จากกรณีมีผู้ป่วยเสียชีวิตบนรถไฟขบวนรถด่วนที่ 37 บางซื่อ-สุไหงโกลกเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 31 มีนาคม ผู้เสียชีวิตคือ เป็นชายอายุ 57 ปี ชาว จ.นราธิวาส มีประวัติการเดินทางกลับจากประเทศปากีสถาน
ล่าสุด วันที่ 1 เม.ย. นายฐากูร อินทรชม ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเดินรถของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยผลการชันสูตรเบื้องต้นแพทย์สันนิษฐานว่าชายอายุ 57 ปี เสียชีวิตจากโรคประจำตัว แต่จากการตรวจคัดกรอง พบว่าชายคนดังกล่าวติดเชื้อโควิด19 ด้วย ทั้งนี้ต้องรอผลการตรวจซ้ำ และกระทรวงสาธารสุขจะแจ้งผลเป็นทางการอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามการรถไฟได้สั่งกักตัวเจ้าหน้าที่ซึ่งสัมผัส หรือใกล้ชิดผู้ป่วยทั้งหมด 14 วัน รวมทั้งสั่งให้นำรถขบวนที่ชายคนดังกล่าวเสียชีวิต ไปพ่นยาฆ่าเชื้อ และอบฆ่าเชื้อ และหยุดให้บริการสองวัน
ทั้งนี้ การรถไฟฯ ได้ประกาศงดเดินขบวนรถเชิงพาณิชย์ในเส้นทางสายใต้ สายเหนือ และสายตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อเป็นการควบคุมและป้องกัน รวมทั้งลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าวตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ประกาศใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม
โดยจะเริ่มงดเดินขบวนรถในเส้นทางดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์การจะคลี่คลาย อย่างไรก็ตาม ผู้โดยสารสามารถเดินทางกับขบวนรถที่มีความใกล้เคียงกับขบวนรถที่ถูกยกเลิกเพื่อเป็นการทดแทนได้ สำหรับขบวนรถที่งดเดินมีจำนวน 22 ขบวน ดังนี้