ทำความรู้จัก Big Ocean ไอดอลผู้พิการทางหู บอยแบนด์ที่บกพร่องทางการได้ยินวงแรกของโลก กลุ่มที่อยากเปิดประตูใบใหม่แห่งเสียงเพลง
เมื่อพูดถึงอาชีพการเป็นไอดอล หลายคนต้องนึกถึงการร้องดี เต้นเก่ง ครองเวทีได้ แต่ไม่เสมอไป เมื่อ Big Ocean ก้าวเข้าสู่การเป็นไอดอล ที่มาพร้อมกับความบกพร่องทางการได้ยิน ขึ้นเวทีพร้อมกับการใส่เครื่องช่วยฟัง จับจังหวะผ่านแรงสั่นสะเทือน เชื่อมโยงผู้สูญเสียการได้ยินเข้าสู่โลกของดนตรีผ่านเสียงเพลง ภาษามือ และการเต้น
- เพราะดนตรีไม่มีกำแพงทางภาษา
หลายคนนิยมฟังเพลงที่ไม่ใช่ภาษาแม่ของตัวเอง ดั่งเช่น แฟนเพลงตะวันตก แฟนเพลงเกาหลี แฟนเพลงญี่ปุ่น ฯลฯ ซึ่งรสนิยมการฟังเพลงเหล่านี้ ส่วนเป็นความชื่นชอบส่วนบุคคลทั้งนั้น โดยหลายคนเชื่อว่าดนตรีไม่มีกำแพงทางภาษา เมื่อเนื้อเพลงที่ฟังจะไม่สามารถแปฃออก ก็แต่สามารถร้องตามได้เมื่อฟังบ่อย ๆ เข้า แต่กลับกันหาเพลงนี้อยู่ใกล้กับคนที่มีปัญหาบกพร่องทางการได้ยิน ย่อมเป็นเรื่องที่น่าเสียดายในการรับความบันเทิงนี้ได้
อย่างที่ทราบกันดีว่า วงการเคป็อปพยายามทำลายกรอบแนวคิดเดิมหลายครั้ง รวมไปถึงการเปิดโลกให้ "ผู้พิการทางการได้ยิน" ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำกัน โดยเพิ่ม "ภาษามือ" เข้ามาในบทเพลง บางเพลงเปลี่ยนจากการใช้ท่าเต้นยาก ๆ ด้วยการใช้ภาษามือสื่อสาร บางเพลงใช้ภาษามือในการเสนอเพลงให้ลึกซึ้งขึ้นในมิวสิควิดีโอ และบางคอนเสิร์ตก็มีล่ามภาษามืออยู่ทั้งบนเวที และในจอ LED ซึ่งการเพิ่มเติมเรื่องเหล่านี้เข้ามา ถือเป็นหนึ่งในการเปิดประตูแห่งความสุนทรีย์ให้กับคนหูหนวกได้ไม่น้อย
- จุดเริ่มต้นของการเปิดโลกบทเพลงให้คนหูหนวก
T-ARA - TIAMO
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 วง T-ARA ได้ปล่อยเพลงจังหวะกลางอย่าง TIAMO มาให้แฟนคลับฟัง โดยเป็นการปล่อยเพลงด้วยสมาชิก 6 ดั้งเดิมครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปทำงานส่วนตัว ซึ่งในท่อนสุดท้ายของคอรัส ได้ทำท่าเต้นเป็นนิ้วก้อยและนิ้วโป้ง ที่มีความหมายว่า "ถึงคนที่ฉันรัก" เข้ากับเนื้อเพลงและอารมณ์ของเพลง
BTOB - Missing You
Missing You หนึ่งในเพลงอมตะของวง BTOB ที่ปล่อยออกมาในปี 2017 ในประโยคแรกของท่อนคอรัสมีความหมายว่า "ฉันใช้เวลาเป็นปีในการคิดถึงคุณ" วงได้เอาภาษามือเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของท่าเต้น โดยทำท่าภาษามือตอนที่ร้องคำว่า "ปี, ผ่านไป, คิดถึง" ซึ่งเพลงนี้มีความหมายมากยิ่งขึ้น เมื่อสมาชิกเอาไปให้ผู้พิการทางการได้ยินฟัง และขอให้สอนท่าภาษามือ เพื่อให้สื่อสารกันได้อย่างถูกจุด
BTS - Permission to Dance
หนึ่งในเพลงขึ้นหิ้งของ BTS ที่ใช้ท่าเต้นหลังจากคอรัสด้วยภาษามือ โดยใช้เป็นภาษามือสากล ด้วยการชูนิ้วโป้งทั้งสองมือ ขยับสลับขึ้นลงที่หมายถึงความสนุก นอกจากนี้ยังมีท่าที่ยกมืออีกข้างหนึ่งพร้อมทำรูปตัว A บนฝ่ามือ ที่สื่อถึงการเต้น ส่วนการชูนิ้วเป็นรูปตัว V ทั้ง 2 มือหมายถึงความสงบ
Weki Meki - Butterfly
ต่อมาในปี 2018 Weki Meki ได้ปล่อยเพลง Butterfly ออกมาในรูปแบบดิจิทัลซิงเกิล โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งข้อความความหมายดี ๆ ให้กับผู้ฟัง นอกจากนี้ในงานแสดงโชว์เคส ในงาน PyeongChang Winter Olympics สมาชิกยังได้ใช้ภาษามือเป็นท่าเต้นทุกท่อนที่แสดงในงาน โดยหวังว่านักกีฬาทุกคนที่ได้เห็นและฟัง จะได้รับกำลังใจดี ๆ ทุกคน และเป็นการสื่อสารว่าพวกเธอพร้อมที่จะสนับสนุนนักกีฬาทุกคน
- จากจุดเริ่มต้นสู่การเดบิวต์ Big Ocean
Big Ocean เป็นการรวมตัวเพื่อความฝันของเด็กฝึกทั้ง 3 คน ฮยอนจิน (Hyunjin), จีซอก (Jiseok) และชานยอน (Chan-yeon) ผ่านแนวเพลง S-Pop หรือ Sign Language Pop ที่จะมาเป็นสีสันใหม่ให้กับวงการ K-POP ภายใต้ค่าย PARASTAR Entertainment โดยความตั้งใจของชาแอรี ประธานค่ายที่อยากให้เสียงเพลงเข้าถึง แม้กระทั่งกลุ่มคนที่สูญเสียการได้ยิน
บิ๊ก โอเชียน (Big Ocean) ถือเป็นกลุ่มผู้บกพร่องทางการได้ยินวงแรกของเกาหลีใต้ ที่ประธานค่ายสร้างขึ้นพร้อมกับคำถามว่า "ทำไมกลุ่มผู้พิการจึงไม่สามารถเป็นไอดอลได้" ถึงแม้ว่าจะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก และโครงการถูกพับเก็บไประยะหนึ่ง แต่ในที่สุดเธอก็ได้เปิดตัวเด็กหนุ่มทั้ง 3 สู่สายตาสาธารณะ โดยเธอกล่าวว่า "ในช่วงเริ่มต้น มีศิลปินฝึกหัดอยู่ทั้งหมด 7 คน แต่ว่ามีเพียงผู้ที่ผ่านเกณฑ์เพียง 3 คนเท่านั้น หลังผ่านการฝึกหัดอย่างเข้มข้นราวหนึ่งปีครึ่ง"
Big Ocean เดบิวต์ในวันที่ 20 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันคนพิการของเกาหลีใต้ โดยเลือกใช้เพลงรีเมคอย่าง Hope ของวง H.O.T จาก SM Entertainment ที่เป็นหนึ่งในบริษัทที่ลงทุนกับค่าย ส่วนเหตุผลที่เลือกใช้เพลงนี้ในการเปิดตัว เพราะต้องการให้ผู้ฟังเข้าถึงวงได้ง่ายขึ้น โดยใช้ชื่อเพลงว่า "Glow" ที่ผสมผสานท่าเต้นที่เป็นภาษามือเกาหลี อเมริกัน และภาษามือในประเทศต่าง ๆ
- หนทางสู่การเป็นสมาชิก Big Ocean
ParaStar Entertainment เปิดตัวโครงการเดบิวต์นี้โดยเชื่อว่า ดนตรีสามารถเอาชนะอุปสรรคด้านภาษา และข้อจำกัดทางกายภาพ ผ่านวัฒนธรรมเค-ป็อป โดยคำนึงถึงแนวเพลงใหม่อย่าง S-Pop ย่อมาจาก Sign Language Pop หรือป๊อปภาษามือ หมายถึงแนวเพลงของผู้สูญเสียการได้ยิน ผ่านการร้องเพลง ในภาษามือเกาหลี (KSL) ภาษามืออเมริกัน (ASL) และภาษามือสากล (ISL)
แม้จะบกพร่องทางการได้ยิน แต่ก็ยังสามารถสื่อสารผ่านการพูดและได้ยินเสียง ผ่านการใช้เครื่องช่วยฟัง โดยอาศัยการจับจังหวะเพลงผ่านแรงสั่นสะเทือนจากนาฬิกา เครื่องเมโทรนอม เทคโนโลยี รวมถึงฝึกซ้อมอย่างหนัก เพราะสมาชิกแต่ละคน มีระดับของการสูญเสียการได้ยินที่ต่างกัน การเริ่มต้นฝึกซ้อมจึงไม่ง่ายนัก
สมาชิกของวงประกอบไปด้วย สมาชิก 3 คน ได้แก่ อีชานยอน (Lee Chanyeon) อายุ 26 ปี รับหน้าที่แร็ปเปอร์, พัคฮยอนจิน (Park Hyunjin) อายุ 25 ปี รับหน้าที่นักร้องหลัก และคิมจีซอก (Kim Jiseok) อายุ 21 ปี รับหน้าที่แร็ปเปอร์ โดยพวกเขามีระดับการสูญเสียการได้ยินในระดับที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต คิมจีซอกหูหนวกแต่กำเนิด, พัคฮยอนจิน สูญเสียการได้ยินตอนอายุ 3 ขวบ และ อีชานยอน หูหนวกตอนที่เขาอายุ 18 ปี
อย่างที่ได้กล่าวว่าทั้งสามคน มีความสามารถในการได้ยินเสียงแตกต่างกัน หมายความว่าแต่ละคนจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง ต่อเสียงเดียวกันแตกต่างกันไป โดยต้องผ่านการจดจำว่า ต้องเริ่มร้องและหยุดร้องตรงไหน ออกเสียงอย่างไร เนื่องจากไม่ได้ยินเสียงครบ 100% จึงต้องพึ่งพาประสาทหูเทียม และอุปกรณ์ช่วยการได้ยินเสียง รวมถึงใช้การอ่านริมฝีปากในการสื่อสาร
- การส่งเสียงเชียร์ไม่ได้จำเป็นกับสมาชิกวง
วัฒนธรรมของการเข้าชมไอดอลในห้องอัด สตูดิโอถ่ายทำ หรือแม้กระทั่งในการเปิดตัว อาจมีเสียงตะโกน เสียงเชียร์ จากบรรดาแฟนเพลงที่ดังกึกก้อ แต่สำหรับพวกเขาทั้งสามคนแล้ว ความเงียบของแฟนคลับ ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ท้อใจ แต่ในทางตรงกันข้าม กลับเป็นเรื่องที่น่าประทับใจมากกว่า
เพราะประสาทการรับเสียงไม่เหมือนคนปกติ ที่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์หลายอย่าง ทำให้แฟนคลับเองก็หลีกเลี่ยงที่จะตะโกน เพื่อไม่ให้ Big Ocean หลุดจากเสียงดนตรีแบคกิ้งแทร็ค (backing track) จนทำให้การแสดงมีปัญฆา กลับส่งกำลังใจด้วยการโยกตัวตาม หรือชูแขนให้กำลังใจแทน
ถึงจะไม่โดดเด่น แต่ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของวงการเพลงเกาหลี ที่เปิดพื้นที่ให้ความหลากหลายของสังคม ได้ออกมาแสดงความสามารถของตัวเอง และความแตกต่างเหล่านั้นก็นับเป็นสีสันใหม่ ๆ ที่สำคัญการเดบิวต์ของ Big Ocean ได้แสดงให้โลกเห็นว่า "ถ้าหากมีความตั้งใจจริง ทุกสิ่งในโลกก็เป็นจริงได้ ถึงจะไม่ยิน แต่ดนตรีจะเป็นสื่อกลาง ที่ทำให้คนทุกความแตกต่างเชื่อมหากัน"