พิชิต ขู่นายกฯ จี้สอบปม ทักษิณ นอนชั้น 14 ไม่เช่นนั้นเตรียมนำม็อบลงถนน

9 ก.ย. 67

พิชิต เผย 17 ก.ย. ยื่นหนังสือถึง "นายกฯอิ๊งค์" จี้สอบปม ทักษิณ นอนชั้น 14 ต้องจริงใจในกระบวนการยุติธรรม ไม่เช่นนั้นเตรียมนำมวลชนลงถนนแน่

วันที่ 9 ก.ย. 67 นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่ม เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.)กล่าวถึงการชุมนุมเมื่อวันเสาร์ที่ 7 ก.ย.ว่าหลายคนรู้สึกอึดอัดกับสถานการณ์การเมืองที่เป็นระบบเครือเครือญาติ จึงเห็นได้ว่าการชุมนุมมีผลตอบรับจากมวลชนทั้งกรุงเทพและต่างจังหวัด รวมถึงมีปรากฏการณ์ใหม่ซึ่งมีคนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมมากขึ้น ซึ่งมองว่าหลายคนคงเห็นสถานการณ์ร่วมกันว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย มาได้เพราะนายทักษิณ ชินวัตร ครอบครองสั่งการอยู่แล้ว จึงมองว่าสังคมมีคำถามว่าการเป็นนายกรัฐมนตรีต้องใช้ระบบเครือญาติ ไม่ใช่ความรู้ความสามารถจึงจะเป็นได้ รวมไปถึงหน้าตาของครม.ก็ทำให้คนมีคำถามมากขึ้น

1725872396870

ทั้งนี้ยืนยันว่าเป้าหมายและข้อเรียกร้องของคปท.ยังเป็นข้อเรียกร้องเดิม เรียกร้องให้ตรวจสอบกรณีนายทักษิณ ไม่ได้อยู่ในเรือนจำเลย ตลอดจนได้รับการลงโทษ และกรณีที่พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยออกมาเปิดเผยว่าได้เคยเข้าพบนายทักษิณ ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ดังนั้นกระบวนการดังกล่าวอาจนำไปสู่ผู้ที่เกี่ยวข้องหลายคนต้องเข้าเรือนจำ เนื่องจากปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จึงจำเป็นต้องเรียกร้องรัฐบาล ถึงแม้นางสาวแพทองธารจะเป็นบุตรสาวของนายทักษิณ แต่ในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรีจะต้องทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง รวมทั้งนโยบายที่คปท.ยังเคยมีคำถามต่อเนื่องมาจากรัฐบาลเศรษฐาจนถึงรัฐบาลนางสาวแพทองธาร โดยเฉพาะกาสิโน ซึ่งเป็นนโยบายที่เพิ่งประกาศ และพ.ร.บ.นิรโทษกรรมเป็นต้น

ทั้งนี้ยอมรับว่าได้มีการพูดคุยกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ซึ่งตอนนี้มีความเห็นที่ตรงกันว่าควรจะตรวจสอบรัฐบาล แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะออกมาชุมนุมเคลื่อนไหวร่วมกัน ส่วนจะมีโอกาสขึ้นเวทีร่วมกันหรือไม่ ขอให้เป็นเรื่องของอนาคต

ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่เคยกลัวประโยคที่ว่า การทำม็อบไม่ตายก็ติดคุกฟรี เนื่องจากมั่นใจว่าการเคลื่อนไหวของคปท.เป็นไปตามกรอบกฎหมายรัฐธรรมนูญ

1725872421386

ส่วนกรณีที่มวลชนบางส่วนตั้งคำถามถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่ามีส่วนในการกลับมาของนายทักษิณ นายพิชิตระบุว่า เป็นเรื่องที่ดีและประชาชนมีสิทธิ์ตั้งคำถาม ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าวเนื่องจากนายทักษิณ เข้ามาในสมัยปลายรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งส่วนตัวก็มองว่าพลเอกประยุทธ์ มีส่วนในการที่นายทักษิณกลับมา โดยรับรู้และประสานงานกันมาก่อน อย่างที่นายทักษิณ ได้เคยบอกว่าเคยโทรศัพท์หาก่อนที่เดินทางเข้ามา ซึ่งส่วนตัวมองว่าทุกคนมีสิทธิ์กลับประเทศ รวมถึงนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็มีสิทธิ์กลับประเทศเช่นกัน เพียงแต่ว่ากลับเข้ามาก็ต้องให้เคารพกระบวนการยุติธรรมไทย ต้องอยู่ในกระบวนการยุติธรรมต้องรับโทษ

ทั้งนี้มองว่าพรรคเพื่อไทยรวมกับพรรครวมไทยสร้างชาติหรือใครจะรวมกับใครก็เป็นสมการทางการเมือง แต่ประชาชนหรือคปท.มีหน้าที่ตรวจสอบรัฐ

นายพิชิต กล่าวอีกว่า ในวันที่ 17 ก.ย. ซึ่งเป็นวันประชุมครม.แรกจะไปยื่นหนังสือถึงรัฐบาลและไปถาม นางสาวแพทองธาร ในฐานะนายกรัฐมนตรีว่าจะสั่งการให้ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างไร และเร่งรัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่งเวชระเบียนนายทักษิณ และนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล ซึ่งการในวันดังกล่าวจะไม่มีการพักค้างและไม่ได้คาดหวังว่าจะมีมวลชนเข้าร่วมมากน้อยเพียงใด

ทั้งนี้มองว่าสิ่งที่เป็นเงื่อนไขอันตรายรัฐบาลนางสาวแพทองธาร คือสภาวะผู้นำของรัฐบาลและผู้ที่ไปฟ้องร้องไว้จำนวนมาก เช่นกันการชี้นำครอบงำพรรคและนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะเป็นเป็นตัวเร่งความสุกงอมของสถานการณ์ รวมทั้งนโยบายสายล่อฟ้าต่างๆ เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน

ส่วนจุดตายของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร นายพิชิต มองว่ามี 2 ส่วนคือ เรื่องที่มีผู้ร้องอยู่แล้วกรณีการแทรกแซงจากนายทักษิณ ซึ่งมีหลักฐานปรากฏชัด และท่าทีของนายทักษิณหลังจากนี้ จะทำให้รัฐบาลของนางสาวแพทองธารอายุสั้นมาก หากนายทักษิณยังแสดงบทบาทของผู้ชี้นำรัฐบาลอยู่ และจุดตายที่สอง คือเรื่องนโยบายถ้าไม่ทำให้ประชาชนจับต้องได้ ก็จะเป็นจุดตายที่ตัวชี้วัดอายุของรัฐบาล

และในวันที่ 20 ก.ย.จะเดินทางไป ป.ป.ช.เพื่อไปฟังความคืบหน้าหลังจากได้เคยเดินทางไปร้องก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตามหากสุดท้ายไม่สามารถเอาผิดนายทักษิณได้ และหากรัฐบาลไม่ดำเนินการตามข้อเรียกร้อง นายพิชิต ระบุว่า อาจจะนำมาสู่การเคลื่อนไหวชุมนุมใหญ่ เพราะสิ่งที่ห่วงมาก คือนางสาวแพรธาร จะไม่ใช้อำนาจเต็มในการตรวจสอบและมีการช่วยเหลือกัน หากเป็นเช่นนั้นเท่ากับเป็นการช่วยเหลือพวกพ้อง ทำให้เหตุผลนี้นำไปสู่การชุมนุมใหญ่ ที่ผ่านมาพยายามหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับประเทศ แต่รัฐบาลก็ต้องจริงใจในกระบวนการยุติธรรม ถ้ายังดื้อดึงอยู่ก็หนีไม่พ้นที่ประชาชนจะต้องลงถนนอีกครั้ง.

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม