กินเจ vs กินมังสวิรัติ ต่างกันอย่างไร ต้องกินแบบไหนถึงจะอิ่มท้อง ต้องกินแบบไหนถึงจะดี มาดูวิธี กินเจ 2567 นี้ ให้อิ่มอร่อยและปลอดภัยต่อสุขภาพ
กินเจ 2567 อีกหนึ่งเทศกาลยอดนิยม ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยแท้หรือชาวไทยเชื้อสายจีน ต่างก็ต้องเคยผ่านการกินอาหารเจ ที่มีขายตามท้องตลาด แต่อีกหนึ่งคำถามสุดฮิตคือ "กินเจ vs กินมังสวิรัติ ต่างกันอย่างไร" เพราะในเมื่อการทานมังสวิรัติเป็นประจำ ก็เป็นการทานอาหารที่ไม่มีเนื้อเช่นกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีความแตกต่างกันอยู่มาก วันนี้ Amarin Online จะพาไปทำความเข้าใจกับถึงคำถามนี้กัน!
กินเจ คืออะไร ?
เจ ในภาษาจีนมีความหมายเดียวกับคำว่า อุโบสถ ดังนั้นการกินเจก็คือการรับประทานอาหารก่อนเที่ยงวัน เหมือนกับที่ชาวพุทธในประเทศไทยที่รักษาศีล 8 หรือไม่รับประทานอาหารหลังจากเที่ยงวันไปแล้ว นอกจากนี้ยังหมายถึงการรักษาความบริสุทธิ์ทั้งกายและใจ เพื่อสักการะบูชา
ฉะนั้นแล้ว กินเจ จึงแปลได้อีกนัยหนึ่งว่าว่า "การกินอาหารที่บริสุทธิ์ตามความเชื่อ" หรือ การงดรับประทานเนื้อสัตว์ทุกชนิด และหันมาทานพืชผักแทน ทำให้กระเพาะได้พักจากการย่อยเนื้อสัตว์ และได้ยังรับวิตามินหรือโปรตีนต่าง ๆ ถือเป็นช่วงที่ร่างกายได้พักผ่อนจากการรับสารอาหารย่อยยาก
กินมังสวิรัติ คืออะไร
ในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 ให้คำอธิบาย "มังสวิรัติ" ไว้ว่า เป็นการงดเว้นกินเนื้อสัตว์ เรียกอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์ ที่มีแต่พืชผักว่า อาหารมังสวิรัติ แต่ยังสามารถบริโภคไข่ นม และถั่วเหลืองได้
กินเจ vs กินมังสวิรัติ ต่างกันอย่างไร ?
- กินเจ : สามารถรับประทานผักทุกชนิดได้ ยกเว้นผักที่มีกลิ่นฉุน 5 ชนิด ได้แก่ หอม กระเทียม กุยช่าย กระเทียมเล็ก ผักชี
- กินมังสวิรัติ : สามารถรับประทานพืชผักทุกชนิดไม่มีข้อห้าม
- กินเจ : ไม่สามารถดื่มน้ำนมสด หรือนมข้น
- กินมังสวิรัติ : จะดื่มน้ำนมสด หรือทานนมข้นได้
- กินเจ : ทานไข่ไม่ได้ เพราะเป็นการทานเนื้อสัตว์โดยอ้อม
- กินมังสวิรัติ : สามารถรับประทานไข่ได้ เพราะถือว่าไข่ที่บริโภคกันอยู่ทั่วไป
- กินเจ : ต้องถือศีลระหว่างการกินเจ
- กินมังสวิรัติ : ไม่ต้องถือศีล 8 แค่ละเว้นเนื้อสัตว์
วิธีกินเจให้อิ่มท้อง
การทานสิ่งใดก็ตาม ที่เป็นต้นเหตุทำลายสุขภาพให้ทรุดโทรม คือ การเบียดเบียนตนเอง ที่สำคัญสัตว์บางชนิดที่บริโภคเป็นประจำ ยังอาจมีเชื้อโรคหรือการแพร่ระบาดที่ไม่ปลอดภัยแต่คน การกินเจจึงถือเป็นหนึ่งประโยชน์ที่ดีกับตัวเอง ซึ่งหากกินถูกหลัก แม้แค่ทานผักก็ยังมีร่างกายที่แข็งแรงได้ โดยสังเกตุดังนี้
- เน้นผักเป็นหลัก เลือกทานให้หลากสี : เน้นผักหรือผลไม้สดเพื่อเพิ่มวิตามินซี ซึ่งจะช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก เช่น ผักโขม ถั่วลิสง ถั่วฟักยาว เห็ดฟาง หรือเลือกผักที่มีเส้นใยอาหารสูง ที่จะช่วยทำให้อิ่มเร็วขึ้น
- ทานแป้งให้พอดี เพื่อให้ร่างกายมีพลังงาน : การทานแป้งในปริมาณที่พอดี จะช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานอย่างต่อเนื่อง ควรเลือกทานเป็นข้าวกล้อง แทนข้าวขาวปกติ หรือเลือกทานขนมปังโฮลวีท ในระหว่างช่วงที่งดเนื้อสัตว์ หรือทดแทนโปรตีนจากเต้าหู้ ถั่ว หรือธัญพืช
- เลี่ยงอาหารที่มีน้ำมันมาก : ในช่วงที่ถือศีลกินเจ ควรเลี่ยงอาหารที่มีน้ำมันมาก ลดเมนูผัดหรือทอดให้มากที่สุด หรือเลือกใช้น้ำมันจากกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่ดี เช่น น้ำมันเมล็ดชา น้ำมันคาโนล่า น้ำมันมะกอก
- หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด : การทานอาหารเจ อาจทำให้รู้สึกไม่อิ่มท้อง และการทานอาหารรสจัด เช่น หวานจัด เค็มจัด จะทำให้ร่างกายต้องการพลังงานเพิ่มขึ้น และกินบ่อยขึ้น ในช่วงที่กินเจ ควรเสริมร่ากายด้วยการทานผลไม้หวาน เช่น ชมพู่ ฝรั่ง แก้วมังกร เพื่อให้ร่างกายไม่ขาดสารอาหาร
กินเจ 2567 กินอะไรได้บ้าง ?
- ชา กาแฟ ที่ไม่ใส่นม เนย หรือครีมเทียม
- วิตามินเสริมอัดเม็ด ที่ไม่มีสารสกัดจากสัตว์
- ขนมกรุบกรอบ ที่ไม่มีส่วนผสมของสัตว์
- พริกไทย เป็นสมุนไพร
- ขนมปัง ที่เป็นขนมปังเจ หรือไม่มีส่วนผสมของนม
- มาม่า หรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่เป็นสูตรเจเท่านั้น
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า กินเจ vs กินมังสวิรัติ เหมือนกันตรงที่งดกินเนื้อสัตว์ แต่ก็มีรายละเอียดปลีกย่อยที่ต่างกันออกไป แม้การกินเจหรือมังสวิรัติจะมีแคลอรีน้อยกว่าการกินเนื้อสัตว์ ควรเลือกกินอย่างชาญฉลาด เพื่อทดแทนส่วนที่ขาดหายให้ครบถ้วน พยายามกินให้หลากหลายเพื่อให้ได้รับกรดอะมิโนที่เพียงพอ และควรกินโปรตีนเสริมจากถั่วเหลืองหรือไข่ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีที่หาได้ง่าย ไม่เช่นนั้นจะถือว่าเป็นการทำลายสุขภาพ มากกว่าการทำกุศลให้กับตัวเอง