กรณีนางจันทนา อายุ 43 ปี พร้อมกับลูกสาว อายุ 7 ขวบ เดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ อ้างว่าถูกนายคุณาธิป หรือ ฝัน อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นบูกชาย ใช้น้ำแกงสาดใส่หน้า และใช้ไม้ทุบตีทำร้ายน้องสาว อายุ 7 ขวบ ซึ่งนางจันทนา คาดว่าสาเหตุเกิดจากอาการคลั่งยาเสพติดของลูกชาย จึงลงมือก่อเหตุทำร้ายคนในครอบครัว
ล่าสุดวันที่ 26 มี.ค.63 ทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านหลังเกิดเหตุ ซึ่งอยู่หน้าวัดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ พบว่าไม่มีบ้านเลขที่ ลักษณะเป็นเพิงพักชั่วคราว 3 ห้อง อาศัยอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ จำนวนทั้งสิ้น 7 คนด้วยกัน
นางจันทนา ผู้เป็นแม่ซึ่งได้รับบาดเจ็บ พาทีมข่าวเดินสำรวจบริเวณหน้าห้องจุดเกิดเหตุ พร้อมกับชี้ชามใส่น้ำแกงที่นายคุณาธิป ใช้สาดใส่ใบหน้า โดยขณะนั้นนางจันทนา ออกไปขอต้มจืดใส่ฟักที่วัดใกล้บ้านเพื่อนำมาอุ่นร้อนเตรียมให้นายคุณาธิปในมื้อกลางวัน แต่ระหว่างนั้นนายธนาธิป เกิดอาการคลั่งจากยาเสพติด แสดงท่าทางโมโหและไม่พอใจอาหารที่เตรียมไว้ให้ จึงสาดน้ำแกงใส่หน้าของนางจันทนา ทำให้เกิดเป็นแผลน้ำร้อนลวก
นางจันทนา ยืนยันว่า ไม่รู้ว่าทำไมนายคุณาธิป ต้องทำร้ายคนในครอบครัว โดยเฉพาะตนเและลูกสาวคนเล็ก วัย 7 ขวบ แต่ก็เชื่อว่าเป็นเพราะฤทธิ์ยาเสพติด เพราะหากนายคุณาธิป ไม่เสพยาก็เป็นปกติ ไม่ได้อยู่ในอาการคลั่งแต่อย่างใด
นางจันทนา ยังบอกอีกว่า ตนต้องเผชิญกับพฤติกรรมของนายคุณาธิป ด้วยการถูกทำร้ายร่างกายมาโดยตลอด ทั้งการถูกทุบตีและจิกผม แต่ด้วยเพราะเป็นลูกในไส้ จึงไม่ต้องการเอาผิดหรือแจ้งความ แต่ครั้งที่ถูกทำร้ายหนักที่สุดผ่านมาเมื่อ 3 ปีก่อน ครั้งนั้นนายคุณาธิป ลงมือทำร้ายตนด้วยการใช้กำปั้นชกเข้าที่เบ้าตาจนเขียวช้ำ ทำให้ต้องแจ้งความและตำรวจได้จับตัวลูกชายไปบำบัด เพราะไม่เช่นนั้นก็จะเป็นอันตรายต่อคนในครอบครัว
ทั้งนี้ภายหลังตำรวจจับกุมตัวนายคุณาธิป ไปดำเนินคดี พร้อมกับรับปากว่าจะส่งไปบำบัด นางจันทนาก็รู้สึกดีใจ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะดีขึ้นหรือไม่ หวังเพียงว่านายคุณาธิป จะกลับตัวกลับใจเป็นคนดี กลับออกมาไม่ก่อเหตุทำร้ายใครอีก ที่สำคัญถ้านายคุณาธิป ไม่ปรับปรงุตัว ตนก็จะต้องถูกทำร้ายแบบนี้ต่อไป ต้องเจ็บตัวและทนนอนร้องไห้ที่ลูกอาจจะลงมือทุบตีตนอีกในอนาคต
น้องสาวซึ่งถูกนายคุณาธิป ใช้ไม้ไผ่แห้งตีแขนขวาจนเป็นรอยช้ำเขียว ก่อนหน้านี้เห็นพี่ชายทุบตีแม่มาโดยตลอด ไม่คิดว่าวันนี้จะไม่พอใจและหยิบไม้มาทุบตีตน ทั้งนี้พี่ชายมักมีอารมณ์ที่ฉุนเฉียวเป็นประจำ ก็รู้สึกกลัวต่อการใช้ความรุนแรง
ขณะเดียวกันนางฉลวย อายุ 60 ปี ผู้เป็นยาย เปิดเผยว่า ตนเห็นพฤติกรรมของหลานชายที่ทำร้ายร่างกายเป็นประจำแบบนี้มาโดยตลอด แต่ก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปห้ามปราม เพราะกลัวว่าจะถูกลูกหลง เนื่องจากตนเองมีอายุมาก ไม่สามารถสู้แรงของวัยรุ่นได้ ยกเว้นบางครั้งที่บ้านมีหลานอีกคน ซึ่งเป็นวัยรุ่นด้วยกัน ก็จะเข้าไปห้ามปรามเป็นครั้งคราว แต่โดยส่วนใหญ่นายคุณาธิป มักจะก่อเหตุ เนื่องจากมีอาการคลั่งจากฤทธิ์ยาเสพติด
นางฉลวย ระบุว่า ปกติแล้วนายคุณาธิป เป็นเด็กขยันคนหนึ่ง แต่ไม่รู้ทราบว่าระยะหลังเกิดอะไรขึ้น หรือเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติดหรือไม่ ทำให้เปลี่ยนไปค่อนข้างมากและมีอารมณ์รุนแรงไม่พอใจใครก็จะทำร้ายร่างกายทันที โดยเฉพาะแม่และน้องสาววัย 7 ขวบ ต้องถูกทำร้ายบ่อยครั้ง ส่วนตัวก็รู้สึกสงสารหลานที่ถูกทุบตีจนเป็นรอยเขียวช้ำ ทั้งนี้นายคุณาธิป ไม่กล้าทำร้ายตน เพราะตนเคยขู่ว่าหากทำร้ายตนมีบาดแผล จะแจ้งความจับติดคุกทันที ทำให้นายคุณาธิป ไม่กล้าทำร้ายคนอื่น นอกจากแม่และน้องของตัวเอง
นางฉลวย กล่าวอีกว่า หลังจากที่นายคุณาธิป ถูกจับไปบำบัดและดำเนินคดี ครอบครัวมีความอุ่นใจมากขึ้น เพราะไม่ต้องค่อยหวาดระแวงและเป็นห่วงว่าใครจะถูกทำร้ายซ้ำอีก ดังนั้นจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยบำบัด กลับตัวกลับใจออกมาเป็นคนดี แต่ถ้าออกมาแล้วยังเป็นเหมือนเดิมก็ไม่อยากให้กลับออกมา