ผัวเมาซ้อมเมียเตะก้านคอดับ ไม่กล้าทำแผน กลัวประชาทัณฑ์ พี่สลดเจอนอนตายหน้าบ้าน (คลิป)

กรณีน.ส.วิไลพร อายุ 38 ปี ชาวจ.อุบลราชธานี ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ถูกนายวิชัย บุญจิ่ม อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นสามีลงมือก่อเหตุฆ่าด้วยการทำร้ายร่างกายจนบอบช้ำมีรอยเขียวทั่วตัว ใบหน้าเปื้อนเลือด และคอหัก แต่เจ้าตัวไม่ทราบว่าซ้อมเมียปางตาย นึกว่าเมียเมาเหล้า ทำให้ฝ่ายหญิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 มี.ค.63 ที่ผ่านมา 

ล่าสุดวันที่ 18 มี.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่วัดบ้านท่าบ่อ จ.อุบลราชธานี สถานที่จัดงานศพของ น.ส.วิไลพร ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีบรรดาญาติพี่น้องมาร่วมงานศพเป็นจำนวนมาก 

นายฟ้าประกร เรืองผล พี่ชายผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ช่วงเวลา 20.00 น. ของวันเกิดเหตุ ตนเพิ่งกลับมาถึงบ้าน สังเกตเห็นน้องสาวนอนหลับอยู่กับพื้นดิน ซึ่งตอนแรกก็ไม่ได้เอะใจ หรือผิดสังเกตอะไร เพราะปกติน้องสาวกับน้องเขยมักดื่สุราและมีปากเสียงกันทุกวัน เข้าใจว่าน้องสาวเมาแล้วหลับไป จึงได้ไปนำมุ้งครอบมาคลุมตัวน้อง ผ่านไปสักพักผิดสังเกตเพราะปกติน้องสาวจะนอนบนแคร่ แต่ครั้งนี้นอนบนพื้นดิน จึงได้ปลุก แต่ก็ไม่มีลมหายใจแล้ว จึงได้วิ่งออกไปตามญาติ ๆ มาช่วยดูพร้อมกัน และได้แจ้งตำรวจให้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

นายฟ้าประกร กล่าวอีกว่า เมื่อคืนนั้นน้องสาวกับน้องเขย นั่งดื่มเหล้าด้วยกัน และมีปากเสียงเรื่องหึงหวง จากนั้น น้องเขยได้ลงมีทุบตีน้องสาวจนหมดสติ แต่ไม่ทราบว่าเมียตัวเองตาย ทั้งนี้น้องเขยยังอ้างว่าใช้กำปั้นชกใบหน้าด้วยความโมโห น้องสาวจึงวิ่งหนี ฝ่ายชายจึงวิ่งตามมาเตะก้านคอ และใช้เท้าเหยียบภรรยา จากนั้นจึงขี่รถจักรยานยนต์ออกไปซื้อกับแกล้ม และกลับมานอนที่บ้าน กระทั่งตนและญาติ ๆ มาพบว่าน้องสาวได้กลายเป็นศพแล้ว

ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับเพื่อนบ้านในละแวกนั้น ทราบว่า น.ส.วิไลพร เคยมีสามีมาแล้ว 3 คน ซึ่งนายวิชัย เป็นคนที่ 3 เคยอยู่กินกันมาแล้วพักหนึ่ง และเลิกรากันไป จนกระทั่งเมื่อ 2 ปีก่อน ทั้งคู่กลับมาคืนดีกัน และอยู่ด้วยกันจนถึงทุกวันนี้

เพื่อนบ้านบอกว่าครอบครัวนี้มักจะมีเรื่องทะเลาะกัน และมีปากเสียงกันทุกวัน เพราะดื่มเหล้าด้วยกันทั้งคู่ จนเพื่อนบ้านไม่อยากเข้าไปยุ่ง เพราะทุกครั้งที่ดื่มเหล้า ก็จะมีปากเสียงทุบตีกัน อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี ควบคุมตัวนายวิชัย ไปสอบปากคำและรับสารภาพเป็นคนลงมือก่อเหตุ จึงแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนถึงแก่ความตาย โดยพนักงานสอบสวน เลี่ยงที่จะนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพราะเกรงว่าผู้ต้องหาจะถูกรุมประชาทัณฑ์