เปิดไทม์ไลน์ผู้เสียชีวิตโควิด-19 รายที่ 6 หมอคาดป่วยเบาหวานให้กลับ สุดท้ายพบเชื้อกินปอดดับ (คลิป)

28 มี.ค. 63

วันที่ 28 มี.ค.63 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงถึงสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ในประเทศไทย โดยมีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อเพิ่ม 109 ราย จำนวนป่วยสะสมอยู่ที่ 1,245 ราย รักษาตัวที่โรงพยาบาล 1,139 ราย อาการหนัก 17 ราย กลับบ้าน 100 ราย และมีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมเป็น 6 ราย 

862611

คนไทยที่ติดเชื้อโควิด-19 จนเสียชีวิตมีทั้งหมด 6 ราย ในขณะนี้ โดยรายที่ 1 ชาย อายุ 35 ปี พนักงานขายสินค้า เสียชีวิต 29 ก.พ.63 

รายที่ 2 ชาย อายุ 70 ปี คนขับรถทัวร์ เสียชีวิต 23 มี.ค.63 

รายที่ 3 ชาย อายุ 79 ปี เซียนมวย เสียชีวิต 24 มี.ค.63

รายที่ 4 ชาย อายุ 45 ปี ผู้จัดการสถานบันเทิง เสียชีวิต 24 มี.ค.63 

รายที่ 5 ชาย อายุ 50 ปี กลับจากประกอบพิธีทางศาสนา ที่มาเลเซีย เสียชีวิต 26 มี.ค.63

รายที่ 6 หญิง อายุ 55 ปี เสียชีวิต 27 มี.ค.63 

103137

ไทม์ไลน์ของผู้เสียชีวิตรายที่ 6 คือ ผู้หญิงชาว กทม. อายุ 55 ปี เป็นผู้ป่วยเบาหวาน โดยวันที่ 12 มี.ค.63 อาการเบาหวานกำเริบเข้าแอดมิดที่โรงพยาบาล วันที่ 16 มี.ค.63 มีอาการเหนื่อยหอบ วันที่ 19 มี.ค.63 อาการดีขึ้น แพทย์ให้ออกจากโรงพยาบาล วันที่ 20-22 มี.ค.63 รักษาตัวอยู่ที่บ้าน 

455719

และเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลอีกที ในวันที่ 23 มี.ค.63 หลังมีอาการอ่อนแรง หายใจไม่ออก แต่ไม่มีไข้ วันเดียวกันแพทย์ส่งตัวเข้าห้องไอซียู ตรวจหาเชื้อโควิด-19 วันที่ 25 มี.ค.63 ผลตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 วันที่ 26 มี.ค.63 อาการเริ่มทรุดลงเรื่อย ๆกระทั่งเสียชีวิตช่วงบ่ายวันที่ 27 มี.ค. ที่ผ่านมา

713843

ส่วนครอบครัวของผู้เสียชีวิตรายที่ 6 ที่เสี่ยงติดเชื้อ คือ สามีของผู้เสียชีวิตขณะนี้อยู่ระหว่างกักตัวและรอผลตรวจ และลูกชายยังไม่ได้ตรวจหาเชื้อ เพราะอาศัยอยู่คนละบ้าน  

คนในครอบครัวของหญิงที่เสียชีวิตรายที่ 6 บอกว่า ลูกชายได้ไปเยี่ยมผู้เสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.63 ซึ่งวันนั้นหมอได้ให้ผู้เสียชีวิตใส่หน้ากากอ๊อกซิเจน ซึ่งก็มีอาการดีขึ้นจริง กระทั่งวันที่ 19 มี.ค.63 หมอสั่งให้กลับบ้านเพราะไม่เข้าค่ายติดเชื้อโควิด แต่หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ป่วยอีกรอบ ก่อนจะไปตรวจจนพบว่าติดเชื้อโควิด หมอแจ้งว่าปอดถูกทำลายจนหมด โดยหมอได้ให้ยาต้านแล้วแต่ไม่เป็นผล 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส