นายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมกรมชลฯ สั่งศึกษาแผนป้องกันน้ำท่วม บอกงบเยียวยาสูงขึ้นทุกปี ลั่นคนกรุงฯไม่ต้องกลุ้มใจ น้ำไม่ท่วมซ้ำรอยปี 54 แน่นอน
วันที่ 2 ต.ค. 67 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่ ตรวจราชการการบริหารจัดการน้ำ ณ กรมชลประทานปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยมีนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.กระเกษตรและสหกรณ์ นายชูชาติ รักจิตร
รักษาการอธิบดีกรมชลประทาน นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ให้การต้อนรับและบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำ
ทั้งนี้รักษาการอธิบดีกรมชลประทาน รายงานว่า พื้นที่เขื่อนเหนือลุ่มน้ำเจ้าพระยายังเหลือปริมาณกักเก็บน้ำได้อยู่ เช่น เขื่อนภูมิพลที่ขณะนี้มีปริมาณน้ำอยู่ร้อยละ 60 ของความจุเขื่อน เขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำอยู่ร้อยละ 90 ของความจุเขื่อน ส่วนการตัดยอดน้ำ เพื่อระบายออกอ่าวไทยนั้นจะระบายออกทางแม่น้ำท่าจีน และอีกทางจะระบายออกทางแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำ เนื่องจากน้ำทะเลหนูสูง โดยในวันที่ 9 - 21 ต.ค.นี้
โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวเสริมว่า แปลว่าหากมีน้ำทะเลหนุนสูง จะไม่ส่งผลกระทบทำน้ำท่วมยังบริเวณชั้นใน เมื่อน้ำทะเลหนุนขึ้นมาในระดับสูงสุด และขณะนี้ปริมาณความจุแต่ละอ่างยังสามารถรองรับปริมาณน้ำได้อยู่
ขณะที่นายชัชชาติ รายงานว่า ขณะนี้ความสามารถในการรองรับน้ำยังเหลืออยู่อีกมาก ยังไม่ถึงขั้นต้องเตือนภัยแก่ประชาชน และน้ำทะเลจะหนุนสูงสุดในวันที่ 20 ต.ค. 1.31 เมตรจากระดับทะเลปานกลาง แต่จะหนุนสูงอีกครั้งหนึ่งในช่วงเดือนพ.ย. ซึ่งกรุงเทพมหานครสามารถป้องกั้นน้ำเหนือได้ เนื่องจากมีเขื่อนตลอดเส้นทาง เพื่อระบายไปยังคลองทวีวัฒนา พระโขนง มหาสวัสดิ์ ซึ่งตลอดเส้นทางมีจุดอ่อนอยู่ 120 จุด และแก้ไขแล้ว 64 จุด
พร้อมกับกล่าวว่าขอให้มั่นใจได้ว่าเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยาคุณภาพดี แต่ส่วนที่ยังทำไม่เสร็จเสริมแนวกระสอบทรายแล้ว และกล่าวให้มั่นใจว่าปีนี้น้ำเหนือและน้ำหนุน ไม่เป็นที่น่าเป็นห่วงอะไร แต่ก็ไม่ได้ไว้วางใจ เสริมแนวกระสอบทรายตลอด แต่ที่เป็นห่วงคือน้ำฝน ของกรุงเทพฯ ที่ส่วนใหญ่จะต้องออกมาทางแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านการผันออกผ่านอุโมงค์ระบายน้ำ รวมไปถึงต้องลุยปัญหาเรื่องของสิ่งกีดขวางทางน้ำอย่างกับตบชวาและขยะตามแนวคลองเส้นเลือดฝอย
ขณะเดียวนายกรัฐมนตรี แสดงความห่วงใยเรื่องการปล่อยน้ำของเขื่อน ที่ต้องแจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้า พร้อมกับระบุว่าในปี 2554 มีพายุเข้า 5 ลูก แต่ปีนี้พายุเข้ามาลูกเดียว และในปี 2554 มีพื้นที่เหลือเก็บน้ำเพียงแค่พันกว่าลูกบาศก์เมตร แต่ปีนี้เหลือกว่า 6,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งยังห่างจากปี 2554 มาก และปริมาณน้ำฝนมีมากกว่าเพียง 2-3 % หากคนกรุงเทพฯ กำลังกลุ้มใจว่าจะเกิดน้ำท่วม ก็ค่อนข้างที่จะไม่น่าเป็นห่วง
นายกรัฐมนตรี ยังฝาก รมว.เกษตรและสหกรณ์ดูพื้นที่เกษตรกรรมที่รับผลกระทบจากน้ำท่วมขัง เพื่อดูแลเกษตรกร พร้อมกับระบุว่า งบประมาณในการเยียวยาน้ำท่วมสูงขึ้นทุกปี ไม่อยากให้หมดไปกับตรงนี้ ขอให้ไปศึกษามา