พปชร. ประกาศ พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้านเชิงรุก ทั้งใน-นอกสภาฯ เปิดฉากชำแหละ ดิจิทัล วอลเล็ต จากโครงการเรือธง เป็นเรือล่ม
วันที่ 17 ก.ย. 67 ที่พรรคพลังประชารัฐ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ แถลงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานการประชุมว่า
ที่ประชุมเห็นควรให้มีการจัดตั้งศูนย์นโยบาย และวิชาการของพรรคพลังประชารัฐ เพื่อให้ สส. และทีมสมาชิกของพรรคพลังประชารัฐนำข้อมูลข่าวสารไปดำเนินการ เพื่อตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชน โดยศูนย์นโยบายและวิชาการดังกล่าว จะมีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรมว.พลังงาน เป็นหัวหน้าทีม และมีนายอุตตม สาวนายน อดีตรมว.คลัง รวมถึงนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรมว.คลัง เป็นทีมงานสำคัญ
ด้านนายอุตตม กล่าวถึงศูนย์นโยบายและวิชาการของพรรคพลังประชารัฐว่า วันนี้เรามีบทบาทเป็นพรรคฝ่ายในสภาผู้แทนราษฎร เพราะฉะนั้นศูนย์ที่เราตั้งขึ้น จะมีหน้าที่หลักในการสนับสนุนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานของพรรค เพื่อที่จะตอบโจทย์ให้กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเชิงนโยบายหรือมาตรการที่สอดคล้องกับสถานการณ์ และยังมีหน้าที่สนับสนุน สส.และทีมงานในพื้นที่ด้วย โดยเราหวังว่า ศูนย์ของเราจะเป็นศูนย์รวมของการพัฒนาบุคลากรของพรรคพลังประชารัฐให้มีคุณภาพ เพื่อให้ประชาชนได้ข้อมูล ข่าวสารที่ถูกต้อง และจากนี้ พรรคพลังประชารัฐจะทำหน้าที่ติดตามและตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างเข้มแข็ง
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ทุกคนที่อยู่ตรงนี้จะเป็นผู้บริหารศูนย์นโยบายและวิชาการร่วมกัน โดยเราจะไม่ได้ทำงานเฉพาะในกลุ่มของพรรคพลังประชารัฐเท่านั้น แต่จะเป็นการรวบรวมความคิดเห็นของทุกฝ่ายที่อยากจะร่วมเสนอแนะ หรือต้องการให้พรรคพลังประชารัฐดำเนินการ เราเปิดกว้างที่จะรับข้อมูลจากทุกด้าน และจะใช้ข้อมูลจากเหล่านี้ในการปฎิบัติหน้าที่ทั้งในและนอกสภาฯ ในบทบาทของพรรคฝ่ายค้าน ที่จะทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งต่อไป นี่คือความเปลี่ยนแปลงของพรรคพลังประชารัฐ เพราะเรารู้ว่า วันนี้ประชาชนต้องการความหวังจากพรรคฝ่ายค้านที่จะทำหน้าที่แทนประชาชนคนไทย
นอกจากนี้ นายสนธิรัตน์ กล่าวอีกว่า วันนี้โครงการ ดิจิทัล วอลเล็ต ผ่านที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแล้ว ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก เพราะเป็นนโยบายเรือธงของรัฐบาล สิ่งที่เราไม่สบายใจคือโครงการนี้ เดินอยู่บนความไม่แน่นอนของรัฐบาล ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบโครงการหลายครั้ง จนสุดท้านตอนนี้มีการแจกเป็นเงินสด ซึ่งแตกต่างกับที่หาเสียงไว้ว่าเป็น ดิจิทัล วอลเล็ต
มีคำถามตามมาว่า เรื่องนี้ถูกต้องหรือไม่ แต่สิ่งที่เราเห็นด้วยมาตลอดคือการแจกให้กับกลุ่มเปราะบาง ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกันกับที่พรรคพลังประชารัฐ ใช้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2561 มันชัดเจนว่า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐกลายเป็นโครงสร้างหลัก และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะให้ความสำคัญกับร้านธงฟ้าประชารัฐด้วย
นายสนธิรัตน์ กล่าวต่อว่า เรื่องที่รัฐบาลหวังว่าจะเป็นพายุหมุนทางเศรษฐกิจ ผลักดัน GDP ได้ 0.35 % ต่อปี คำถามคือ มันจะเป็นพายุหมุน ที่คุ้มค่ากับงบประมาณที่เสียไปหรือไม่ หรือสุดท้ายมันจะเป็นแค่ฝนหลงฤดู สิ่งที่เราจะตรวจสอบต่อไป คือโครงการนี้ลดการเติบโตในด้านอื่นๆหรือไม่
"สุดท้ายด้วยความเป็นห่วงในโครงการนี้ มีผู้ลงทะเบียนถึง 36 ล้านคน รัฐบาลสัญญาว่าจะดำเนินการให้แน่นอน แต่มันกลับมีเครื่องหมายคำถาม ว่าจะทำอย่างไร ทำวิธีใดและสำคัญที่สุดงบประมาณมันจะมาจากไหน พรรคพลังประชารัฐอยากเห็น โครงการเรือธงของรัฐบาลเป็นโครงการที่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ได้ ไม่อยากเห็นโครงการเรือธงกลายเป็นโครงการเรือล่ม ออกสตาร์ทแค่ปากอ่าว แต่ไปได้ไม่ไกล"