"พิธา" ชี้พรรคเพื่อไทยควรได้สิทธิ์ชี้แจง "คำร้องทักษิณครอบงำ" ยันบทลงโทษยุบพรรคไม่ควรมี 2 มาตรฐาน เผยคนรัฐประหารโทษหนักกว่าครอบงำพรรค
กรณีคำร้องยื่นยุบพรรคเพื่อไทย จากเหตุนายทักษิณ ชินวัตร ครอบงำพรรค ซึ่งล่าสุด ประธานคณะกรรมการารเลือกตั้ง ได้เตรียมพิจารณานำ 4 คำร้อ มารวมกันนั้น
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ว่า ต้องดูกระบวนการร้องนั้น ต้องได้สัดส่วน ซึ่งไม่ควรนำมาใช้ในคำร้องการยื่นยุบพรรคการเมือง ส่วนที่ว่านายทักษิณ เรื่องครอบงำพรรคหรือไม่ ตนไม่เกี่ยว แต่ในภาพใหญ่ไม่ควรให้พรรคการเมืองที่มาจากประชาชนต้องตายโดยองค์กรอิสระได้ เพราะมันจะเกิดคำถามว่า องค์กรอิสระมีที่มาจากไหน ความโปร่งใสและความรับผิดชอบเป็นอย่างไร เรื่องนี้ต้องพิจารณาความเหมาะสมของสัดส่วนกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับบทลงโทษ ถ้าถูกครอบงำจริง บทลงโทษก็ควรได้สัดส่วนตามระดับของความผิด ไม่ใช่ทุกเรื่องจะต้องถูกยุบพรรคหมด ตนคิดว่าไม่เป็นไปตามหลักการและสามัญสำนึก
ส่วนรายละเอียด ตนไม่สามารถตอบได้ทั้งหมดเพราะยังไม่ได้อ่านคำร้อง แต่บทลงโทษต้องเป็นไปตามสัดส่วนความผิด ขณะเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญหรือ องค์กรที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญมีหน้าที่ปกปักษ์รัฐธรรมนูญ การเกิดรัฐประหาร โทษควรจะหนักกว่าการครอบงำพรรค ทำไมคนทำรัฐประหารไม่เห็นได้รับโทษเลย
ส่วนกรณีที่นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต. ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า กกต.มีระเบียบรวมข้อเท็จจริงและหลักฐานข้อ 7 วรรค 2 ระบุว่าจะต้องเปิดโอกาสให้ผู้ถูกร้องมารับทราบข้อเท็จจริง และมีโอกาสแสดงความคิดเห็นและเสนอเอกสารหลักฐานประกอบการพิจารณานั้น เมื่อย้อนไปเทียบเคียงการพิจารณาคำร้องยุบพรรคก้าวไกล มีความเหมือนหรือแตกต่างอย่างไร นายพิธา ให้ความเห็นว่าในส่วนของพรรคก้าวไกลตอนนั้นมีข้อต่อสู้ ไม่มีโอกาสได้ชี้แจงตามระเบียบใหม่ที่เกิดขึ้นหลังยุบพรรคอนาคตใหม่ ตอนนี้ระเบียบดังกล่าวได้เกิดขึ้นแล้ว พรรคเพื่อไทยควรได้มีโอกาสชี้แจง เพราะถ้าได้ชี้แจง เรื่องจะจบที่ก.ก.ต. ไม่ถึงศาลรัฐธรรมนูญ พรรคเพื่อไทยมีสิทธิ์ได้รับสิทธิ์ เพราะเป็นระเบียบที่ทุกพรรคการเมืองควรจะได้รับระเบียบนั้น อย่างที่ตนเคยอ่านถ้อยแถลงพรรคก้าวไกลว่า การพิจารณายุบพรรค ไม่ควรมี 2 มาตรฐาน ไม่ควรมีการยุบพรรคแบบทางด่วน และไม่ควรมีการยุบพรรคแบบทางธรรมดา และการให้พรรคชี้แจงเป็นสิทธิ ไม่ไปผูกขาดอำนาจของ กกต.
ส่วนสถานการณ์พรรคเพื่อไทยที่ถูกรุมเร้าด้วยปัญหา ทำให้มีวิเคราะห์ว่าพรรคเพื่อไทยอาจชิงยุบสภาก่อน นายพิธา กล่าวว่า เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีด้วย การเมืองย่อมเกิดขึ้นได้หมด ผมเคยคุยกับนักวิชาการต่างชาติว่าอายุรัฐบาลอยู่ได้ประมาณ 1 ปีครึ่ง ถ้าไม่ใช่รัฐบาลเกิดจากการเผด็จการ และตอนนี้อยู่ในห้วงเวลาที่เกิดขึ้นได้ และคิดว่า ทุกพรรคการเมืองที่เชื่อมโยงกับประชาชนก็พร้อมที่จะเลือกตั้ง เพราะอุบัติเหตุทางการเมืองย่อมเกิดขึ้นได้