เพลิงโหมไหม้นานเกือบ 7 ชม. โรงงานขยะรีไซเคิล-ผลิตเม็ดพลาสติกสมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิง 20 คันระงับเหตุ กลิ่นเหม็นไหม้พลาสติกฟุ้ง อพยพชาวบ้านใกล้เคียง
เมื่อเวลาประมาณ 23.45 น. วันที่ 5 ก.ย. 67 ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้รุนแรงเกิดขึ้นที่ โรงงานขยะรีไซเคิล และผลิตเม็ดพลาสติก ตั้งอยู่พื้นที่หมู่ที่ 4 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
ซึ่งประกอบกิจการรับซื้อและผลิตพลาสติก จึงได้รีบรายงานให้ นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมกับประสานรถน้ำดับเพลิงจากในจังหวัดสมุทรสาครจำนวนหลายคัน ทั้งจาก ทต.บางหญ้าแพรก, อบจ.สมุทรสาคร, เทศบาลนครสมุทรสาคร, ทต.ท่าจีน, ทต.บางปลา, อบต.บางกระเจ้า, อบต.พันท้ายนรสิงห์, อบต.โคกขาม, อบต.ท่าทราย, อบต.บ้านเกาะ, ทต.สวนหลวง, ทม.คลองมะเดื่อ, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้เคียง และรถสนับสนุนรวมเกือบ 20คัน เข้าระงับเหตุ ภายใต้การควบคุมสั่งการของ ร.ต.ประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ดังกล่าว
นอกจากนี้ยังมีนายสรวิชญ์ แซ่ลิ้ม นายกทต.บางหญ้าแพรก, ร.ต.ต.สัณฐิติ ธรรมใจหัวหน้าสำนักงานป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด พร้อมกับเจ้าหน้าที่ ปภ.สมุทรสาคร และร.ต.อ.สุเทพ มรกตจักษุพันธุ์ ร้อยเวรสภ.ย่อยท่าฉลอม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วย
ซึ่งเมื่อไปถึงพบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้กองยาง และกองพลาสติกเก่าอย่างรุนแรงภายในอาคารโกดังด้านในโรงงาน โดยมีทั้งกลุ่มควันกับเปลวเพลิงจำนวนมากพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า ส่งผลทำให้ประชาชนที่อยู่โดยรอบโรงงานหวาดกลัว ทั้งปัญหากลิ่นเหม็นจากพลาสติกที่ถูกเผาไหม้ และความร้อน พากันย้ายออกจากที่พักอาศัยมาอยู่ด้านนอกเป็นการชั่วคราว เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
ร.ต.ประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ เปิดเผยว่าบริษัทฯที่เกิดเหตุ มีลักษณะการประกอบการเป็นที่รับซื้อของเก่า หรือ ขยะรีไซเคิล และผลิตเม็ดพลาสติก ซึ่งของพวกนี้เป็นพวกที่ติดไฟได้ง่าย เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี และติดได้นาน ก็เลยทำให้เกิดการลุกไหม้อย่างรุนแรง ส่วนพื้นที่โดยรวมของบริษัทนี้มีอยู่ทั้งหมดประมาณ 40–50 ไร่ แต่บริเวณที่เก็บกองวัสดุแล้วเกิดเพลิงไหม้มีอยู่ราวๆ 4–5 ไร่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไรต้องควบคุมเพลิงให้สงบลงให้ได้เสียก่อน แล้วถึงจะได้เรียกเจ้าของบริษัทมาสอบถาม พร้อมกับให้ทางเจ้าหน้าที่วิทยาการฯกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุต่อไป
ส่วนปัญหาความยากของการดับเพลิงโรงงานขยะรีไซเคิลแห่งนี้จะอยู่ตรงที่พื้นที่ทางเข้าออกในโรงงานแคบ ทำให้รถน้ำขนาดใหญ่ไม่สามารถวิ่งสวนทางผลัดกันเข้าออก เพื่อส่งน้ำเข้าไปดับไฟได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งบ่อพักน้ำที่ทางโรงงานบอกว่ามีอยู่หลายไร่นั้น ก็อยู่อีกฟากหนึ่งของกองเพลิง ทำให้รถน้ำไม่สามารถวิ่งเข้าฝ่าเปลวไฟไปถึงตรงนั้นได้ ส่วนอีกบ่อปริมาณน้ำก็มีอยู่อย่างจำกัด ซึ่งใช้ไปจนใกล้จะหมดแล้ว ทั้งนี้ก็คงต้องใช้วิธีการให้รถน้ำวิ่งส่งน้ำแทนถึงจะเพียงพอต่อการดับไฟในครั้งนี้
ร.ต.ประพันธ์ เปิดเผยอีกว่า สำหรับแผนดับเพลิงในตอนนี้ต้องควบคุมให้เพลิงอยู่ในวงจำกัดไม่ลุกลามไปยังอาคารอื่น และบ้านเรือนประชาชนโดยรอบ โชคดีที่โรงงานแห่งนี้มีกำแพงกั้นไว้สูง และหลังจากนี้ยังจะต้องไปตรวจสอบข้อมูลของโรงงาน รวมถึงระบบการดับเพลิงการควบคุมเพลิงของโรงงานด้วย ส่วนระยะเวลากว่าที่เพลิงจะสงบลงก็คาดว่าจะถึงเช้าวันนี้
อย่างไรก็ตามความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. วันที่ 6 ก.ย. 67 เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงที่ลุกไหม้อย่างรุนแรงได้แล้ว หลังจากระดมรถน้ำดับเพลิงจากพื้นที่ใกล้เคียงเข้าสนับสนุนที่เกิดเหตุอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอุปสรรคในการดับเพลิงครั้งนี้คือ มีลมแรง และแหล่งน้ำธรรมชาติมีไม่เพียงพอ อีกทั้งวัสดุในโรงงานติดไฟง่าย
จากการตรวจสอบพื้นที่ภายในโรงงานพบว่า เพลิงลุกไหม้ โกดังล็อกที่ 2 และล็อกที่ 3 สำหรับโกดังล็อกที่ 2 เป็นที่เก็บวัสดุจำพวกเม็ดพลาสติก ส่วนล็อกที่3 ซึ่งอยู่ด้านใน เป็นกองยางรถยนต์จำนวนมาก