ้า
โดยมีลูกสาวนั่งร้องไห้กอดศพแม่อย่างเวทนา สภาพศพมีบาดแผลที่ศีรษะ ยาว 3-4 ซม. เลือดไหลทั่วพื้น มีแป้งทาที่หน้าและเสื้อ คาดว่าถูกรัดคอเนื่องจากมีรอยช้ำ ส่วนหัวไหล่ด้านขวามีรอยช้ำ จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครนายก เส้นผมมีลอยเลือดถูกลากจากประตูหน้าบ้าน คล้ายจะนำศพไปซ้อน
ล่าสุดวันที่ 1 เม.ย.63 น.ส.พิมณิภา กองแก้ว ลูกสาวของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนกลับมาจากทำงาน ก็พบนายสัน (ไม่ทราบนามสกุล) อายุประมาณ 50 ปี สามีใหม่ของแม่นอนอยู่ที่หน้าบ้าน ก็ไม่ได้สนใจอะไร จึงเดินเข้าไปในบ้าน ก็พบแม่นอนอยู่ เมื่อเดินไปดูก็พบว่าแม่เลือดไหลเต็มพื้น จึงร้องโวยวาย สามีใหม่ของแม่ก็บอกว่าไม่ได้ทำและวิ่งหนีไป จึงรีบแจ้งตำรวจ สามีใหม่ก็หลบหนีไปในป่าข้างบ้าน โดยแม่และสามีใหม่คบหากันมานานกว่า 10 ปีแล้ว แต่จะทะเลาะกันประจำ เพราะสามีใหม่ของแม่มักจะดื่มเหล้าจนเมา แล้วชอบหาเรื่อง และมีนิสัยชอบเล่นของพวกไสยศาสตร์ เนื่องจากศพของแม่มีรอยแป้งทาที่ใบหน้า
จากนั้น ตำรวจ สภ.เมืองนครนายก กำลังปิดล้อมพื้นที่ หลังได้ข้อมูว่า ผู้ก่อเหตุเดินเข้าไปป่าข้างบ้าน ก็พบบ้านร้าง ตรวจสอบภายใน พบรถจักรยานยนต์ ของผู้ก่อเหตุจอดอยู่ เมื่อตรวจสอบภายในบ้าน พบขนมปัง ยากันยุง กาแฟกระป๋องวางอยู่ สภาพเพิ่งจะซื้อมา
นายมลชัย เนียมรัตน์ อายุ 48 ปี หลานของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ช่วง 2-3 สัปดาห์ก่อน มีปัญหากัน สามีใหม่มีอาการเมาจะเข้ามาข่มขืนลูกสาวของผู้เสียชีวิต และขู่จะทำร้ายร่างกาย ตนยอมรับว่าโมโหมาก แต่ญาติได้ห้ามปรามไว้ว่าอย่าไปทำร้ายเขา จึงให้ญาติไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้ก่อน และให้นายสัน ออกจากบ้านมาอยู่บ้านร้างหลังดังกล่าวห่างไปประมาณ 50 เมตร เวลาทะเลาะก็จะไล่ไปนอนบ้านร้าง
อย่างไรก็ตาม ลูกสาวของผู้เสียชีวิตบอกว่า สภาพศพของนางเสาวณี คล้ายกับถูกตีที่ศีรษะด้วยขวดเหล้า ใช้ผ้ารัดคอจนเสียชีวิต และมีรอยลากเข้ามาในบ้านบริเวณหน้าห้องน้ำ คาดว่าจะอำพรางศพ หรือตั้งใจทำให้เข้าใจว่า ผู้เสียชีวิตหกล้มหัวกระแทกพื้นเสียชีวิต ตนทราบว่านายสัน เป็นชาวต่างด้าว ไม่มีบัตรประชาชน มาทำงานก่อสร้างในพื้นที่ ก่อนที่จะมาคบหากับผู้เสียชีวิต ซึ่งคนที่บ้านก็ไม่อยากให้คบกัน
