ตำรวจ ปคบ.เผยยอดผู้เสียหายดิไอคอนกรุ๊ปสอบปากคำแล้ว 635 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 232.4 ล้าน
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) แจ้งความคืบหน้าการดำเนินการคดี The Icon Group (14 ต.ค.2567 ยอดผู้เสียหาย หลอกลวงลงทุน ของ บริษัท “ดิไอคอนกรุ๊ป” ที่มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ณ ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม วันที่ 10 – 13 ตุลาคม 2567 มีดังนี้
- วันที่ 10 ตุลาคม 2567 ผู้เสียหายที่สอบปากคำแล้ว จำนวน 91 ราย มูลค่าความเสียหาย 35.4 ล้านบาทเศษ
- วันที่ 11 ตุลาคม 2567 ผู้เสียหายที่สอบปากคำแล้ว จำนวน 148 ราย มูลค่าความเสียหาย 54.7 ล้านบาทเศษ
- วันที่ 12 ตุลาคม 2567 ผู้เสียหายที่สอบปากคำแล้ว จำนวน 198 ราย มูลค่าความเสียหาย 71.9 ล้านบาทเศษ
- วันที่ 13 ตุลาคม 2567 ผู้เสียหายที่สอบปากคำแล้ว จำนวน 198 ราย มูลค่าความเสียหาย 70.4 ล้านบาทเศษ
รวมยอดผู้เสียหายที่สอบปากคำแล้ว ระหว่างวันที่ 10 – 13 ตุลาคม 2567 จำนวน 635 ราย มูลค่าความเสียหายรวม 232.4 ล้านบาทเศษ
ขณะที่วันนี้ มีผู้ลงทะเบียนเข้าแจ้งความ ยอด ณ เวลา 15.00 น. มีประมาณ 300 คน
ทั้งนี้ จำนวนผู้เสียหายและความเสียหายรวม อาจไม่ตรงกับที่ได้มีการแจ้งข้อมูลไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากตรวจสอบแล้ว ผู้เสียหายบางรายขอเดินทางกลับไปแจ้งที่ภูมิลำเนา จึงมีการปรับปรุงตัวเลข ซึ่งขณะนี้คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนเตรียมรับมอบคำให้การจากสถานีตำรวจทั่วประเทศเพื่อมาประกอบข้อมูลของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่คาดว่าจะส่งมาถึงในวันเปิดทำการวันอังคารที่ 15 ตุลาคม 2567
วันที่ 13 ตุลาคม 2567 คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ได้เข้าตรวจสอบบริษัทเป้าหมายเพื่อจัดเก็บข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย (Server) ของบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด และ บริษัทในเครือ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อหาความเชื่อมโยงทางคดี
วันนี้ (14 ตุลาคม 2567) คุณกรรชัย กำเนิดพลอย และ คุณกัน จอมพลัง เดินทางมาที่ศูนย์รับแจ้งเหตุการหลอกลงทุนฯ โดยพาผู้เสียหายมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน และประชาสัมพันธ์ให้ผู้เสียหายเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มขึ้นเพื่อเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ทั้งนี้คุณบอย ปกรณ์ เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ประกาศจุดยืนชัดเจนพร้อมจะอยู่ฝั่งผู้เสียหาย และจะรวมผู้เสียหายในส่วนของคุณบอยมาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนด้วย
นอกจากนี้ในส่วนของผู้แทนแพทยสภา ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน กรณี นายฐานานนท์ หรือ “บอสหมอเอก” ดิไอคอน กรุ๊ป อ้างตนเป็นแพทย์ แต่พบว่าเป็นนักประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ และใบประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์หมดอายุ ซึ่งจากการตรวจสอบรายชื่อแพทย์จากฐานข้อมูลแพทยสภา พบว่า “บอสหมอเอก” ไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมแต่อย่างใด โดยต่อจากนี้ทางคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนจะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน และออกหมายเรียกมาดำเนินคดีในความผิดที่เกี่ยวข้องต่อไป
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ตลอดจนคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนทุกนาย อยู่ระหว่างเร่งรัดการรวบรวมข้อมูลทั้งจากการสอบปากคำผู้เสียหาย ข้อมูลจากฝ่ายสืบสวน และข้อมูลจากวัตถุพยานต่างๆ และเมื่อได้รับการสอบปากคำผู้เสียหายจากสถานีตำรวจทั่วประเทศแล้ว จะรีบดำเนินการและแถลงความคืบหน้าในครั้งต่อไป