ร้องไม่พัก! "เรืองไกร" เอาคืน ปชป. ร้อง นายกรัฐมนตรี ตรวจภาษี "เฉลิมชัย-เดชอิศม์" เสียโดยถูกต้องหรือไม่ หลังอดีต สส.ปชป.ร้องกรมสรรพากรเล่นงานก่อน
วันที่ 9 ต.ค. 67 นาย เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า เมื่อวานมีอดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ไปร้องกรมสรรพากรให้ตรวจสอบการเสียภาษีของตนย้อนหลังตั้งแต่เป็นสมาชิกวุฒิสภานั้น กรณีนี้ จึงเป็นเหตุให้ต้องตรวจสอบภาษี สส. และรัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยเช่นกัน
นายเรืองไกร กล่าวว่า วันนี้ ตนจึงส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS ถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ทำการตรวจสอบรัฐมนตรีจำนวน 2 คนของพรรคประชาธิปัตย์ว่ามีการเสียภาษีอากรตามที่กฎหมายบัญญัติ ตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 50 (9) ประกอบประมวลรัษฎากรโดยถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ โดยมีความในหนังสือเป็นข้อๆ ดังนี้
ข้อ 1. เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2567 เวลา 06.39 น. เว็บไซต์ Sanook.com หัวข้อ เจาะทรัพย์สิน เดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ รวยไม่เบา ได้ลงข่าวเกี่ยวกับบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน รวมทั้งรายได้ของนายเดชอิศม์ กรณีเข้ารับตำแหน่ง สส.พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2566 รายละเอียดข่าวปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย
ข้อ 2. เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2567 เวลา 10.34 น. เว็บไซต์ Sanook.com หัวข้อ ส่องทรัพย์สิน นาย เฉลิมชัย ศรีอ่อน นักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ รวยฟู่ฟ่าได้ลงข่าวเกี่ยวกับบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน รวมทั้งรายได้ ของนายเฉลิมชัย กรณีพ้นจากตำแหน่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2566 รายละเอียดข่าวปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย
ข้อ 3. เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2567 ปรากฏข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ว่า มีอดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ รายหนึ่ง ไปยื่นหนังสือพร้อมแนบสำเนาข่าวที่กล่าวอ้างต่อกรมสรรพากร โดยมีความพอสรุปได้ว่า เพื่อขอให้กรมสรรพากรตรวจสอบการเสียภาษีของนายเรืองไกร ย้อนหลัง ตั้งแต่เป็นสมาชิกวุฒิสภาว่ามีรายได้ดังกล่าวจริงหรือไม่ เสียภาษีถูกต้องหรือไม่ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติต่อไปนั้น
ข้อ 4. จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ รายนี้ น่าจะยังเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์อยู่ แต่กลับไม่ทำการตรวจสอบรัฐมนตรีหรือ สส. ของพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้นเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายทุกคนที่มีหน้าที่เสียภาษีอากรตามที่กฎหมายบัญญัติ ตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 50 (9) กรณี จึงมีเหตุอันควรตรวจสอบรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์จำนวน 2 ราย ที่เป็นรัฐมนตรีอยู่ในรัฐบาลนี้ เป็นตัวอย่างแรกๆ ก่อน
ข้อ 5. กรณีของนายเฉลิมชัย ปัจจุบันเป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อย้อนไปตรวจดูรายละเอียดในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน รวมทั้งรายได้ รายจ่าย ของนายเฉลิมชัย กรณีพ้นจากตำแหน่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2566 ซึ่งได้มาจากเว็บไซต์ ป.ป.ช. เมื่อนำมาเทียบกับข่าวข้างต้น พบว่า เมื่อได้ตรวจสอบเกี่ยวกับเงินได้พึงประเมินตามประมวลรัษฎากรแล้ว ยังมีเหตุอันควรสงสัยเกี่ยวกับรายได้บางรายการว่า นายเฉลิมชัย ได้มีการนำรายได้ไปเสียภาษีอากรตามที่กฎหมายบัญญัติ ตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 50 (9) ประกอบประมวลรัษฎากรโดยถูกต้องครบถ้วนหรือไม่
ข้อ 6. กรณีของนายเดชอิศม์ ปัจจุบันเป็น รมช.สาธารณสุข เมื่อย้อนไปตรวจดูรายละเอียดในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน รวมทั้งรายได้ รายจ่าย ของนายเดชอิศม์ กรณีเข้ารับตำแหน่ง สส. พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2566 ซึ่งได้มาจากเว็บไซต์ ป.ป.ช. เมื่อนำมาเทียบกับข่าวข้างต้น พบว่าเมื่อได้ตรวจสอบเกี่ยวกับเงินได้พึงประเมินตามประมวลรัษฎากรแล้ว ยังมีเหตุอันควรสงสัยเกี่ยวกับรายได้บางรายการว่า นายเดชอิศม์ ได้มีการนำรายได้ไปเสียภาษีอากรตามที่กฎหมายบัญญัติ ตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 50 (9) ประกอบประมวลรัษฎากรโดยถูกต้องครบถ้วนหรือไม่
ข้อ 7. กรณีการตรวจสอบรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 2 คน ส่วนหนึ่งมีเหตุมาจากอดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ก่อเรื่องมาร้องเพียงบางคน ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม จะช่วยตรวจสอบ สส. และอดีตรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ทุกคนว่า มีการทำหน้าที่ของปวงชนชาวไทย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 50 (9) คือเสียภาษีอากรตามที่กฎหมายกำหนด โดยถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ เรื่องนี้คงใช้เวลาไม่นานที่จะทำหนังสือเรียนนายกรัฐมนตรีเพื่อให้ตรวจสอบต่อไปโดยเร็ว
ข้อ 8. กรณีข้างต้น เมื่อนายกรัฐมนตรีขอรายการบัญชีทรัพย์สินของทั้งสองคนจาก ป.ป.ช.มาตรวจสอบ ก็ต้องรู้ดีว่า รายได้พึงประเมินตามประมวลรัษฎากรรายการใด ที่ต้องนำไปเสียภาษี เมื่อรู้แล้ว ขอให้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ดำเนินการต่อไปด้วย