ย้อนดูไทม์ไลน์ จุดเริ่มต้น มหากาพย์ ADOR vs HYPE จากความขัดแย้งของค่ายแม่และค่ายลูก ส่งผลกระทบด้านลบต่อไอดอล จนต้องแสดงจุดยืน
ในบรรดาข่าวบันเทิงเกาหลี ข่าวที่ถูกจับตามองและยังคงพูดถึงอย่างเป็นระยะ ยังคงเป็นเรื่องสงครามการเมืองของ มินฮีจิน (Min Heejin) อดีตผู้บริหารค่าย ADOR และ บังชีฮยอก (Bang sihyuk) ประธาน HYBE Corporation ถึงแม้เรื่องราวการฟ้องร้อง การใช้สื่อในการโจมตี รวมไปถึงเรื่องดราม่าจะเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเมษายน 2567 ที่ผ่านมา แต่ในเดือนกันยายนนี้ก็ยังถูกพูดถึงอีกครั้ง เมื่อ NewJeans ได้เปิดช่องยูทูปใหม่ขึ้นเมื่อวาน (11 กันยายน 2567) โดยเปิดเพื่อไลฟ์แสดงจุดยืนในความขัดแย้งนี้
การออกมาแสดงจุดยืนคราวนี้ของ NewJeans ถือเป็นการเรียกคืนปมพิพาทเดือดของวงการ K-POP อีกครั้งก็ว่าได้ เมื่อชาวเน็ตหลายส่วนเกิดเสียงแตกในความคิดเห็น ด้วยคำที่ ฮันนิ (หนึ่งในสมาชิก NewJeans) ได้กล่าวว่าเธอถูกละเลยจากผู้บริหารคนใหม่ หลังแจ้งไปว่าผู้จัดการวงไอดอลอื่น สั่งให้ไอดอลคนดังกล่าวเมินไม่ต้องทักเธอ พร้อมกับได้รับการดูแลที่บอกว่า ไม่มีหลักฐานเท่ากับทำอะไรไม่ได้
ก่อนที่จะไปถึงจุดล่าสุดถึงสถานการณ์ข้อพิพาทเดือดจากทีมผู้บริหาร ปมความขัดแย้งจนต้องขึ้นศาล หรือจุดที่ศิลปินไอดอลต้องออกมาไลฟ์แสดงจุดยืนนี้ Amarin Online จะพาไปย้อนไทม์ไลน์ ปมเหตุการพิพาทของวงการเคป็อปของผู้บริหารทั้งสองฝ่าย ไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งตัวละครหลัก 2 ฝ่าย อันได้แก่ HYBE Corporation และ มินฮีจิน อดีตผู้บริหารค่าย ADOR
จุดเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ของ HYBE LABELS
HYBE LABELS ถือเป็นผลงานอาณาจักรของการขยายขอบเขตของค่าย Big Hit เดิมทีก่อนที่จะมีการเปลี่ยนชื่อมาเป็น HYBE Corporation (ไฮบ์ คอร์ปอเรชัน) หัวเรือใหญ่อย่าง "บังชีฮยอก" นักแต่งเพลงยุคบุกเบิกของวงการเพลงเคป็อป โดยเริ่มมาจากการทำงานร่วมกับ พัคจินยอง (JYP) ผู้ก่อตั้งค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ JYP Entertainment
หลังจากนั้นได้ไม่นาน บังชีฮยอก ได้แยกตัวออกมาและก่อตั้งค่าย Big Hit Entertainment ในปี 2548 โดยมีแผนที่จะปลุกปั้นวงไอดอลบอยกรุ๊ปที่จะสร้างชื่อเสียงให้โลกประจักษ์ให้ได้ จนกระทั่งผลักดันให้วง BTS ขึ้นเป็นเบอร์ต้นในวงการเพลง ตีตลาดไปทั่วโลก ซึ่งผลของการผ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ทำให้ค่ายบิ๊กฮิตก้าวเข้ามาเป็นค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ในทำเนียบ BIG 4 ของวงการเพลงเกาหลีใต้ ร่วมกับ SM Entertainment, JYP Entertainment และ YG Entertainment
หลังจากนั้นได้ไม่นาน Big Hit ได้มีการวางแผนสร้างอาณาจักรของตัวเองขึ้นมาในชื่อ HYBE Corporation โดยการซื้อค่ายเพลงอื่นเข้ามาอยู่ในเครือเดียวกัน โดยมีการแบ่งเป็นเลเบล (Labels) ทั้งหมด 6+1 เลเบล พร้อมศิลปินในสังกัดเฉพาะ แยกดังนี้
- Big Hit Music ค่ายที่ดูแล BTS, TXT และลีฮุน | เปอร์เซ็นต์การถือหุ้นของ HYBE : 100%
- Belift Lab ค่ายเพลงร่วมกับ CJ E&M ค่ายที่ดูแล ENHYPEN และ ILLIT | เปอร์เซ็นต์การถือหุ้นของ HYBE : 100%
- Source Music ค่ายที่ดูแล LE SSERAFIM | เปอร์เซ็นต์การถือหุ้นของ HYBE : 80%
- ADOR ค่ายที่ดูแล NewsJeans | เปอร์เซ็นต์การถือหุ้นของ HYBE : 80%
- Pledis Entertainment ค่ายที่ดูแล Bumzu, Baekho, Hwang Minhyun, SEVENTEEN, Fromis_9 และ TWS | เปอร์เซ็นต์การถือหุ้นของ HYBE : 85%
- KOZ Entertainment ค่ายที่ดูแล Zico, DVWN และ BOYNEXTDOOR | เปอร์เซ็นต์การถือหุ้นของ HYBE : 75.02%
- HYBE JAPAN ค่ายที่ดูแล &TEAM | เปอร์เซ็นต์การถือหุ้นของ HYBE : 100%
มินฮีจิน นักสร้างแบรนด์ย้ายค่ายมาฟอร์มทีม
มินฮีจิน (Min Heejin) ก่อนที่จะได้ย้ายมาอยู่ภายใต้การทำงานร่วมกันกับไฮบ์ เธอเป็นหนึ่งคนที่ได้รับความชื่นชม ในฐานะผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเคป็อปมาอย่างยาวนาน เธอคลุกคลีอยู่ในวงการเพลงในฐานะ Creative Director (ครีเอทีฟไดเรกเตอร์) ของ SM Entertainment ผู้อยู่เบื้องหลังคอนเซปต์ของวงไอดอลชั้นนำอย่าง Girls’ Generation, SHINee, f(X), EXO และ Red Velvet
ด้วยความสามารถของมินฮีจิน ทำให้การทำงานและนำเสนอในแง่มุมของไอดอล กลายเป็นรูปร่าง และสร้างความโดดเด่นให้กับเธอ จนกลายมาเป็นหนึ่งในคณะผู้บริหารที่ได้รับการเลื่อนขั้นไวที่สุด ก่อนที่จะตัดสินใจลาออกด้วยเหตุผลรู้สึกเบิร์นเอาท์ หลังจากการโบกมือลาต้นสังกัดเดิมที่ทำงานร่วมกันในปี 2561 มินฮีจินได้เข้าร่วมกับ HYBE ในปี 2562 ที่ถือเป็นช่วงการเปลี่ยนผ่านที่ขยับขยายอาณาจักรให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
จากการเริ่มดูแลเรื่องการรีแบรนดิ้งของบริษัท มินฮีจินก็ได้รับตำแหน่งซีอีโอของ ADOR ค่ายเพลงน้องใหม่ ซึ่ง HYBE ถือหุ้น 80% ส่วนฝ่ายบริหารของ ADOR ถือหุ้นที่เหลือ โดย มินฮีจิน มีหุ้นในมืออยู่ 18% และ 2% อยู่ในมือของทีมบริหารค่าย ADOR ด้วยแนวทางสร้างศิลปินที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ADOR ได้เดบิวต์เกิร์ลกรุ๊ปวงแรกคือ NewJeans ในช่วงปลายปี 2565
NewJeans ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของวงเกิร์ลกรุ๊ปเจน 4 ด้วยสไตล์ของสมาชิกในวง ที่มีความสดใสแบบ Girls Next Door แนวเพลงที่แปลกใหม่แต่ฟังง่าย มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในแง่ของซาวด์ดนตรีที่ได้รับอิทธิพลจากยุค 2000s วิชวลที่ตอบรับกับกระแส Y2K ทำให้วงได้รับความสนใจและประสบความสำเร็จแทบจะทันทีที่เดบิวต์
เรื่องราวว้าวุ่นของเหล่าผู้บริหารค่าย
ภายใต้ความสำเร็จของ NewJeans มินฮีจินผู้ที่ภาคภูมิใจว่านี้คือความสำเร็จในฐานะนักปั้น ค่ายแม่อย่าง HYBE ที่สัมผัสได้ถึงความผิดปกติ จึงได้ทำการตรวจสอบภายในการบริหารค่ายของเธอ ในวันที่ 22 เมษายน 2567 ได้มีการรายงานข่าวว่า HYBE ดำเนินการตรวจสอบภายในค่ายเพลง ADOR หลังพบว่า มินฮีจิน และผู้บริหารระดับสูงอีกรายหนึ่ง พยายามแยกตัว ADOR ออกจากเป็นอิสระ ด้วยการขายข้อมูลบริหาร สัญญาและเอกสารที่เป็นความลับอื่น ๆ ให้แหล่งเงินทุนและบุคคลภายนอก
จากนั้นไม่นาน ได้มีการรายงานว่า HYBE ได้แจ้งให้บอร์ดบริหารของ ADOR เรียกประชุมผู้ถือหุ้น และแจ้งให้มินฮีจินลาออก รวมถึงจะดำเนินคดีกับมินฮีจิน โดยให้คำกล่าวว่ามินฮีจิน ต้องการยึดเลเบลนี้ไปครอบครองเอง จากที่ตอนนี้มีหุ้นในบริษัทนี้ราว 18-20% โดยใช้กลยุทธ์ในการทำให้ภาพลักษณ์ HYBE เสียหาย เมื่อเกิดวิกฤตจะช่วยปูทางให้ ADOR เข้าซื้อหุ้นอีก 80% ที่ครอบครองโดย HYBE จากนั้น ก็แบ่งให้กับนักลงทุนที่สนับสนุน หรือกลุ่มผู้นำฝ่ายบริหาร ที่อยู่ภายใต้การทำงานของมินฮีจิน
จากการนำเสนอข่าวดังกล่าว ทางมินฮีจินก็ออกมาปฏิเสธว่า "การกล่าวอ้างที่ว่าพยายามแย่งชิงสิทธิ์การจัดการของ ADOR นั้นไม่เป็นความจริง" โดยให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Korea Economic Daily พร้อมชี้ว่าเรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจาก ข้อโต้แย้งเรื่อง "การลอกเลียนแบบ" โดยชี้เป้าอย่างชัดเจนไปที่วง iLLIT วงน้องใหม่จากค่าย Belift Lab อีกหนึ่งค่ายเพลงในเครือ HYBE
ในการรายงานข่าวระบุว่า ฝั่งของมินฮีจินดำเนินการแอบแฝง เพื่อทำให้ศิลปินของ HYBE เผชิญกับกระแสด้านลบ โดยมีจุดประสงค์เพื่อโน้มน้าวผู้ปกครองศิลปินให้กดดัน HYBE อาทิ รายละเอียดส่วนตัวเกี่ยวกับศิลปิน รูปถ่ายและข้อมูลสุขภาพก่อนเดบิวต์ ด้วยการปล่อยให้ข้อมูลรั่วไหลออกมา โดย allkpop ได้รายงานข่าวว่า HYBE รู้เรื่องนี้จากการแจ้งเบาะแสไม่เปิดเผยตัวตน ก่อนจะทำการตรวจสอบจนทราบว่า บุคคลที่เกี่ยวข้องกับแผนการนี้คือ มินฮีจิน และอีกบุคคลหนึ่งที่ว่า "นาย A" ผู้ที่เพิ่งจะย้ายไปร่วมงานกับ ADOR เป็นแกนหลักของแผนการนี้
ผลักแสงเรื่องทะเลาะเปอร์เซ็นต์หุ้น ด้วยการลอกเลียนแบบ
จากที่บอกในข้างต้นว่ามินฮีจินอ้างถึง การลอกเลียนแบบคอนเซปต์ของวง iLLIT เกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่ที่เพิ่งเดบิวต์ช่วงเดือนมีนาคม มีความคล้ายคลึงกับ NewJeans โดยเพลง Magnetic ตกเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจากมีความคล้ายคลึงทั้งเสื้อผ้า สไตล์เพลง ท่าเต้น และมิวสิควิดีโอ จนกลายเป็นเรื่องถกเถียงใหญ่โตในวงการเพลง อีกทั้งยังชี้ว่าภาพทีเซอร์ของ iLLIT ถูกปล่อยออกมา ก็มีการตอบรับทางออนไลน์ โดยหลายคนคิดว่าคือ NewJeans
มินฮีจินกล่าวว่า "เป็นเรื่องย้อนแย้งอย่างมาก ที่ความสำเร็จของ NewsJeans กำลังถูกคุกคามอย่างร้ายแรง โดยผู้กระทำคือ HYBE ซึ่งเป็นผู้ที่ควรจะปกป้อง" และเน้นย้ำว่า "การลอกเลียนแบบ ไม่ใช่แค่ฝีมือของ Belift Lab ฝ่ายเดียว แต่ HYBE มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย โดยเลือกที่จะละเมิดผลงานที่ประสบความสำเร็จ เพียงเพื่อแสดงหาผลกำไรระยะสั้น" ซึ่ง ADOR ไม่เคยอนุญาตหรือยินยอมให้ใครมาลอกเลียนแบบ NewJeans
ทั้งยังอ้างอีกว่า ตัวเธอเองและค่าย ADOR ได้แจ้งไปยัง Belift Lab และ HYBE หลายครั้งเพื่อให้แก้ไขเรื่องนี้ แต่ก็ไม่มีการดำเนินการใด รวมถึงแจ้งอย่างเป็นทางการถึง HYBE ให้รับทราบปัญหาการลอกเลียนแบบที่เกิดขึ้น สร้างความเสียหายต่อมูลค่าของ NewJeans พร้อมทั้งระบุถึงข้อกล่าวหาเรื่องยึดบริษัทว่า "การกระทำที่ถูกต้องตามกฎหมาย ที่มุ่งรักษาความสำเร็จของศิลปินในเครือถูกบิดเบือนไปในทางที่ ขัดต่อผลประโยชน์ หรือพยายามที่จะแย่งชิงสิทธิ์ในการจัดการได้อย่างไร"
เรื่องราวถูกเบี่ยงประเด็นไปในเชิงที่ว่า HYBE กล่าวหาว่ามินฮีจิน วางแผนที่จะยึดอำนาจ ADOR โดยใช้กลยุทธ์ แต่มินฮีจินเน้นที่ความเหมือนของ iLLIT กับ NewJeans จนเหมือนกับว่า ความขัดแย้งกับบริษัทแม่ คือเรื่องของวงไอดอล ไม่ใช่เรื่องความไม่โปร่งใสด้านการบริหาร
ประเด็นลุกลาม ชื่อศิลปินอื่นเกี่ยวข้องเพิ่มขึ้น
HYBE ออกมาประกาศยื่นฟ้องมินฮีจินและทีมบริหารที่เกี่ยวข้อง ในข้อหาละเมิดต่อหน้าที่ของตนเอง โดยพบหลักฐานว่าพยายามจะแยกตัวออกจากค่ายแม่ ทั้งยังมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า ผู้บริหาร ADOR พยายามกดดันให้ HYBE ขายหุ้นที่ตนเองถืออยู่ นอกจากนี้ยังมีการรายงานอ้างอิงจากเอกสารที่ยึดมาได้ โดยเป็นข้อกล่าวหาของมินฮีจิน ที่อ้างว่าบังชีฮยอกก็อบปี้ไอเดียไปสร้างวง BTS รวมไปถึงการพูดว่า "iLLIT ก็อปปี้ NewJeans ซึ่งไม่ใช่แค่นั้น RIIZE และ TWS ก็ก็อปปี้ NewJeans ด้วย"
ในวันเดียวกัน มินฮีจินก็ออกมาแถลงอย่างเป็นทางการทั้งน้ำตา โดยบอกว่า แนวทางการทำงานของเธอและ HYBE แตกต่างกัน พาดพิงถึงกระบวนการทำงานของ HYBE, การทำงานของ BTS, การเดบิวต์เกิร์ลกรุ๊ป LE SSERAFIM และ การสั่งยุบวง GFRIEND โดยยังคงปฏิเสธเรื่องสิทธิการบริหารค่าย ADOR
ช่วงหนึ่งของการแถลงข่าว มินฮีจินได้พูดว่า "ฉันไม่ได้ทรยศ HYBE แต่ HYBE ทรยศฉัน ฉันรู้สึกเหมือนถูกใส่ร้าย" อีกทั้งยังพูดถึงสมาชิก NewJeans ว่าสมาชิกเป็นเหมือนลูกของเธอ และเสียใจที่ต้องปล่อยพวกเธอไว้กับค่าย HYBE ก่อนที่จะต้องยอมแพ้และจากพวกเธอไป
การที่มินฮีจินออกมาให้แถลงดังกล่าว ถือเป็นการกล่าวถึงศิลปินวงอื่นอย่างชัดเจน การระบุชื่อวงจากค่ายร่วมหรือค่ายอื่น ถือเป็นการสร้างสงคราวย่อม ๆ ในกลุ่มแฟนคลับด้วยกัน การมีข้อพิพาทดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นของ HYBE ร่วงลงเกือบ 10% โดยในวันที่ 22 เมษายน หุ้น HYBE ร่วงลง 7.8% และในวันที่ 23 เมษายน หุ้นตกไปอีก 1.3% รวมแล้ว HYBE สูญเสียมูลค่าการตลาดไปมากถึง 8.5 แสนล้านวอน (ประมาณ 632 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
แถลงการณ์ของ HYBE LABELS ในเวลาเดียวกัน
หลังจากตกเป็นประเด็นร้อนแรง พัคจีวอน (Park JiWon) ซีอีโอของ HYBE ก็ได้ออกแถลงการณ์ทางการเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยระบุว่าเข้าใจดีว่าหลายคนสับสนและตื่นตระหนก ต้นสังกัดก็เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามได้ยืนยันว่า จากการตรวจพบว่ามีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าจะมีการยึดค่ายเพลงจริง จึงได้มีการตรวจสอบเป็นการภายในเพิ่มเติม รวมถึงดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
โดยหวังว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากข่าวที่ถูกนำเสนอออกไป ยืนยันว่าค่ายเพลงที่เป็นต้นเรื่อง ไม่ได้ปฏิบัติอย่างเหมาะสมต่อการถูกตรวจสอบที่สมเหตุสมผล ปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือ และทุกสิ่งที่อย่างที่พวกเขากล่าวอ้างนั้นไม่เป็นความจริง HYBE ตรวจพบว่าประเด็นต่าง ๆ ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาในช่วงที่ iLLIT กำลังเดบิวต์ เป็นสิ่งที่ถูกวางแผนไว้ล่วงหน้า ซึ่งเราจะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเข้มงวด และดำเนินมาตรการจัดการที่เหมาะสมต่อไป
CEO กล่าวอีกว่า ขอให้พนักงานของ ADOR อย่ากังวลและทำหน้าที่ต่อไป เพื่อพัฒนาการเติบโตและการคัมแบ็คของ NewJeans ซึ่ง HYBE จะให้การสนับสนุนและปกป้องศิลปินเสมอ สำหรับทีมงานของ Belift Lab เข้าใจดีว่าทุกคนพยายามอย่างมากในการเดบิวต์ iLLIT และรู้สึกแย่กับข่าว แต่ขอให้มองข้ามผลกระทบจากคำโกหก และขอให้ทำหน้าที่ต่อไปเพื่อความสำเร็จของวง
ก่อนที่จะทิ้งท้ายว่า "ขอโทษที่ทำให้แฟน ๆ ศิลปิน และพนักงานของค่ายกังวล สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในการรวมระบบการทำงานเข้าด้วยกัน ตอนนี้ใกล้ถึงบทสรุปแล้ว เราจะพยายามอย่างเต็มที่ในการดูแลจิตใจของศิลปิน ผู้เป็นคนที่มีค่าในวงการ K-POP" พร้อมทั้งออกแถลงการณ์อีกครั้งผ่าน Weverse โดยมีใจความสำคัญว่า กิจกรรมของ NewJeans จะดำเนินต่อไปภายใต้การดูแลของ HYBE โดยตรง พร้อมปกป้องสิทธิ์และผลประโยชน์ของศิลปิน
คำสั่งศาลให้อยู่ แต่ค่ายให้ลงจากตำแหน่ง
30 พฤษภาคม 2567 ศาลกลางกรุงโซลออกคำสั่งห้ามไม่ให้ HYBE กระทำการใดที่อาจส่งผลเสียหายแก่สิทธิ หรือทรัพย์สินของมินฮีจิน กล่าวคือศาลมีคำสั่งให้มินฮีจินดำรงในตำแหน่งผู้บริหารค่าย ADOR ต่อไป โดยสมาชิกวง NewJeans รวมไปถึงผู้ปกครองก็ได้ยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อช่วยให้มินฮีจินชนะการต่อสู้บนชั้นศาล
ชัยชนะของมินฮีจินทำให้ HYBE ไม่สามารถใช้สิทธิ์ในการโหวต เพื่อหลุดพ้นจากตำแหน่งตามแพลนที่บริษัทจะทำในการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 31 พฤษภาคม ซึ่งถ้าหากมินฮีจินพ่ายแพ้ต่อการยื่นคำร้องต่อศาล จะถูกโหวตบังคับให้ลงจากตำแหน่งซีอีโอ จากคำสั่งศาลครั้งนั้นทำให้การโปรโมทของ NewJeans ยังคงดำเนินไปภายใต้การดำเนินการของมินฮีจิน
จนกระทั่งวันที่ 27 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ADOR ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ ถึงการปลดมินฮีจินจากตำแหน่ง โดยได้ระบุว่า "ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารของ ADOR ได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในกฎหมาย และข้อบังคับของบริษัทอย่างถูกต้อง ตั้งแต่การแจ้งวาระการประชุมไปจนถึงการลงมติ เพียงแต่วันจัดประชุมถูกกำหนดขึ้นตามวันที่มินฮีจินต้องการ เป็นอันต้องเปี่ยนไป
โดยมินฮีจินได้เข้าร่วมประชุมผ่านวิดีโอคอล ในการประชุมคณะกรรมการได้มีการหารือ และได้ตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเพื่ออนาคตของ ADOR และ NewJeans โดยการให้มินฮีจินลงจากการบริหารค่าย และสิ้นสุดการทำงานในตำแหน่งซีอีโอ แต่จะยังคงดูแลวง NewJeans ในฐานะโปรดิวเซอร์ และจะยังคงเป็นคณะกรรมการบริหารภายในค่ายต่อไป"
มหากาพย์การฟ้องร้องครั้งยิ่งใหญ่จากการกล่าวอ้าง
ย้อนกลับไปในเดือนพฤษภาคม บังชีฮยอก ผู้ก่อตั้ง Bighit Music และผู้ถือหุ้นใหญ่สุดของ Hybe Corporation, ฮันซองซู ผู้ก่อตั้ง Pledis Entertainment, โชซองจิน ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารของ Source Music พนักอาวุโสของ Hybe อีกหลายคนได้ยื่นฟ้อง มินฮีจิน โดยระบุว่าเป็นการกล่าวอ้างที่สร้างความเสียหายให้กับศิลปินและค่าย
เมื่อเวลาผ่านไปในเดือนกรกฎาคม Source Music ค่ายที่ดูแล LE SSERAFIM ยื่นฟ้องมินฮีจินพร้อมเรียกร้องค่าเสียหายกว่า 500 ล้านวอน ในข้อหาหมิ่นประมาท แทรกแซงธุรกิจ รวมทั้งการดูถูกให้เสียหาย หลังจากที่มินฮีจินเคยแถลงข่าวที่ไม่เป็นความจริง ทำให้วงเสื่อมเสียเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
โดยยึดจากการกล่าวอ้างของมินฮีจิน ที่อ้างว่าเธอเป็นคนเลือกสมาชิก NewJeans ด้วยตัวเธอเอง การตัดสินใจของเธอที่จะทำให้ NewJeans เดบิวต์เป็นเกิร์ลกรุ๊ปแรกของ HYBE และเธอยังอ้างว่า Source Music ละเลยความสนใจไปเดบิวต์ LE SSERAFIM ก่อน ซึ่งการแถลงดังกล่าวสร้างความเข้าใจผิด ก่อให้เกิดข่าวลือว่าต้นสังกัดดูแล LE SSERAFIM เป็นพิเศษกว่าวงอื่น ซึ่งนำพาสู่การคุกคามทางโลกออนไลน์ต่อสมาชิกในวง
Source Music ได้ส่งหลักฐานสนับสนุนการฟ้องร้อง โดยเป็นหลักฐานที่ระบุว่า มีการเลื่อนการเดบิวต์ NewJeans ให้ช้าออกไป ด้วยตัวมินฮีจิน และรู้อยู่แล้วว่า LE SSERAFIM จะเดบิวต์ก่อน รวมไปถึงหลักฐานจากความคิดเห็นเชิงลบบนโซเชียลมีเดีย
การบริหารที่ไม่มีมินฮีจิน ก่อให้เกิดการแสดงจุดยืนของ NewJeans
แม้การคัมแบ็กของ NewJeans จะดำเนินต่อไป แต่การเข้าร่วมงานรวมของค่ายใน Weverse Con Festival 2024 ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 15-16 มิถุนายน 2567ที่ผ่านมา กลับไร้เงาของสมาชิกวงเข้าร่วมงาน อีกทั้งความรุงรังจากสงครามการเมืองระหว่างค่ายแม่และค่ายลูกยังไม่จบ เมื่อสมาชิกวง NewJeans ได้ออกแถลงการณ์ด้วยการไลฟ์สด
ในวันที่ 11 กันยายน 2567 ผ่านช่อง YouTube ที่เปิดขึ้นใหม่ในชื่อ "nwnjs" ก่อนที่จะถูกลบช่องทิ้งในภายหลัง โดยพูดถึงสถานการณ์ภายในค่าย ADOR ที่กำลังเผชิญปัญหาภายใน หลังจากการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร
ฮเยอิน สมาชิก NewJeans ได้เปิดเผยว่า การไลฟ์ครั้งนี้ทำขึ้นเพื่อต้องการพูดถึงความเห็นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบริษัท โดยเป็นการตัดสินใจหลังจากการปลดมินฮีจิน โดยกล่าวว่าพนักงานที่ทำงานร่วมกันได้รับแรงกดดันจากหลายฝ่าย สมาชิกวงที่เห็นเหตุการณ์รู้สึกอึดอัดกับเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งอึดอัดที่ไม่สามารถทำอะไรได้ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เกิดความกังวลต่อกิจกรรมในอนาคตของวง
สมาชิกต่างกังวลว่าจะมีปฏิกิริยาที่กล่าวว่า เบื้องหลังการไลฟ์นี้อยู่ภายใต้การควบคุมของมินฮีจิน แต่พวกเธอยังยืนยันว่านี่คือการตัดสินใจร่วมกันของสมาชิก โดยต้องการพูดถึงสิ่งที่คิด จึงได้เตรียมการถ่ายทำ และขอความร่วมมือจากทีมงานที่ไว้ใจได้ ส่วนแรงจูงใจที่ออกมาพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะแรงสนับสนุนของแฟนคลับที่มีให้อย่างเต็มที่ เมมเบอร์จึงรู้สึกว่าจะหลบอยู่เฉย ๆ ได้อย่างไร
ถึงแม้เรื่องนี้จะเป็นเรื่องผู้บริหาร แต่ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเมมเบอร์ จึงเห็นตรงกันว่าการพูดด้วยตนเองอย่างจริงใจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการเรื่องนี้ พร้อมทั้งได้บอกว่าจากการประชุมกับผู้บริหารชุดปัจจุบัน การแสดงความคิดเห็นของเมมเบอร์ กลับไม่ได้รับการส่งต่อไปได้อย่างชัดเจน การทำงานแบบนี้จึงไม่ใช่แนวทางที่วงคาดฝันไว้
ดาเนียล สมาชิก NewJeans กล่าวว่า "ความฝันที่เคยวางแผนไว้กับมินฮีจิน กำลังพังทลายลงหลังการปลด พวกเธอทำผิดอะไร การแยกจากทีมงานที่เคยทำมาด้วยตลอด ทำให้เกิดความกังวลว่าจะไม่ได้ร่วมงานกันอีก" พร้อมทั้งระบุว่าหากต้องการให้ทำงานอย่างมีความสุข ก็ขอให้พวกเธอได้ทำเพลงในแบบที่ชอบและมีความสุขกับมัน
แฮริน สมาชิก NewJeans ได้แสดงความไม่เข้าใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งระบุว่าไม่เข้าใจถึงอิทธิพลจากภายนอก ทำไมถึงได้พยายามขัดขวางการทำงาน ทำไมค่ายแม่อย่าง HYBE ถึงได้คิดว่า การกระทำที่ทำอยู่ในตอนนี้ จะเป็นการช่วยเหลือและพัฒนาแนวทางของวง
ฮเยอินได้กล่าวอีกครั้งถึงการทำงานของ HYBE โดยได้ระบุว่าเป็นการทำงานที่ไม่เป็นธรรม เป็นการทำงานที่ไม่โปร่งใส ต้องการให้มินฮีจินกลับมาดำรงตำแหน่งซีอีโอ พร้อมทั้งขอร้องให้คืนสถานการณ์ภายในค่าย ADOR ให้กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม โดยกล่าวว่า "เราไม่ได้ขออะไรมากไปกว่านี้ แค่ขอให้ทุกคนได้ทำหน้าที่ของตัวเองในตำแหน่งที่ควรจะเป็น"
ในขณะเดียวกัน ดาเนียล แสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า "ฉันไม่อยากเห็น CEO มินฮีจินถูกกดดันอีกต่อไป HYBE ทำให้เรามองเห็นแต่ด้านที่ไร้ความเป็นมนุษย์ของบริษัท แล้วพวกเราจะได้เรียนรู้อะไรจากบริษัทแบบนี้"
ก่อนการจบไลฟ์สดครั้งนี้ มินจี หนึ่งในสมาชิก NewJeans ได้เสริมในตอนท้ายว่า
"สิ่งที่พวกเราต้องการคือให้ CEO มินฮีจินกลับมาทำหน้าที่ และดูแลการโปรดิวซ์เหมือนเดิม ถ้าความต้องการนี้ถูกตอบรับ เราก็ไม่ต้องการมีความขัดแย้งกับ HYBE อีก หากความคิดเห็นของเราถูกเผยแพร่ออกไปอย่างถูกต้อง เราหวังว่าประธานบังชีฮยอกและ HYBE จะทำการตัดสินใจที่ชาญฉลาด และคืนสถานการณ์ของ ADOR กลับมาเป็นเหมือนเดิมภายในวันที่ 25"
ทั้งนี้หลังจากการแถลงข้อเรียกร้องของสมาชิกวง เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (12 กันยายน 2567) ภายในการประชุมผู้ถือหุ้นพิเศษครั้งแรกของ HYBE อีแจซัง (Lee JaeSang) ที่เคยดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการให้เป็น CEO ของ HYBE ต่อจาก ปาร์คจีวอน (Park JiWon)
โดยทันทีที่เข้ารับตำแหน่ง อีแจซังได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำขอล่าสุดของสมาชิก NewJeans ที่ขอให้มินฮีจินกลับมาดำรงตำแหน่ง CEO ADOR ได้กล่าวกับนักข่าวว่า "แม้จะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง แต่เราจะยึดมั่นตามกฎระเบียบและตอบสนองอย่างใจเย็น HYBE เป็นบริษัทที่ปฏิบัติตามกฎและบริหารงานอย่างแม่นยำ เมื่อมองย้อนกลับไป ผู้ที่ปฏิบัติตามกฎมักจะเป็นผู้ชนะเสมอ"
เพื่อป้องกันการทะเลาะที่จะสร้างผลเสียให้กับศิลปิน ในบทความนี้ไม่กล่าวถึงประเด็นการดราม่าใดบนโลกออนไลน์ หรือการโจมตีระหว่างแฟนด้อมด้วยกัน เป็นเพียงการหยิบข้อมูลการฟ้องร้องของมินฮีจิน, HYBE, ค่ายร่วมเลเบล, คำตัดสินของศาล, การแถลงของสมาชิกวง รวมไปถึงคำกล่าวอ้างจากการแถลงข่าวเท่านั้น
มหากาพย์การบริหารค่ายของมินฮีจิน ที่มีต่อการสู้รบกับค่ายแม่อย่าง HYBE กระแสชนวนดราม่าที่มีต่อการบริหารศิลปิน รวมไปถึงการแสดงจุดยืนของสมาชิกวง NewJeans ยังคงเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันต่อไป การติดตามความคืบหน้าต่อการตอบรับของค่ายแม่ และผลสรุปของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ทิศทางการทำงานและอนาคตของเมมเบอร์ NewJeans จะเป็นอย่างไร ต้องติดตาม