เรืองไกร เขย่ารัฐบาล จี้ ป.ป.ช. แจ้งผลสอบ 3 รมต. “นภินทร-จุลพันธ์-สุรพงษ์” ปมยื่นบัญชีทรัพย์สิน จ่อส่งเรื่องให้ กกต. สอบอีกทาง
วันที่ 6 ก.ย. 67 นาย เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ป.ป.ช. ได้มีหนังสือ 2 ฉบับ ส่งมาทางไปรษณีย์ EMS แจ้งว่า กรณีการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของ นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ และ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลังนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า เป็นไปโดยถูกต้องตามมาตรา 114 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 หรือไม่
นายเรืองไกร กล่าวว่า ตามความในหนังสือ ป.ป.ช. ทั้ง 2 ฉบับดังกล่าว จึงนึกถึงกรณีที่เคยร้องขอให้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคมขึ้นมา ดังนั้นในวันนี้ตนจึงส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้ ป.ป.ช. แจ้งผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นข้อๆ ดังนี้
ข้อ 1. เมื่อวันที่ 27 ส.ค. 2567 ป.ป.ช. ได้มีหนังสือที่ ปช 0015/0355 แจ้งว่า ป.ป.ช. อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินในส่วนเงินลงทุนของนายนภินทร ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ ตามมาตรา 114 แห่งพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 หรือไม่ หากดำเนินการแล้วเสร็จ ผลการตรวจสอบเป็นประการใด จะแจ้งให้ทราบต่อไป
ข้อ 2. เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 2567 ป.ป.ช. ได้มีหนังสือที่ ปช 0015/0357 แจ้งว่า ป.ป.ช. อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง และ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินในส่วนเงินลงทุนของนายจุลพันธ์ ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ ตามมาตรา 114 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 หรือไม่ หากดำเนินการแล้วเสร็จ ผลการตรวจสอบเป็นประการใด จะแจ้งให้ทราบต่อไป
ข้อ 3. ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2567 และวันที่ 21 ม.ค. 2567 ข้าฯได้ยื่นหนังสือเพื่อขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ว่า แจ้งบัญชีทรัพย์สินโดยถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ แต่ปัจจุบันยังไม่ทราบว่า ป.ป.ช. ได้ดำเนินการตรวจสอบเช่นเดียวกับกรณีของนายนภินทร และ นายจุลพันธ์ หรือไม่
ข้อ 4. เนื่องจากในรัฐบาลชุดปัจจุบัน ยังมีบุคคลทั้ง 3 คน คือ นายนภินทร ศรีสรรพางค์ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ และนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีด้วย กรณีจึงมีความจำเป็นที่ควรขอให้ ป.ป.ช. หรือ กกต. ตรวจสอบต่อไป
ข้อ 5. ประกอบกับ รัฐธรรมนูญ มาตรา 221 บัญญัติว่า “ในการปฏิบัติหน้าที่ ให้องค์กรอิสระร่วมมือและช่วยเหลือกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ในการปฏิบัติหน้าที่ของแต่ละองค์กร และถ้าองค์กรอิสระใดเห็นว่ามีผู้กระทำการอันไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่อยู่ในหน้าที่และอำนาจขององค์กรอิสระอื่น ให้แจ้งองค์กรอิสระนั้นทราบเพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไป”
ข้อ 6. ต่อมาเมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2567 ข้าฯ ได้ไปให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง คณะที่ 6 ของ กกต. ในกรณีของนายจุลพันธ์ และนายนภินทร แล้ว ตามความในหนังสือที่ ลต 0011/11198 ลงวันที่ 1 ส.ค. 2567 ซึ่งส่งมาทางไปรษณีย์ EMS
ข้อ 7. ดังนั้น กรณีของนายสุรพงษ์ ซึ่งระยะเวลาได้ล่วงเลยมาพอสมควรแล้ว จึงขอทราบว่า ป.ป.ช.ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือไม่ ผลการตรวจสอบเป็นประการใด ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ก็จะได้นำผลการตรวจสอบของ ป.ป.ช. มาเพื่อพิจารณาดำเนินการส่งเรื่องให้ กกต. ตรวจสอบต่อไปอีกทางหนึ่งด้วย
นายเรืองไกร กล่าวว่า ดังนั้น ในท้ายหนังสือ จึงได้ขอให้ป.ป.ช. โปรดแจ้งผลการตรวจสอบบัญชีของนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ตามคำร้องลงวันที่ 12 ม.ค. 2567 และวันที่ 21 ม.ค. 2567 ว่า ป.ป.ช. ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วหรือไม่ ผลการตรวจสอบเป็นเช่นไร