เมื่อวันที่ 24 มี.ค.63 นายวิรุฬ พรรณเทวี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ รับการมอบหมายจาก นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะ ผอ.ศูนย์ข้อมูลข่าวสารเฉพาะกิจจังหวัดเชียงใหม่ (ศ.ข.ฉ.ก) แถลงข่าวพร้อมกับ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และ นพ.กิตติพันธุ์ ฉลอม แพทย์เวชศาสตร์ป้องกัน ด้านระบาดวิทยาสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่
นพ.กิตติพันธุ์ เปิดเผยว่า สถาการณ์พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จ.เชียงใหม่ ข้อมูลเวลา 11.00 น. วันที่ 24 มี.ค.63 ยังไม่พบการติดเชื้อของผู้ป่วยเพิ่ม ทำให้ขณะนี้มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมทั้งหมด 13 ราย กลับบ้านแล้ว 1 ราย และยังคงรักษาที่โรงพยาบาล 12 ราย ไม่มีผู้ป่วยหนักต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ และไม่มีผู้เสียชีวิต ส่วนจำนวนผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังโรคสะสมทั้งหมด 490 คน ตรวจไม่พบเชื้อสามารถกลับบ้านได้ 366 คน และอยู่ในโรงพยาบาลเพื่อรอดูอาการ 124 คน ซึ่งผลตรวจนั้นก็ออกมาแล้วมาส่วนใหญ่ไม่พบเชื้อ แต่ก็ต้องกักตัวเพื่อตรวจดูอย่างละเอียด
ในส่วนของการเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงโรคระบาด ซึ่งขณะนี้มีข้อมูลอยู่ 470 คน โดยมีผู้ที่เดินทางกลับมากักตัวอยู่ที่บ้าน 102 คน และอยู่ในศูนย์กักกันที่ทางรัฐได้จัดไว้ให้จำนวน 9 คน อยู่ในระหว่างการติดตามตัว 26 คน คนที่กักตัวครบ 14 วันแล้วทั้งหมด 333 ราย
อย่างไรก็ตามขณะนี้ในพื้นที่จ.เชียงใหม่ ได้ประกาศล็อกดาวน์เมืองไปจนถึงวันที่ 13 เม.ย.63 เวลา 24.00 น. จะมีการบังคับใช้มาตรการสั่งปิดพื้นที่บางส่วนในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ยกเว้นซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายยา ธนาคารเปิดตามปกติ และร้านอาหารให้จำหน่ายแบบกลับบ้านเท่านั้น ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เน้นย้ำประชาชนยังไม่ต้องกักตุนอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ตยังเปิด ร้านอาหารเปิด แต่ให้จำหน่ายแบบกลับบ้าน ตลาดสดของแห้งยังเปิด มาตรการคล้ายกรุงเทพฯ
ทั้งนี้ฝากไปยังพ่อแม่พี่น้องประชาชน หากไม่จำเป็นก็ขอให้เก็บตัวอยู่ภายในบ้าน เพื่อเป็นการป้องกันตัวเอง แต่หากมีความจำเป็นจริง ๆ ก็ขอให้มีหน้ากากอนามัย เจลล้างมือติดตัวไว้ เพื่อเป็นการลดการติดเชื้อและลดการแพร่ระบาดของโรคร้าย