กรณี สภ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีชายคนหนึ่ง บุกเข้ามาในบ้านและพยามข่มขืนเด็กอายุ 4 ขวบ ภายในบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ นายมงคล บัวศรี อายุ 45 ปี ชาว จ.อ่างทอง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปดำเนินคดี พร้อมทั้งส่งตัวเด็กอายุ 4 ขวบ ไปตรวจร่างกายเพื่อใช้ประกอบสำนวนคดี
ล่าสุดวันที่ 28 มี.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางลงพื้นที่ย้อนกลับไปบ้านหลังเกิดเหตุ จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่าบ้านดังกล่าวอยู่ภายในซอยห่างจากถนนหมู่บ้าน มีรั้วรอบขอบชิด และยังมีประตูเปิดปิดที่แน่นหนา โดยภายในรั้วมีบ้าน 2 หลัง ซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียว 1 หลัง เป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัวเด็ก 4 ขวบ ส่วนบ้าน 2 ชั้น ที่อยู่ติดกัน ซึ่งเป็นบ้านหลังเกิดเหตุ อยู่ระหว่างการตกแต่งต่อเติม ยังไม่สามารถย้ายเข้าไปอยู่ ประกอบกับวันเกิดเหตุ ช่างที่เข้ามาต่อเติมบ้าน หยุด 1 วัน จึงทำให้ผู้ก่อเหตุ ย่องเข้ามาก่อเหตุหลังใช้บ้านหลังดังกล่าวข่มขืนเด็ก 4 ขวบ
นายบูม (นามสมมติ) อายุ 24 ปี พ่อของเด็ก 4 ขวบ พาทีมข่าวไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ซึ่งเตียงดังกล่าวมีเพียงฟูกวางไว้ เพราะอยู่ระหว่างปรับปรุงบ้าน โดยขณะที่ผู้ก่อเหตุหวังจะข่มขินลูกของตน บังเอิญว่าเตียงนอนดังกล่าวตรงกับหน้าต่างที่เปิดโล่งเอาไว้ ประกอบกับหน้าต่างบ้านดังกล่าวไปตรงกับบ้านที่แม่ของเด็กเลี้ยงลูกอีกคนอยู่ภายในบ้าน นายมงคล จึงได้อุ้มเด็ก 4 ขวบ ลงจากเตียงนอน แล้วตั้งใจที่จะข่มขืนบริเวณพื้นด้านล่าง โดยจุดดังกล่าวยังพบว่ามีรอยเท้านายมงคล ที่เปื้อนดินติดอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บไว้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีแล้ว
นายบูม เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายมงคล ได้ใช้โอกาสเข้ามาทำไม่ดีไม่ร้ายลูกสาวของตนในช่วงที่ไม่มีใครอยู่ในบ้าน เพราะออกไปทำงานนอกบ้านกันทั้งหมด โดยที่บ้านมีเพียงแฟนสาวและยายเท่านั้น ซึ่งช่วงเวลาเกิดเหตุประมาณ 17.30 น. ของวันที่ 27 มี.ค.63 นายมงคล ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่รั้วหน้าบ้าน จากนั้นลูกสาววัย 4 ขวบ เข้าใจว่าเป็นบุรุษไปรษณีย์ จึงตะโกนบอกแม่ว่า "เดี๋ยวหนูจะออกไปรับไปรษณีย์" เพราะโดยปกติลูกสาวมักจะออกไปเป็นคนรับไปรษณีย์เป็นประจำ โดยในวันดังกล่าวก็คิดว่าเป็นบุรุษไปรษณีย์ แต่เมื่อไปถึงก็ได้เปิดประตูรั้ว นายมงคล ผลักประตูรั้วเข้ามาแล้วถามลูกสาวว่า “ที่บ้านมีใครอยู่บ้าง” จากนั้นนายมงคล ก็ทราบว่าบ้านอีกหลังกำลังปรับปรุงซ่อมแซม ไม่มีช่างและไม่มีคนอาศัยอยู่ จึงพาลูกสาวเข้าไปที่บ้านหลังดังกล่าวและหวังจะข่มขืน
ภายหลังที่นายมงคล พาลูกสาวเข้าไปภายในบ้าน 2 ชั้น ได้อุ้มตัวลูกสาวขึ้นไปนอนบนเตียง หวังจะกระทำไม่ดี แต่จังหวะนั้นเชื่อว่านายมงคล เห็นว่าหน้าต่างปิดไม่ได้ แล้วหน้าต่างบานดังกล่าว ไปตรงกับบ้านที่แม่ของลูกสาวอาศัยอยู่ จึงได้อุ้มลูกสาวลงไปนอนที่พื้น เพราะจุดดังกล่าวค่อนข้างลับตาคน จากนั้นก็ได้ถอดกางเกงลูกสาวพร้อมกับกางเกงของตัวเอง กำลังจะข่มขืนลูกสาว ลูกสาวอยู่ในอาการสั่นและกลัว ไม่ได้ตะโกนหรือร้องเสียงดัง แฟนสาวสงสัยว่าลูกหายไปไหน จึงได้ตะโกนเรียกหา จนมาพบว่านายมงคล กำลังจะข่มขืนลูกสาว จากนั้นนายมงคลก็ตกใจ รีบใส่กางเกงแล้ววิ่งออกจากบ้าน
จังหวะเดียวกันกับที่นายมงคลกำลังวิ่งออกบ้าน ตนได้กลับมาถึง เพราะเพิ่งกลับจากที่ทำงาน โดยนายมงคลได้สวนทางกับตนก่อนออกประตูรั้ว แฟนสาวตะโกนว่า “พี่จับมันไว้ มันข่มขืนลูกเรา” โดยยอมรับว่านายมงคลถือว่าเป็นคนฉลาด หลังจากที่เข้าไปภายในบ้านได้แล้ว ได้เอากุญแจปิดรั้วเอาไว้ เพื่อไม่ให้คนข้างนอกเข้ามาภายในบ้านได้
นายบูม บอกว่า ส่วนตัวอยากจะให้กฎหมายดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะไม่อยากให้นายมงคลไปก่อเหตุกับใครอีก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่าไม่ใช่เหตุการณ์สุดท้าย ดังนั้นอยากให้ตำรวจเอาเรื่องให้ถึงที่สุด อย่าปล่อยให้ออกไปก่อเหตุกับลูกหลานคนอื่น ส่วนอาการล่าสุดของลูกสาว แม้ว่าจะอยู่กับแม่แล้วคนในครอบครัวอย่างใกล้ชิด แต่ก็มีอาการหวาดผวา กลัวคนแปลกหน้า และที่สำคัญจากเด็กที่เป็นคนร่าเริง กลายเป็นคนเงียบครึ้ม ส่วนตัวก็รู้สึกสงสารลูกสาว เพราะเจอกับเหตุการณ์ที่โหดร้ายสำหรับเด็ก 4 ขวบมาก
นายมงคล ให้การรับสารภาพอ้างว่า ตั้งใจมาเพื่อจะซื้อของเก่า เพราะมีอาชีพรับซื้อของเก่า แต่ตัวเองไม่ปักใจเชื่อ เพราะการแต่งกาย รวมถึงอุปกรณ์ที่อ้างว่าเป็นคนซื้อของ ไม่มีอยู่จริง จึงเชื่อได้ว่านายมงคลตั้งใจที่จะมาก่อเหตุดังกล่าวกับลูกสาว เพราะจากการสอบถามข้อมูลจากเพื่อนบ้าน ทราบว่านายมงคล ได้ขี่รถเวียนดูหลายครั้งแล้ว ประมาณ 3 วัน จึงได้เข้ามาก่อเหตุกับลูกสาว แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าโชคดี ที่แฟนสาวเข้ามาเห็นเหตุการณ์ได้ทัน นายมงคลยังไม่ทันได้มีการสอดใส่ เพราะไม่เช่นนั้นตนก็จะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต
ส่วนความคืบหน้าทางคดี วันที่ 29 มี.ค.63 ที่สภ.พระนครศรีอยุธยา ตำรวจได้ควบคุมตัวนายมงคล ผู้ก่อเหตุอนาจารเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี โดยพบว่ายังไม่มีญาติที่อาศัยอยู่ใน จ.อ่างทอง เดินทางมาเยี่ยมหรือขอประกันตัวแต่อย่างใด เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา 2 ข้อ ได้แก่ 1.บุกรุกเคหสถานโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.กักขังหน่วงเหนี่ยว ส่วนข้อหาอนาจารเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจรอผลตรวจร่างกายเด็ก และให้ครอบครัวของเด็ก 4 ขวบ แจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวน สภ. พระนครศรีอยุธยา ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติของนายมงคล เคยก่อเหตุพื้นที่ จ.ปทุมธานี คดีอนาจารเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี แล้วผลปรากฏว่ากระทำการสำเร็จ จากนั้นได้หลบหนีกระทั่งทราบว่าก่อเหตุอีกครั้งในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ดังนั้นตำรวจจึงได้มีการคัดค้านการประกันตัว และควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดีในข้อหาอนาจาร พร้อมกับข้อหาอื่น ๆ
