เปิดใจแม่ค้าร้านยำปะทะตำรวจจับต่างด้าว แต่ขอยำปูม้า ผกก.ปัดเป็นลูกน้อง โยน 191 สอบ (คลิป)

22 มี.ค. 63

กรณีคลิปเหตุการณ์ที่แชร์กันบนโลกออนไลน์ โดยเหตุเกิดขึ้นที่ร้านยำแห่งหนึ่งย่านรัชดา แม่ค้าสาวเดือดจัดไลฟ์สดฉะเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังอัดอั้นตันใจมานาน เมื่อถูกตำรวจบุกเข้ามาขอปูม้าและมะม่วงกลับไปที่โรงพัก อ้างว่าจะใช้เป็นของกลางและจะใส่กุญแจมือ แม่ค้าจึงสวนกลับว่าตนเองไม่ได้ทำผิดกฎหมายและไม่กลัวติดคุก เพราะแรงงานต่างด้าวมีใบอนุญาตถูกต้อง และบัตรยังไม่หมดอายุ ตามที่เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์นั้น 

940173

ล่าสุดวันที่ 22 มี.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางไปยังร้านยำดังกล่าว ย่านรัชดา ซึ่งพบว่าเปิดอยู่ตรงข้ามร้านสะดวกซื้อกลางซอย โดยสังเกตจากป้ายหน้าร้าน ระบุว่า เปิดขายยำทุกชนิด เช่น ปูม้า กุ้งสด หอยแครง และหอยนางรม ส่วนใหญ่จะมีลูกค้าประจำมานั่งทานที่ร้าน และจะเปิดขายออนไลน์

โดยวันนี้จากการลงพื้นที่พบว่า ร้านดังกล่าวไม่ได้เปิดให้บริการ เนื่องจากเจ้าของร้าน คือ น.ส.เยาวลักษณ์ วงษ์ประเสริฐ หรือ "เจ๊หวาน" อายุ 30 ปี หวั่นเกรงว่าจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้ามาที่ร้าน ประกอบกับเป็นช่วงที่หน่วยราชการออกมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 

546120

เจ๊หวาน เจ้าของร้านยำดังกล่าว เปิดเผยว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุ ตนได้พบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นตำรวจ 191 โดยขอดูบัตรการทำงานของแรงงานต่างด้าว แต่ตนได้ดำเนินการถูกต้องตามกฏหมาย และต่ออายุตามที่กระทรวงแรงงานกำหนด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอดูเอกสาร แต่อยู่ระหว่างการดำเนินการยื่นเอกสาร เพราะเป็นช่วงที่ใกล้จะครบกำหนด ทั้งนี้แม้จะดำเนินการต่อบัตร แต่บัตรก็ยังใช้งานได้ไม่หมดอายุ

ภายหลังจากที่ตำรวจ 2 นายมาถึง ก็ไม่ได้สนใจที่จะพูดคุยหรือชี้แจงอะไร เพียงแต่ถามหาเอกสาร ตนได้แจ้งกลับว่าอยู่ระหว่างการดำเนินการต่ออายุ กับกระทรวงแรงงาน ซึ่งตำรวจไม่ได้ฟังความ พยายามจะควบคุมตัวแรงงาน 2 คนขึ้นรถด้วยการใส่กุญแจมือ พร้อมสั่งให้ปิดร้านทันที จึงเกิดการถกเถียงกันตามที่ปรากฏภายในคลิปไลฟ์สดดังกล่าว 

เจ๊หวาน ยังเผยว่า ร้านขนมครกของเพื่อนสนิทตนต้องปิดตัวลง เพราะก่อนหน้านี้มีตำรวจบุกมาจับและให้เสียค่าปรับกว่า 100,000 บาท เพียงเพราะเจ้าของร้านไม่อยู่ และปล่อยให้ลูกจ้างต่างด้าวขายเพียงลำพัง ประกอบกับตนเคยถูกหลอกในการต่ออายุการทำงานให้แรงงานต่างด้าว หมดเงินกว่า 90,000 บาท เป็นเหตุให้ตนต้องไลฟ์สดเถียงกับตำรวจ

อย่างไรก็ตาม เจ๊หวาน กล่าวทิ้งท้ายว่า การไลฟ์สดครั้งนี้เป็นความอัดอั้นตันใจ ตำรวจเปลี่ยนประเด็นมาขอให้ทางร้านทำยำปูม้า 2 ตัว อ้างว่าจะนำไปเป็นหลักฐาน ตนจึงไม่สามารถที่จะให้กับตำรวจได้ เพราะเป็นของซื้อของขาย ตนก็ไม่ได้กระทำผิด ทำทุกอย่างถูกต้อง จึงไม่ได้เกรงกลัวต่อการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ดังกล่าว แต่ก็มีความกังวลเล็กน้อยว่าจะถูกดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาท แต่ก็ไม่ได้มีความผิด เพราะถือว่ายังคงทำถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ

412648

ขณะเดียวกันทีมข่าว ไเ้พูดคุยกับนายเรียง (นามสมมติ) แรงงานชาวไทยใหญ่ ซึ่งประจำอยู่ที่ร้านยำของเจ๊หวาน เปิดเผยว่า ช่วงกลางคืนวันที่ 21 มี.ค.63 ยืนยันว่ามีตำรวจ 2 นาย เข้ามาขอตรวจบัตรทำงาน ตนจึงแจ้งกลับว่าขอเวลา 10 นาทีเพื่อกลับไปที่พัก แต่ตำรวจไม่ยอมให้กลับ และยังบังคับให้ขึ้นรถพร้อมกับจะใส่กุญแจมือ ซึ่งเจ๊หวานเจ้าของร้าน พยายามอธิบาย เกี่ยวกับเอกสาร และการต่ออายุบัตรต่างด้าวอย่างถูกต้อง แต่ทางตำรวจไม่ยอมฟัง จึงเป็นที่มาของการโต้เถียงดังกล่าว 

816806

หลังจากที่ตำรวจเปลี่ยนประเด็นจากการขอตรวจบัตรต่างด้าว ตำรวจได้สั่งให้ยึดปูม้า จำนวน 2 ตัว พร้อมกับมะม่วงที่สับเสร็จแล้ว ใส่ถุงให้กับตำรวจ โดยอ้างว่าจะนำไปเป็นหลักฐาน ซึ่งส่วนตัวก็ยังรู้สึกตกใจ ทำไมตำรวจต้องการปูม้าและมะม่วงติดมือไปด้วย ทั้ง ๆ ที่ตำรวจได้ถ่ายรูปเก็บไว้เรียบร้อยแล้ว

นายเรียง บอกกับทีมข่าวอีกว่า ตนไม่ได้กังวลเกี่ยวกับการบุกตรวจดังกล่าว เพราะสามารถยืนยันได้ว่าทำถูกต้องตามกฏหมาย มีใบอนุญาต และตอนนี้แม้ว่ายังจะไม่หมด แต่นายจ้างก็กำลังดำเนินการต่ออายุให้ ซึ่งส่วนตัวไม่ได้หลบหนีเข้าเมือง หรือทำอะไรผิด จึงไม่ได้กลัว แต่พร้อมให้ตรวจสอบ

968487

น.ส.ธีรรินทร์ ศุภวัฒนาวรานนท์ แม่ค้าขายเครปญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามร้านยำ ให้ข้อมูลว่า ตนเห็นข้อความข้างรถตำรวจว่า “สายตรวจ” ขับมาจอดที่หน้าร้านของตน จากนั้นตำรวจ 2 นาย เดินลงมาจากรถและตรงไปที่ร้านของเจ๊หวาน ทำทีไปขอตรวจบัตรอนุญาตทำงานแรงงานต่างด้าว โดยส่วนตัวเชื่อว่าตำรวจแกล้งสั่งยำเพื่อจะขอตรวจบัตร

แต่หลังจากนั้น เมื่อเจ๊หวาน เห็นว่า แรงงานที่จ้างมาทำงานทำถูกต้องตามกฏหมาย จึงได้มีการโต้เถียงซึ่งเป็นไปตามคลิป โดยตำรวจที่มาขอตรวจ ไม่ใช่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หรือตำรวจจากโรงพักพื้นที่ แต่อ้างตัวเองว่าเป็นตำรวจ 191 จึงทำให้ตำรวจจับเจ๊หวานโต้เถียงกันไปมา

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เกิดเพียงครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้สังเกตว่าตำรวจ 2 นายที่มา ยังเคยขอตรวจร้านอื่นที่มีแรงงานต่างด้าว และเรียกปรับแม่ร้านในละแวกนี้ไปหลายร้าน ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามาจากหน่วยงานไหน แล้วใช้อำนาจอะไรในการเรียกปรับ แต่ส่วนตัวก็รู้สึกโชคดี ที่เปิดขายโดยไม่ได้ใช้แรงงานต่างด้าว จึงไม่ได้ถูกเรียกตรวจ

474889

หลังจากนั้นทีมข่าวได้ตรวจสอบไปยังโรงพักพื้นที่รับผิดชอบ แต่อย่างไรก็ดี พ.ต.อ.ภูริส จินตรานันท์ ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า ตนทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่กลุ่มเจ้าหน้าที่ที่ปรากฏภายในคลิปไม่ใช่คนของ สน.ห้วยขวาง ซึ่งข้อเท็จจริงจะต้องตรวจสอบไปยัง 191 เพราะในคลิปได้แสดงตัวชัดเจนว่าเป็นหน่วยงานสังกัดใด

 

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส