เตรียมรับเงิน 5 พันบาท 3 เดือน รัฐแจกเยียวยาโควิด ลงทะเบียนง่ายผ่านเว็บ “เราไม่ทิ้งกัน” (คลิป)

25 มี.ค. 63

เมื่อเวลา 14.00 น. 24 มี.ค. 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่ารัฐบาลจะประกาศใช้ พระราชกำหนดการบริหาราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยจะเริ่มใช้บังคับใช้ในวันพฤหัสบดีที่ 26 มี.ค. 63 นี้

772105

ทั้งนี้ จะมีการตั้งศูนย์อำนวยแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน โควิด-19 หรือ ศอฉ.โควิด-19 เพื่อยกระดับการทำงานด้านการป้องกัน มาตรการต่าง ๆ โดย ครม.และทุกภาคส่วนจะมีการประชุมทุกเช้าเวลา 09.00 น. เพื่อติดตามผลการดำเนินงาน และวางแผน แก้ปัญหา

ประชาชนมีเวลาเตรียมตัว 2 วันก่อนการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยขอให้กักตัวอยู่ภายในบ้าน อย่าเพิ่งเดินทางกลับภูมิลำเนา โดยทางการจะตั้งด่าน จุดสกัดต่าง ๆ เพื่อป้องกันการเคลื่อนย้ายของประชาชน หากไม่มีการร่วมมืออาจจะต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ต่อไป

สำหรับเงินช่วยเหลือประชาชนนั้น ได้มีการเตรียมไว้ให้แล้วทุกกลุ่ม ทั้งกลุ่มประกันสังคม, กลุ่มผู้ใช้แรงงานต่างๆ ส่วนการกักตุนสินค้า เก็งกำไรต่าง ๆ อาจจะมีการดำเนินคดีเพิ่มเติมมากขึ้น เพื่อป้องกันการขายสินค้าราคาแพง เอารัดเอาเปรียบประชาชน

876585

สำหรับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2548 มีใจความสำคัญคือ 

มาตรา ๙

ในกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินให้ยุติลงได้โดยเร็ว หรือป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงมากขึ้น ให้นายกรัฐมนตรีมีอำนาจออกข้อกำหนด ดังต่อไปนี้

1_3

(๑) ห้ามมิให้บุคคลใดออกนอกเคหสถานภายในระยะเวลาที่กำหนด เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นบุคคลซึ่งได้รับยกเว้น

2_2

(๒) ห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใด ๆ หรือกระทำการใดอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย

3_2

(๓) ห้ามการเสนอข่าว การจำหน่าย หรือทำให้แพร่หลายซึ่งหนังสือ สิ่งพิมพ์ หรือสื่ออื่นใดที่มีข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว หรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสถานการณ์ฉุกเฉินจนกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ทั้งในเขตพื้นที่ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหรือทั่วราชอาณาจักร

4_1

(๔) ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ หรือกำหนดเงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ

5

(๕) ห้ามการใช้อาคาร หรือเข้าไปหรืออยู่ในสถานที่ใด ๆ

6

(๖) ให้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่ที่กำหนดเพื่อความปลอดภัยของประชาชนดังกล่าว หรือห้ามผู้ใดเข้าไปในพื้นที่ที่กำหนด

ข้อกำหนดตามวรรคหนึ่ง จะกำหนดเงื่อนเวลาในการปฏิบัติตามข้อกำหนด หรือเงื่อนไขในการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือมอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่กำหนดพื้นที่และรายละเอียดอื่นเพิ่มเติม เพื่อมิให้มีการปฏิบัติที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนเกินสมควรแก่เหตุก็ได้

มาตรา ๑๑

ในกรณีที่สถานการณ์ฉุกเฉินมีการก่อการร้าย การใช้กำลังประทุษร้ายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สิน หรือมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า มีการกระทำที่มีความรุนแรงกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยในชีวิตหรือทรัพย์สินของรัฐหรือบุคคล และมีความจำเป็นที่จะต้องเร่งแก้ไขปัญหาให้ยุติได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที ให้นายกรัฐมนตรี โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี มีอำนาจประกาศให้สถานการณ์ฉุกเฉินนั้นเป็นสถานการณ์ที่มีความร้ายแรง และให้นำความในมาตรา ๕ และมาตรา ๖ วรรคสอง มาใช้บังคับโดยอนุโลม

เมื่อมีประกาศตามวรรคหนึ่งแล้ว นอกจากอำนาจตามมาตรา ๗ มาตรา ๘ มาตรา ๙ และมาตรา ๑๐ ให้นายกรัฐมนตรีมีอำนาจดังต่อไปนี้ด้วย

(๑) ประกาศให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจจับกุมและควบคุมตัวบุคคลที่สงสัยว่า จะเป็นผู้ร่วมกระทำการให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือเป็นผู้ใช้ ผู้โฆษณา ผู้สนับสนุนการกระทำเช่นว่านั้น หรือปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ทั้งนี้ เท่าที่มีเหตุจำเป็นเพื่อป้องกันมิให้บุคคลนั้นกระทำการหรือร่วมมือกระทำการใด ๆ อันจะทำให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรง หรือเพื่อให้เกิดความร่วมมือในการระงับเหตุการณ์ร้ายแรง

(๒) ประกาศให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งเรียกให้บุคคลใดมารายงานตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือมาให้ถ้อยคำ หรือส่งมอบเอกสารหรือหลักฐานใดที่เกี่ยวเนื่องกับสถานการณ์ฉุกเฉิน

(๓) ประกาศให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งยึดหรืออายัดอาวุธ สินค้า เครื่องอุปโภคบริโภค เคมีภัณฑ์ หรือวัตถุอื่นใด ในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยว่า ได้ใช้หรือจะใช้สิ่งนั้นเพื่อการกระทำการหรือสนับสนุนการกระทำให้เกิดเหตุสถานการณ์ฉุกเฉิน

(๔) ประกาศให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งตรวจค้น รื้อ ถอน หรือทำลายซึ่งอาคาร สิ่งปลูกสร้าง หรือสิ่งกีดขวาง ตามความจำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อระงับเหตุการณ์ร้ายแรงให้ยุติโดยเร็ว และหากปล่อยเนิ่นช้าจะทำให้ไม่อาจระงับเหตุการณ์ได้ทันท่วงที

(๕) ประกาศให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งตรวจสอบจดหมาย หนังสือ สิ่งพิมพ์ โทรเลข โทรศัพท์ หรือการสื่อสารด้วยวิธีการอื่นใด ตลอดจนการสั่งระงับหรือยับยั้งการติดต่อหรือการสื่อสารใด เพื่อป้องกันหรือระงับเหตุการณ์ร้ายแรง โดยต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษโดยอนุโลม

(๖) ประกาศห้ามมิให้กระทำการใด ๆ หรือสั่งให้กระทำการใด ๆ เท่าที่จำเป็นแก่การรักษาความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยของประเทศ หรือความปลอดภัยของประชาชน

(๗) ประกาศให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งห้ามมิให้ผู้ใดออกไปนอกราชอาณาจักร เมื่อมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า การออกไปนอกราชอาณาจักรจะเป็นการกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประเทศ

(๘) ประกาศให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งการให้คนต่างด้าวออกไปนอกราชอาณาจักร ในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า เป็นผู้สนับสนุนการกระทำให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ทั้งนี้ โดยให้นำกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองมาใช้บังคับโดยอนุโลม

(๙) ประกาศให้การซื้อ ขาย ใช้ หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งอาวุธ สินค้า เวชภัณฑ์ เครื่องอุปโภคบริโภค เคมีภัณฑ์ หรือวัสดุอุปกรณ์อย่างหนึ่งอย่างใดซึ่งอาจใช้ในการก่อความไม่สงบหรือก่อการร้าย ต้องรายงานหรือได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือปฏิบัติตามเงื่อนไขที่นายกรัฐมนตรีกำหนด

(๑๐) ออกคำสั่งให้ใช้กำลังทหารเพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองหรือตำรวจระงับเหตุการณ์ร้ายแรง หรือควบคุมสถานการณ์ให้เกิดความสงบโดยด่วน ทั้งนี้ ในการปฏิบัติหน้าที่ของทหาร ให้มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับอำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชกำหนดนี้ โดยการใช้อำนาจหน้าที่ของฝ่ายทหารจะทำได้ในกรณีใดได้เพียงใด ให้เป็นไปตามเงื่อนไขและเงื่อนเวลาที่นายกรัฐมนตรีกำหนด แต่ต้องไม่เกินกว่ากรณีที่มีการใช้กฎอัยการศึก

เมื่อเหตุการณ์ร้ายแรงตามวรรคหนึ่งยุติลงแล้ว ให้นายกรัฐมนตรีประกาศยกเลิกประกาศตามมาตรานี้โดยเร็ว

858384

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่ตรวจสอบ การใช้ชีวิตของกลุ่มพ่อค้า แม่ค้า ย่านห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร พบว่าหลายร้านให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยมีการปรับตัวตามนโยบายของรัฐบาล ไม่ให้มีที่นั่งในร้านแต่ใช้วิธีซื้อใส่ถุงกลับบ้านแทน เช่นเดียวกับประชาชนก็เริ่มคลายกังวลลงไปมาก หลังร้านอาหารส่วนใหญ่ยังเปิดขายตามปกติ 

457486

ส่วนบรรยากาศที่เมืองพัทยา ร้านค้าร้านอาหารบางส่วนยังเปิดให้บริการตามปกติ แต่นักท่องเที่ยวรวมถึงลูกค้าบางตากว่าที่ผ่านม โดยเฉพาะที่ walking street ซึ่งเป็นสถานประกอบการผับบาร์ ในขณะนี้ถูกสั่งปิดทั้งหมด โดยบรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา มีเพียงร้านขายของที่ระลึกและร้านสะดวกซื้อที่เปิดตามปกติ

988570

ขณะที่ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่จะบังคับใช้ในวันที่ 26 มีนาคม 2563 ขณะนี้ไม่อยากให้มีการลือและเผยแพร่รายละเอียด เพราะ เป็นเพียงการเห็นชอบในหลักการเท่านั้น

ซึ่งมีรายละเอียดถึงมาตรการ เช่น การกำหนดไม่ให้เข้าพื้นที่เสี่ยง การปิดพื้นที่เสี่ยง การเดินทางข้ามจังหวัด การปิดช่องทางข้ามแดน ยังไม่ได้มีการกำหนดเวลาการเข้าออกจากบ้าน และชาวต่างชาติยังเดินทางเข้าออกประเทศไทยได้ แต่หลังจากนี้จะมีการพิจารณาอีกครั้ง และจะแถลงผ่านศูนย์ข้อมูลโควิด-19 เท่านั้น

610708

ด้าน นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ระบุว่า รัฐบาลเตรียมมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสานพันธุ์ใหม่ หรือ “โควิด-19” ในระยะที่ 2

โดยจะสนับสนุนเงิน คนละ 5 พันบาทต่อเดือน เป็นเวลา 3 เดือน (เมษายน-มิถุนายน) ซึ่งผู้ที่จะได้รับเงินสนับสนุนดังกล่าว ต้องเป็นแรงงานลูกจ้าง ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระที่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม จากการปิดพื้นที่เสี่ยงต่อการระบาดชั่วคราว ซึ่งคาดว่ามีจำนวน 3 ล้านคน โดยจะต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการ Setup ระบบอยู่โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้ลงทะเบียนได้ในวันเสาร์ที่ 28 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป

สำหรับผู้อยู่ในระบบประกันสังคมจะเพิ่มสิทธิกรณีว่างงาน 50% ของค่าจ้าง โดยกรณีแรกนายจ้างไม่ให้ทำงาน กรณีนี้จะรับเงินไม่เกิน 180 วัน กรณีที่สอง กรณีรัฐสั่งหยุด รับเงินไม่เกิน 90 วัน

490526

นอกจากนี้ รัฐบาล ยังจัดสรรสินเชื่อ ฉุกเฉิน 10,000 บาทต่อราย : วงเงินรวม 40,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 0.1 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือน ไม่ต้องมีหลักประกัน โดยธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สนับสนุนสินเชื่อวงเงินรวม 40,000 ล้านบาท (ธนาคารออมสิน 20,000 ล้านบาท และ ธ.ก.ส. 20,000 ล้านบาท) ระยะเวลากู้ ไม่เกิน 2 ปี 6 เดือน ปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 เดือน รับคำขอสินเชื่อถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2563

344671

สินเชื่อพิเศษ 50,000 บาทต่อราย โดยธนาคารออมสินสนับสนุนสินเชื่อ วงเงิน 20,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 0.35 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือน มีหลักประกัน ระยะเวลากู้ไม่เกิน 3 ปี รับคำขอสินเชื่อถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2563

223937

สำนักงานธนานุเคราะห์ รับจำนำดอกเบี้ยต่ำ เพื่อช่วยเหลือประชาชนฐานรากที่ได้รับผลกระทบ โดยธนาคารออมสินสนับสนุนเงินทุนดอกเบี้ยต่ำวงเงินรวม 2,000 ล้านบาท ให้แก่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในนามของสำนักงานธนานุเคราะห์ (สธค.) คิดดอกเบี้ยจากประชาชนในอัตราไม่เกิน 0.125 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือน ระยะเวลา 2 ปี

321507

ยืดการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เลื่อนกำหนดเวลาการยื่นแบบและชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาออกไป จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2563 เป็นสิ้นสุดวันที่ 31 สิงหาคม 2563

และฝึกอบรมมีเงินใช้เพิ่มทักษะอาชีพหรือจัดกิจกรรมเพื่อสังคม รวมถึงนักศึกษาที่ยังหางานไม่ได้, ขยายฝึกอบรมผ่านภาคีเครือข่าย เช่น มูลนิธิโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือกองทุนหมู่บ้าน

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส