ตำรวจชี้ ศพหญิงเปลือยท่อนล่าง เพราะล้มหัวฟาด ญาติยังปักใจถูกฆ่าเจอรอยช้ำคอ-แขน (คลิป)

จากกรณีพี่สาวของน.ส.วานิสา ทองเทพ อายุ 32 ปี ร้องเรียนสื่อว่าน้องสาวถูกทำร้ายร่างกายภายในห้องพัก อพาร์ตเม้น บ้านไทย ต.สนามจันทร์ อ.เมือง จ.นครปฐม เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 6 มี.ค.63 ที่ผ่านมา

โดยพี่สาวให้ข้อมูลว่าเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 8 มี.ค.63 เพื่อนของผู้ตายแต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงไปตามแม่บ้านให้มาเปิดประตูห้องของผู้ตาย เมื่อเข้าไปในห้องพบนอนหายใจรวยรินระเบียงหลังห้อง สภาพเปลือยท่อนล่าง ตามร่างกายมีรอยเขียวช้ำ มีที่ศีรษะบวมปูด เหมือนถูกกระแทกด้วยของแข็ง จนเลือดคั่งในสมอง และพักรักษาตัวที่อยู่ที่ รพ.ศูนย์นคาปฐม และเสียชีวิตในวันที่ 25 มี.ค.63

ทั้งนี้ ในที่เกิดเหตุที่ริมระเบียงห้องยังพบรอยเท้า 1 รอย คาดว่าน่าจะเป็นของคนร้ายที่ปีนมาจากทางบันไดหนีไฟ ซึ่งอยู่ติดกับห้องของน้องสาว เพื่อก่อเหตุข่มขืน เนื่องจากไม่พบทรัพย์สินในห้องสูญหาย

วันที่ 28 มี.ค.63 พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรสีนวล ผกก.สภ.เมืองนครปฐม เปิดเผยว่า ภายหลีงจากเกิดเหตุ ได้มีการสอบสวนญาติ ซึ่งทางญาติปักใจเชื่อว่าผู้ตายอาจจะถูกข่มขืน โดยผู้ต้องสงสัยอาจจะเป็นช่างทาสีที่กำลังทาสีอพาร์ทเม้นใหม่ เนื่องจากสภาพผู้บาดเจ็บในตอนนั้นไม่ได้สวมกางเกง ประกอบจากการสอบปากคำพยานพบว่าในคืนวันที่ 7 มี.ค.63 ได้ยินเสียงคล้าย ๆ คนลากเก้าอี้ และมีเสียงคล้ายอะไรล้มดัง "ตึง!!!" ซึ่งพยานก็จำไม่ได้ว่าเสียงไหนเกิดขึ้นก่อนกัน

แต่จากการตรวจสอบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ไม่พบรอยนิ้วมือ หรือลายนิ้วมือแปลกปลอม ไม่มีดีเอ็นเอผู้อื่นในที่เกิดเหตุ ไม่มีร่องรอยการข่มขืน จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดไม่มีปรากฎภาพคนร้ายเข้าไปในห้องที่เกิดเหตุ ส่วนในห้องที่เกิดเหตุไม่มีร่อยรอยการรื้อค้น ไม่มีทรัพย์สินสูญหาย

เบื้องตนเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ตายอาจจะมีอาการที่เกิดจากโรคประจำตัว หรืออาจจะลื่นล้มแล้วหัวไปฟาดเข้ากับของแข็งอะไรสักอย่าง และพยายามที่จะออกมาขอความช่วยเหลือที่ริมระเบียงแต่ไม่มีใครรู้จึงได้เกิดเหตุที่น่าสลดขึ้น ในเบื้องตนทางญาติได้รับศพไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาที่จ.นครพนม

ด้าน นางสาวนิตยา ทองเทพ อายุ 34 ปี พี่สาวของผู้ตาย เปิดเผยว่า หลังเห็นน้องสาวนอนหมดสติที่โรงพยาบาล แพทย์บอกกับตนว่าน้องสาวมาถึงโรงพยาบาลช้าเกินไป ถึงจะได้รับการผ่าตัดแล้ว แต่ยังมีเลือดคลั่งในสมองมากเป็นเหตุให้เสียชีวิต

แต่ตนสงสัยว่าทำไมนอนสาวถึงนอนเปลื่อยท่อนล่างที่ริมระเบียง และมีรอยช้ำตามร่างกาย แต่เท่าที่ตนสอบถามแพทย์ น้องสาวไม่มีร่องรอยการถูกข่มขื่น ตนไม่ได้สงสัยว่าใครเป็นคนร้าย ถึงแม้ว่ากล้องวงจรปิดภายในอพาร์ตเม้นจะเสีย แต่ตนเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถจับตัวคนร้ายได้โดยเร็ว

เท่าที่ตนได้ฟังมาจากชาวบ้านในพื้นที่อพาร์ตเม้น ในวันเกิดเหตุน้องสาวของตนกำลังกลับจากร้านข้าวแกงที่เปิดใหม่แถวศาลายา และในเวลาประมาณเที่ยงคืนถึงตี 3 ของวันที่ 8 มีนาคม ผู้ที่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเม้นชั้น 2 ได้แจ้งผู้ดูแลตึกว่า ได้ยินเสียงผู้หญิงกับผู้ชายทะเลาะกัน ผู้ดูแลตึกจึงได้โทรศัพท์ไปหาน้องสาวของตน แต่ไม่มีคนรับ

สำหรับการสูญเสียในครั้งนี้ ถือเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ เพราะน้องสาวคือเสาหลักของครอบครัว และคุณแม่วัย 55 ปี ยังทำใจไม่ได้ หากจับคนร้ายได้เมื่อไร ตนอยากจะไปดูหน้าคนร้ายและถามคนร้ายว่า "เพราะอะไรถึงทำขนาดนี้"