จุลพันธ์ เผย แถลงนโยบายรัฐบาล 12-13 ก.ย. ยันไม่กระทบแจกเงินหมื่น ดิจิทัล วอลเล็ต เมิน คำวิจารณ์ แจกเงินสด บอกแค่คำคนในสภาฯ
วันที่ 5 ก.ย. 67 ที่ทำเนียบรัฐบาล นาย จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวถึงกำหนดการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภา จะกระทบกับไทม์ไลน์โครงการ ดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาทหรือไม่ว่า
ถือว่าเป็นข้อดีที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่มาค่อนข้างเร็ว และจะเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนรับหน้าที่ในวันพรุ่งนี้ (6 ก.ย.) ซึ่งตามกฎหมายจะต้องแถลงนโยบาย 15 วันหลังจากวันถวายสัตย์ฯ แต่รัฐบาลได้มีการเตรียมการถึงนโยบายของรัฐเสร็จแล้ว จึงมีกำหนดการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ในวันที่ 12-13 ก.ย.นี้ ซึ่งจะเป็นการประชุมร่วมของ สส.และสว.ชุดใหม่ โดยมีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอญัตติต่อที่ประชุม และทางคณะรัฐมนตรีพร้อมที่จะตอบทุกข้อซักถามและข้อสงสัย หลังจากการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ครม.ก็จะสามารถทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อขับเคลื่อนเดินหน้าประเทศต่อไป
เมื่อถามว่า จะสามารถจ่ายเงินก้อนแรกในโครงการ ดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท ในเดือน ก.ย.นี้ได้หรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวย้ำว่า เนื่องจากกระบวนการแถลงนโยบายเสร็จค่อนข้างเร็ว เพราะตอนแรก กังวลว่ากระบวนการนี้จะไปแล้วเสร็จเอากลางเดือนก.ย. ก็จะทำให้ไทม์ไลน์การแจกเงินนั้นล่าช้าออกไป แต่ตอนนี้ยังมีเหลืออีกครึ่งเดือน ซึ่งกระบวนการทั้งหมดก็ยังเดินหน้าต่อ
นายจุลพันธ์ ยืนยันว่า ยังคงยึดไทม์ไลน์เดิม คือจะปิดรับลงทะเบียนกลุ่มสมาร์ทโฟน ในวันนี้ 15 ก.ย.นี้ และในวันที่ 16 ก.ย. - 16 ต.ค. จะเปิดลงทะเบียนในกลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน แต่ติดว่ายังไม่มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จึงยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดต่อประชาชน แต่จะมีการนับแถลงรายละเอียด ในช่วงวันที่ 12 - 13 ก.ย.นี้
ส่วนที่มีการแสดงความคิดเห็นว่า หากโครงการนี้ถูกเปลี่ยนเป็นการแจกเงินสด จะไม่เรียกว่าโครงการ ดิจิทัล วอลเล็ต นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เป็นเพียงคำพูดของคนในสภาฯ ขออย่าไปฟัง เพราะเขายังไม่รู้รายละเอียดของโครงการด้วยซ้ำ เป็นเรื่องของความคาดหวังคาดหมาย แต่ยืนยันว่าน่าจะมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดโครงการบางส่วนอาจเป็นเงินสด และบางส่วนจะเดินหน้าเป็นวอลเล็ต พร้อมย้ำว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจจะต้องรีบ และต้องทำให้เกิดความสมดุลระหว่างเงินสดและวอลเล็ต เพื่อเร่งให้ตัวเงินถึงประชาชนและเศรษฐกิจฟื้นฟูโดยเร็ว ในขณะที่วัตถุประสงค์สำคัญ ของโครงการนี้คือการวางรากฐานทางด้านเศรษฐกิจดิจิทัล อยากทำให้เกิดความคุ้นเคยกับการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ดังนั้นเม็ดเงิน บางส่วนจะต้องมาในรูปแบบวอลเล็ตต่อไป