ตำรวจบุกจับ "พ.ท.ประเสริฐ" ผู้ต้องหา คดีตากใบ ในข้อหาร่วมฆ่าผู้อื่น 78 ศพ ก่อน 20 วัน คดีขาดอายุความ แต่เจ้าตัวไหวทัน หนีหายเข้ากลีบเมฆ
ด้วย ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพรได้รับการประสานจากตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ส่งสำเนาเนา หมายจับและตำหนิรูปพรรณ ของ พ.ท.ประเสริฐ มัทมิฬ อายุ 64 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของ ศาลจังหวัดปัตตานี ที่ จ.519/2567 ลงวันที่ 30 ก.ย. 2567 ในความผิดฐาน "ร่วมฆ่าผู้อื่น" โดยเป็นคดีที่ใกล้จะขาดอายุความ (20 ปี) ในวันที่ 25 ต.ค. 2567
ซึ่งตัวผู้ต้องหามีภูมิลำเนาตามบัตรประชาชน อยู่ในต.ท่าหิน อ.สวี จ.ชุมพร โดยคดีนี้เป็นกรณีมีผู้เสียชีวิต 78 ศพ ในระหว่างการควบคุมของเจ้าพนักงาน เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2547 เหตุเกิดที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส และ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นคดีที่สนใจของประชาชน
โดยช่วงเช้าวันนี้ (5 ต.ค.67) ภ.จว.ชุมพร ระดมกำลังการปล่อยแถวหน้า สภ.วสี เพื่อลงพื้นที่ติดตามตัวผู้ต้องหาตามหมายจับคดีตากใบ ตามที่อยู่ภูมิลำเนาตามบัตรประชาชนของผู้กระทำความผิด อยู่ใน บ้านเลขที่ 2 หมู่ที่ 3 ต.ท่าหิน อ.สวี จ.ชุมพร ก่อนคดีหมดอายุความ ด้วยตำรวจภูธรจังหวัดชุมพรได้รับการประสานจากตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ส่งสำเนาเนา หมายจับและตำหนิรูปพรรณ ของ พ.ท.ประเสริฐ มัทมิฬ อายุ 64 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของ ศาลจังหวัดปัตตานี ที่ จ.517/2567 ลง 30 ก.ย. 2567 ในความผิดฐาน "ร่วมฆ่าผู้อื่น"
พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้ประชุมเร่งรัด สืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าว โดยสั่งการให้ตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัดที่มีแหล่งที่อยู่ของผู้ต้องหา หรือเชื่อว่าผู้ต้องหาหลบหนีเข้ามาในพื้นที่รับผิดชอบดำเนินการสืบสวนจับกุมตัว เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งตำรวจภูธรจังหวัดชุมพรได้ทำการสืบสวนจนเชื่อว่าบ้านเลขที่ตามที่ได้รับแจ้งใน ต.ท่าหิน เป็นที่หลบหนีของผู้ต้องหาตามหมายจับ จึงให้ สภ.สวี ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดหลังสวน เพื่อขอหมายค้น
เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบพ.ต.อ.จิตเกษม สนขำ รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.ชุมพร , พ.ต.อ.วิษณุ สุระวดี ผกก.สภ.สวี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สวี , เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร และกองบังคับการสืบสวน สอบสวน ตำรวจภูธรภาค 8 ได้ร่วมกันนำหมายค้นของศาลจังหวัดหลังสวนที่ 66/2567 ลง4 ต.ค..2567 เข้าทำการตรวจค้น ผลการปฏิบัติ ไม่พบตัวผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีนี้ ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร จะได้ดำเนินการสั่งการให้หน่วยในสังกัด ติดตามตัวผู้ต้องหาอย่างต่อเนื่องโดยเร็ว เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีก่อนหมดอายุความในวันที่ 25 ต.ค.2567 รวมทั้งจะได้ประสานหน่วยร่วมปฏิบัติอย่างใกล้ชิดต่อไป