เจอตัวแล้ว! แม่ค้าขายหน้ากากเก๊สุดแพง อ้างมีลูกเล็ก เผยรับจากสำเพ็ง บุกพิสูจน์ผงะขายเกลื่อน (คลิป)

กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Pojchara Kosolchuenvijit โพสต์เรื่องราวพร้อมคลิปวิดีโอ หลังซื้อหน้ากากอนามัยกับแม่ค้ารายหนึ่งในราคา 40 บาท ซึ่งบรรจุใส่ซองเป็นอย่างดี แต่เมื่อเปิดออกกลับพบว่าเป็นเพียงผ้าบาง ๆ ที่ตัดให้เป็นรูปทรงเลียบแบบของญี่ปุ่นเท่านั้น

ล่าสุดวันที่ 18 มี.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมาพบกับ นายพชร โกศลชื่นวิจิตร อายุ 29 ปี เจ้าของคลิปดังกล่าว เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา เวลา 13.00 น. ตนกำลังจะออกไปทานข้าว ซึ่งเดินจากซอยเพชรบุรี 11 ไปถึงหน้าปากซอยเพชรบุรี 15 พบแม่ค้ากำลังขายหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และกระเป๋าสะพาย ด้วยความสนใจจึงหยุดและเข้าไปเลือกดูสินค้า เพราะเห็นว่ามีหน้ากากอนามัยอยู่หลายประเภท และมีประเภทที่ใช้ในโรงพยาบาล ราคา 25 บาทด้วย

นายพชร ระบุว่า ตนสังเกตเห็นว่ามีหน้ากากอนามัยยี่ห้อหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นที่ตนเคยใช้มาก่อน ขายในราคาซองละ 40 บาท ซึ่งแม่ค้าบอกตนว่าด้านในซองมีทั้งหมด 3 ชิ้น จึงตัดสินใจซื้อมา 1 ซอง และได้ลองใช้กูเกิ้ลแปลภาษาสแกนหน้าซอง ก็พบว่าซองนั้นเป็นซองภาษาญี่ปุ่นจริง จึงไม่ได้คิดสงสัยอะไร

จากนั้นตนไปที่ร้านข้าว จึงเปิดซองหน้ากากกลับปรากฎว่าด้านในซองมีหน้ากากอนามัย 1 ชิ้น และเป็นหน้ากากที่ไร้คุณภาพ เพราะเป็นเพียงผ้าบาง ๆ ที่นำมาตัดเป็นรูปหน้ากากอนามัยเท่านั้น จึงทำให้ตนเริ่มรู้สึกโมโห เพราะถูกหลอกซื้อสินค้า อีกทั้งตนไม่อยากให้ใครถูกหลอกดังเช่นตน จึงตัดสินใจกลับไปหาแม่ค้าคนดังกล่าว เพื่อที่จะขอเงินคืน เมื่อไปถึงตนก็ถามว่า "ทำไมป้าถึงนำของปลอมมาขาย ป้ารู้ใช่ไหมผิดกฎหมายนะ ผมจะแจ้งตำรวจ" แม่ค้าตอบว่า ใคร ๆ ก็ขายกัน และยังแสดงอาการและพูดโวยวายกลับใส่ตนว่าทำให้เดือดร้อน

ทั้งนี้เมื่อเป็นเช่นนั้น ตนจึงโทรศัพท์ แจ้งไปที่กรมการค้าภายใน ซึ่งเจ้าหน้าที่แนะนำตนว่าให้โทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจในพื้นที่ หมายเลข 191 จากนั้นไม่นานตำรวจ สน.พญาไท เข้ามาพูดคุยกับแม่ค้า ซึ่งก็ดูเหมือนจะสำนึกได้ ตนจึงขอตำรวจไว้ว่าไม่อยากให้แม่ค้าเดือดร้อน ตนเข้าใจดีว่าคงไม่รู้ เพราะอาจจะแค่ไปรับมาในราคาแพง ตนบอกแม่ค้าว่าตนอยากให้แม่ค้าช่วยตำรวจค้นหาต้นตอของหน้ากากอนามัยเกินราคามากกว่า ตนจึงตักเตือนป้าไปไม่ให้ทำอีก และขอตำรวจไม่ให้ดำเนินคดีป้า และป้าก็เก็บของกลับไป

ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่บริเวณปากซอยเพชรบุรี 15 แขวงพญาไท เขตราชเทวี กทม. หน้าปากซอยยังคงพบแม่ค้าคนดังกล่าวที่ปรากฏในคลิปนั่งขายของอยู่ที่เดิม และพบว่านำหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือมาขายเช่นเดิม อีกทั้งสังเกตได้ว่ามีคนที่เดินผ่านไปมา แวะเลือกดูสินค้าและซื้อสินค้าอยู่เรื่อย ๆ

ผู้สื่อข่าวได้เดินไปสอบถามแม่ค้าคนดังกล่าว ซึ่งมีสีหน้าเรียบเฉย เมื่อเข้าไปถึงแม่ค้าบอกว่า เหตุการณ์เมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนได้คืนเงินลูกค้ารายนั้นไปแล้ว เพราะลูกค้าไม่พอใจ และเหตุการณ์นั้นก็ทำให้ตนเดือดร้อนต้องเก็บของกลับบ้านด้วย

เมื่อพยายามสอบถามราคาหน้ากากอนามัย ขายในราคา 40 บาทจริงหรือไม่ โดยตอนแรกแม่ค้าก็ยอมรับว่าขายให้ลูกค้าที่ราคา 40 บาทจริง แต่เมื่อเริ่มถามว่าหากผู้สื่อข่าวจะซื้อแม่ค้าขายราคาเท่าไหร่ แม่ค้าก็เริ่มปฏิเสธและไม่ยอมบอกว่าหน้ากากอนามัยแต่ละชิ้นขายในราคาเท่าไหร่ บอกเพียงว่าขายตามราคาท้องตลาด และก็ไปรับมาจากตลาดสำเพ็งอีกทอดหนึ่ง อีกทั้งไม่ทราบว่าอันไหนจริงอันไหนปลอม

โดยแม่ค้าพยายามบ่ายเบี่ยงตลอดเวลาทุกครั้งที่ถามซ้ำว่า หน้ากากแต่ละชิ้นขายราคาเท่าไหร่กันแน่ ซึ่งไม่ยอมบอกราคาที่แท้จริงกับผู้สื่อข่าว พร้อมยังให้ข้ออ้างตัดบทว่า จำเป็นต้องทำมาหากิน และมีลูกที่ยังเล็กที่ต้องเลี้ยงดู

ระหว่างที่ผู้สื่อข่าวยืนคุยกับแม่ค้าอยู่นั้น มีลูกค้าสนใจที่จะซื้อหน้ากากอนามัย แต่แม่ค้าบอกลูกค้าให้ออกไปก่อน เพราะคุยกับผู้สื่อข่าวอยู่ และไม่ตอบคำถามลูกค้าที่สอบถามเรื่องราคา เนื่องจากเกรงว่าผู้สื่อข่าวจะรู้ความจริง ซึ่งแม่ค้าก็เน้นย้ำและพูดเพียงว่าขายในราคาท้องตลาดทั่วไปเท่านั้น

นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับ น.ส.ต่าย (สงวนชื่อนามสกุล) ซึ่งเธอได้ซื้อหน้ากากอนามัยจากแม่ค้ารายดังกล่าวมาสวมใส่ ซึ่งเป็นหน้ากากคล้ายกับหน้ากากที่สวมใส่ตามโรงพยาบาล โดยน.ส.ต่าย เปิดเผยว่า หน้ากากอนามัยที่ตนสวมใส่ซื้อมาแผ่นละ 20 บาท แต่หากเป็นราคาต่างชาติ ก็จะขายอีกราคาหนึ่ง อยู่ที่แผ่นละประมาณ 40 บาท ส่วนตัวทราบอยู่แล้วว่าแม่ค้ารายนี้ขายหน้ากากอนามัยเกินราคา แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะหากไม่ซื้อก็คงไม่มีใส่ ซึ่งตนก็อยากให้ทางรัฐบาลช่วยเหลือด้วย เพราะทุกวันนี้ประชาชนขาดแคลนหน้ากากอนามัย และหาซื้อยากจริง ๆ หากเป็นไปได้ก็อยากให้รัฐบาลแจกฟรี

จากการลงพื้นที่ตลาดสำเพ็งพบว่ามีการขายหน้ากากเกินราคาจริง ซึ่งขายในราคาเดียวกับแม่ค้ารายดังกล่าว คือราคาชิ้นละ 20 บาท บางร้านติดป้ายราคาไว้ชัดเจน แต่บางร้านก็ไม่ติดป้ายราคาเอาไว้

ทีมข่าวได้เข้าไปสอบถามแม่ค้าร้านหนึ่ง ซึ่งขายหน้ากากแบบผ้าและหน้ากากสีดำแบบซองดังที่ปรากฏเป็นข่าว โดยร้านค้าจะขายหน้ากากแบบผ้ารวมแพ็ค ซึ่ง 1 แพ็ค มีทั้งหมด 10 ชิ้น 200 บาท จึงตกชิ้นละ 20 บาท ส่วนหน้ากากสีดำบรรจุซอง 1 แพ็ค มี 10 ชิ้น ราคา 400 บาท ตกชิ้นละ 40 บาท

อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวได้ซื้อหน้ากากอนามัยจากสำเพ็งมาทดลอง ซึ่งเป็นแบบเดียวกับนายพชร ซึ่งซื้อมาในราคาชิ้นละ 20 บาท และลองแกะออกมาจากซองพบว่าหน้ากากอนามัยเป็นผ้าสีดำที่ค่อนข้างบางมาก ๆ และไม่มีซับด้านใน โดยทดลองถ่ายผ่านแสงแดด ก็พบว่าแสงแดดสามารถลอดผ่านลงมาได้ อีกทั้งจากการสังเกตพบว่าหน้ากากมีการตัดเย็บที่ไม่ละเอียด เสมือนใช้เพียงกรรไกรมาตัดเป็นรูปหน้ากากอนามัย เพื่อให้สามารถสวมใส่ได้เท่านั้น