ตำรวจสอบสวนกลาง ตามรวบเจ้าหน้าที่รัฐ หลบหนีเก่ง หลังก่อเหตุลักทรัพย์เงินหลวงไปกว่า 10 ล้าน เจ้าตัวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
วันที่ 12 ต.ค. 67 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) จับกุม นายพรชัย หรือ นายปารย์ปรีชา อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสีคิ้ว ที่ 107/2567 วันที่ 19 ส.ค. 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน, ลักทรัพย์โดยทำอันตราสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์, ลักทรัพย์ในเคหสถาน สถานที่ราชการ, เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน”
สถานที่จับกุม ตลาดแห่งหนึ่ง ต.หนองกอมเกาะ อ.เมือง จ.หนองคาย สืบเนื่องจากเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ได้มีหน่วยงานผู้เสียหายประสานขอความช่วยเหลือมายังกองบังคับการปราบปราม เพื่อให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐได้ก่อเหตุลักทรัพย์ไปกว่า 10 ล้านบาท และเนื่องจากเคยเป็นอดีตชุดปฏิบัติการพิเศษ มีความรู้ความสามารถในการใช้อาวุธได้เป็นอย่างดี มีความรู้เรื่องยุทธวิธี และเกรงว่าจะเกิดอันตราย ว่าที่ พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป. จึงได้สั่งการ พ.ต.ต.อาธิรัตน์ ทิพย์เจริญ สว.กก.3 บก.ป. ทำการสืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีโดยด่วน
จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาเป็นข้าราชการระดับสูง มีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องการเบิก-จ่าย งบประมาณในแต่ละเดือน มีหน้าที่ในการรับมอบอำนาจให้ไปเบิกถอนเงินสด ใช้โอกาสนี้ลักเอาเงินที่ทำการเบิกถอนในแต่ละครั้ง นำมาใช้ส่วนตน ซึ่งการถอนแต่ละครั้ง จำนวน 2-4 ล้านบาทต่อเดือน กระทั่งต้นเดือนก.ค. 2567 เจ้าหน้าที่ชุดภายในตรวจสอบ พบว่าช่วงกลางปี 2566 – เดือนก.ค. 2567 มีเงินงบประมาณ ได้หายไปกว่า 10 ล้านบาท และก่อนที่นายพรชัยจะหลบหนี ได้แอบงัดห้อง ผบ.เรือนจำ เอาฮาร์ดแวร์ wallet เก็บธุรกรรมการเงินของเรือนจำติดตัวไปด้วย จึงได้ร้องทุกข์ดำเนินคดีในท้องที่เกิดเหตุ พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับต่อศาล และศาลอนุมัติตามคำขอในเวลาต่อมา
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ทำการขยายผล พบนายพรชัย มีพฤติการณ์หลบหนีเก่ง มีการใช้บัญชีม้า 10 กว่าบัญชี พบมีการเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ทุกสัปดาห์ หลังเกิดเหตุได้หลบหนีไปชายแดนมุกดาหาร ภายหลังได้ทำการเปลี่ยนชื่อใหม่ เพื่อทำพาสปอร์ตข้ามไปฝั่ง สปป.ลาว แบบ Border past เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมลงพื้นที่เช็คหน้าด่าน ปรากฏว่าช่วงหลบหนีมีการเข้า-ออก เป็นประจำหลายครั้ง 3 วัน เข้ามาไทยที ภายหลังทราบว่ามีเจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัว จึงได้หลบหนีไป จ.หนองคาย เพื่อที่จะข้ามไปยัง สปป.ลาว ได้ง่ายเราจึงได้ใช้เครื่องมือพิเศษ และจากฐานข้อมูล Big data ในการติดตามตัวผู้ต้องหา ภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์ ในการติดตามตัวตั้งแต่ จ.กาฬสินธุ์ เดินทางไป จ.มุกดาหาร ข้ามฝั่งประเทศเพื่อนบ้านไป-กลับ แต่ถูกติดตามตัว จนหนีไป จ.หนองคาย จนกระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป. ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.เมืองหนองคาย เข้าจับกุมตัว
นายพรชัย ได้ที่ตลาดแห่งหนึ่ง ต.หนองกอมเกาะ อ.เมือง จ.หนองคาย ขณะที่ภรรยาจะนำเงินสดไปให้นายพรชัย ก่อนจะข้ามไปฝั่งสปป.ลาว จากการสอบถามเบื้องต้น นายพรชัย ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา มีพฤติการณ์ขัดขืน ไม่ยอมให้ข้อมูล จากนั้นจึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองไผ่ เพื่อดำเนินคดี ตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวนเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา