"พลอย เฌอมาลย์ " เขิล!! รู้สึกเป็นผู้หญิงที่โชคดี หลังเปิดตัวแฟนหนุ่ม

13 มี.ค. 63

"พลอย เฌอมาลย์ " รู้สึกเป็นผู้หญิงที่โชคดี หลังเปิดตัวแฟนหนุ่ม

 

 อยู่ดีๆก็งานเข้าขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัว สำหรับกรณีของ "พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์" โดนเหล่าโซเชียลถล่มยับ เหตุจาก "สาวพลอย" เพราะเธอโพสต์ไอจีสตอรี่ถึงคลิปที่ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนปมไวรัสโควิด-19 แต่มีการพูดเรื่องการเมืองที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์จนเกิดแฮชแท็ก #ซันนี่เป็นสลิ่มเหรอ ซึ่งหลังจากที่ "สาวพลอย" โพสต์ไอจีลงไปได้ไม่นานก็ถูกบรรดาชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์ถล่มปมการเมืองกลางอินสตาแกรมส่วนตัวรัวๆ ถึงกับออกอาการงงสุดๆ ก่อนออกมาโพสต์ถามว่า “ขอโทษนะคะ งงมากจ้า ไม่ได้ทำอะไรเลย ขายเสื้ออยู่ดีๆ ทำไมโดนด่าเรื่องรัฐบาลจ๊ะ ตอนนี้คุณมัมงงมากจ้า”  ทางทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้เจอตัวกับ "สาวพลอย" ขณะที่มาร่วมงานบวงสรวงละคร "เพลิงนาง" ทางช่องอมรินทร์ทีวี เลยต้องคว้าตัวมาสอบถามถึงเรื่องดังกล่าว พร้อมอัปเดตเรื่องราวความรักกับหนุ่มนอกวงการ โดยเข้าตัวเล่าให้ฟังว่า ยอมรับว่าเป็นความเป็นพลาดของตนเอง หลังจากที่ได้รับข้อมูลมาทางไลน์เป็นแคปชั่นเรื่องของไวรัสโคลิด-19 แล้วมองว่าคนไทยเริ่มเครียดกับสถานการณ์ดังกล่าว แล้วเกิดการล่าแม่มดว่าใครถูก ใครผิด เลยมองว่าเรื่องดังกล่าวดูเครียดเกินไปแล้ว ซึ่งจุดประสงค์หลักคือต้องการพูดแค่เรื่องไวรัส โดยที่ไม่ทราบว่าในคลิปของซันนี่ มีประเด็นอื่นๆด้วย ส่วนตัวก็งงในช่วงแรกที่โดนด่า พร้อมทั้งมีการโยงเอารูปภาพเก่าๆของตนมาขุดคุย ยอมรับเสียใจและหงุดหงิดนิดหน่อย

 

ส่วนเรื่องของความรักหลังจากที่เปิดตัวหนุ่มฝรั่งคนรู้ใจที่มีชื่อว่า " อเล็กซ์ " หลังควงคู่กันไปเที่ยวถ่ายรูปสวีทโชว์หวานผ่านโซเชียล เมื่อข่วงปีใหม่ที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวก็เล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปของความรักในครั้งนี้ว่า ก็ถือเป็นเรื่องปกติหลังที่โสดมานานกว่า 4 ปี ยอมรับพอโตขึ้นเรื่องความรักก็เริ่มใช้ชีวิตให้ระมัดระวังขึ้น ไม่อยากเสียใจกับความรัก เผย "ลิเดีย" เป็นคนแนะนำให้ขณะที่ทั้งคู่เจอกันในงาน Baby Shower "น้องเดมี่"  ลูกสาวของ "ลีเดีย" รับใช้เวลาคบหาดูใจกันไม่ถึงเดือน ก็นัดออกเดทเพื่อดูสไตล์ ก่อนที่จะตกลงตัดสินใจคบกัน ทั้งนี้ไม่ห่วงเรื่องของอายุที่ห่างกัน เพราะได้พูดคุยแล้วทางฝ่ายชายเองก็ไม่ซีเรียส ส่วนอนาคตยังตอบไม่ได้ว่าจะเป็นอย่างไร รู้เพียงว่าตอนนี้ตนรู้สึกว่าโชคดีมาก เพราะหลายคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าผู้ชายงานดีพรีเมี่ยมมาก

อย่างไรก็ตามในเรื่องของละครปีนี้หลังจากที่มารับเล่นเรื่องเพลิงนาง ก็ถือเป็นละครดราม่าปนความแซ่บอีกเรื่องหนึ่ง ก็ต้องของคุณพี่ฉอด ที่ให้โอกาส ส่วนตัวเมื่อทางบริษัทติดต่อมาก็พร้อมรับเลยไม่คิดอะไรมาก เพราะรู้ว่าจะต้องเป็นละครบทที่ดีแน่ ยอมรับเคยกดดันตัวเองถึงขั้นน้ำตาไหล เพราะอยากให้ออกมาดี ทั้งนี้หลังจากจบละครเรื่องนี้ ตนเองคาดว่าจะขอพักสัก 5-6 เดือนเพื่อล้างสมอง เปรยรอบหน้าอยากบองเล่นละครแนวคอมมาดี้ ตลกๆ บ้าง อย่างลองอะไรแปลกใหม่

 

ช่วงนี้ไม่ใช่แค่ลักกี้อินเกม แต่ลักกี้เลิฟด้วย? “(ยิ้มเขิน) 4 ปีทีนึงค่ะ โสดมา 4 ปีแล้วก็ซักทีหนึ่ง ถ้าไม่มีก็ผิดปกติแล้วค่ะ”

อะไรที่ทำให้ผู้ชายคนนี้ชนะใจได้ ทั้งที่ครองตัวโสดมาตั้ง 4 ปี? “เอาจริงๆ ตอนที่เราเด็กๆ เวลามีความรักจะตัดสินใจเร็วเกินไป อารมณ์อ่อนไหว พอช่วงที่โสดคนก็จะบอกว่าควรจะมีแฟนได้แล้ว แต่ว่าถ้าเราไม่ต้องการมันกลายเป็นว่าทำให้เราไม่พร้อม แล้วมันก็ต้องจากกันไป พลอยเลยคิดว่าพอโตมาเราจะใช้วิธีระมัดระวังตัวมากขึ้นคือ ไม่ได้ห่วงตัวนะคะ แต่ว่าเราไม่อยากเสียใจไง เอาให้รู้สึกว่าเราชอบเขาจริงๆ ถูกใจจริงๆ ดีกว่า เลยรอมานาน 4 ปี เจอก็เกือบแก่แล้ว(หัวเราะ)”

ตั้งแต่เจอกันศึกษากันมากี่ปีแล้ว? “อุ๊ย! ไม่ศึกษาเป็นปีค่ะ เดือนก็พอ(หัวเราะ) เหมือนมันเจอแล้วมันถูกใจ ถามว่ามีความลังเลมั้ย ก็ลังเล แต่ไม่ได้เล่นตัวนะ เรามีความลังเลว่าเขาดีจริงหรือเปล่า เพราะว่าเราเองก็ไม่มั่นใจว่าเราดีพอสำหรับเขามั้ย แต่ก็คิดว่าลองเดตกันก่อน เดตนี่คือเดตจริงๆ นะ ไม่ใช่ว่าไปอยู่ด้วยกันไปถึงขั้นไหน แล้วมาบอกว่าเดตกัน ไม่ๆ ของเดตของเราคือทำความรู้จัก คุยกัน เจอกัน ปรับทัศนคติว่ามันได้หรือไม่ได้ บังเอิญว่ามันได้ก็เลยแถๆ มาเป็นแฟนนี่แหละ”

ในเรื่องของอายุที่ห่างกันมีปัญหาไหม ความที่ตัวเราค่อนข้างมีความคิดที่โตด้วย? “จริงๆ แล้วอันนี้พลอยอยู่เฉยๆ จริงๆ เลย เขาไม่รู้ว่าเราอายุเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าเราเป็นนักแสดง แต่ว่าเขาคงเห็นความปัญญาอ่อนของพลอยก็เลยเข้ามาคุยด้วย เขาชอบตลก แล้วพอมาคุยพลอยก็ถามว่ารู้มั้ยเราอายุเท่าไหร่ เขาบอกว่าไม่รู้ แล้วไงเหรอ เราก็บอกว่าเปล่า แค่บอกไว้ก่อนว่าอายุ 37 นะ เขาบอกก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลยพ่อแม่เขาห่างกันตั้ง 14 ปี เขามีโรลโมเดลที่แบบไม่ได้บอกว่าจะมากกว่าหรือน้อยกว่า แต่บอกว่าคนเราเจอกันแล้วมันเข้ากันได้มันอยู่ด้วยกันได้ อันนี้มันเป็นเรื่องที่ดีเป็นเรื่องของคนที่น่าจะมีอนาคตด้วย”

ไม่ใช่แค่เรื่องของความเด็ก แต่ความหล่อคนก็พูดถึงเยอะ? “พรีเมียมมากเลย(หัวเราะ) ถามว่าไปหาแถวไหน น้องหาให้ค่ะ คือลีเดีย(ศรัณย์รัชต์)กับดั๊กกี้บ้านนี้คือเป็นเพื่อนสนิทพลอยมานาน ตั้งแต่เล่นเรื่องระบำดวงดาวด้วยกัน น้องเขาก็จะหวงเพราะรู้ว่าชีวิตรักของเจ้มันขลุกขลิกขมุกขมัวมาตลอด เขาก็อยากให้เรามีความสุข เลยค่อนข้างคัดกรองคนที่จะเข้ามา ทีนี้คนนี้เขาว่าน่าจะใช่ก็รอจังหวะที่แบบเมื่อไหร่จะเดินไปเจอกันซักที แต่ไม่ได้ว่าจัดให้ เขารู้สึกว่าถ้าจัดเอาแล้วพลอยจะไม่เอาไม่ชอบ พอมีจังหวะที่เดินมาเจอกันแล้วเขาก็แนะนำตัว ทุกคนก็กรี๊ด หันไปมองแล้วก็แบบ...อ๋อ แล้วก็เลยเดินไปที่อื่น แต่ตอนหลังเหมือนเขาพยายามมาทำความรู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ ก็รู้สึกว่าน่าประทับใจ เพราะว่าปกติผู้ชายเข้าหาเรามีแต่ว่าเหมือนดูถูกเราก่อน โอ๊ย! ดีเกินไป เก่งเกินไป พลอยเหรอน่ากลัว เอ้า! ผิดมั้ยที่หาเงินเก่ง ทุกคนจะเหมือนแบบมาถึงยังไม่ทันไรก็ตัดสินไปแล้ว ดูถูกเรา แต่นี่เขาสบายๆ”

เขาแอบชอบเรามาก่อนหรือเปล่า? “เขาไม่เคยเจอ ไม่รู้จักค่ะ ไม่รู้ว่ายายนี่เป็นใคร เห็นบ้าๆ เต้นเพลงผ้าเช็ดหน้าอยู่กับแก๊งแดนเซอร์ เขารู้สึกว่าตลก ซึ่งเขาชอบคนตลก และคุยกันถูกคอค่ะ”

ส่วนตัวปิ๊งเขาตั้งแต่แรกเลยไหม หรือว่าคุยกันแล้วค่อยๆ ปิ๊ง? “มองแล้วแว้บแรกคืองานดีเนอะ แต่เหมือนเราก็ยังไม่ได้โฟกัสเพราะว่างานเบบี้ชาวเวอร์ของหลานด้วย แต่ก็พูดตรงๆ ก็มีแว้บว่างานดีเนอะ”

คาดหวังกับความรักครั้งนี้ขนาดไหน หลายคนก็ลุ้นว่าเมื่อไหร่จะสักทีนะคุณมัม? “สงสัยตัวเองเหมือนกันแหละค่ะว่าเมื่อไหร่สักที ถ้าขอเขาแต่งงานได้ก็จะขอ ล้อเล่นๆ ก็คือมันตอบไม่ได้จริงๆ แต่เอาเป็นว่าตอนนี้เราเพิ่งเริ่มต้นก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีแล้ว ส่วนอนาคตพลอยจะโชคดีกว่านี้เดี๋ยวไปไหว้พระขอพรพระเจ้าสาธุๆ ค่ะตอนนี้ เดี๋ยวจะตามก้อย(รัชวิน)ไปไหว้พระตรีมูรติ แล้วพลอยก็จะแพลงก์รอเขาทุกวัน(หัวเราะ)”

ถามถึงเรื่องที่โพสต์แจง หลับมีคนโยงไปเรื่องการเมือง? “จริงๆ แล้วมันเป็นความผิดพลาดของพลอยเอง คือพลอยได้รับรูปมาเป็นแคปชั่นเรื่องของไวรัส ตอนนั้นคือไวรัสกำลังระบาดใหม่ๆ พลอยรู้สึกว่าคนไทยเริ่มเครียดในแง่ที่ว่าเริ่มปฏิบัติการล่าแม่มด ใครถูกใครผิดใครนั่นใครนี่ พลอยก็รู้สึกว่ามันเครียดเกินไป แล้วแคปชั่นนั้นพลอยก็ได้รับการฟอร์เวิร์ดมาในทางไลน์ เลยคิดว่าเออ...ก็จริงของเขาเนอะ มันทำให้คนเหยียดกันเอง พลอยก็เลยโพสต์โดยที่ไม่ทราบว่าเขามีประเด็นเรื่องอื่นด้วย พลอยก็เลยงงว่าอะไรที่ตัวเองโดนด่าเลอะเทอะ ตอนนั้นก็แบบตายแล้วซวยจริงเลย แล้วก็มีทั้งรูปภาพอะไรออกมา พลอยก็รู้สึกว่ามันเลอะเทอะไปหมดแล้ว แล้วก็รู้สึกเสียใจหงุดหงิดนิดหน่อย สติแตกนิดหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้บ้าคลั่ง แค่รู้สึกว่าคำพูดมันรุนแรงมาก ใช้คำหยาบมาก รู้สึกว่าจิตใจคนเราทำไมมันขนาดนี้ แต่มันก็ผ่านมาแล้วไม่เป็นไรค่ะ คราวหลังเดี๋ยวพลอยจะเช็กให้ดีค่ะ”

เครียดไหม? “เครียดอยู่ 3-4 วัน เพราะมันก็ค่อนข้างเรื่องใหญ่ กลัวคนเข้าใจผิด เราเองก็พูดตรงๆ ว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายกับใครเลย เราก็แค่อยากจะพูดถึงเรื่องไวรัสแค่นั้นเองจริงๆ ค่ะ เรื่องอื่นไม่กล้าค่ะ(หัวเราะ)”

ช่วงนี้ละครแต่ละเรื่องคือแซ่บมาก ? "ไม่ได้หยุดเลย หลังๆก็จะเป็นเเนวดราม่า แล้วก็น่าสงสารมาก แต่ส่วนมากก็จะเป็นดราม่าหนัก ซึ่งทั้ง 2 เรื่องในปีนี้ถือว่าแรงมาก เเรงจริงๆ โดยคิดว่าเสร็จ 2 เรื่องนี้แล้วก็คิดว่าจะพักสักพักหนึ่ง แล้วขอเป็นคอมมาดี้บ้างค่ะ

ก่อนหน้านี้มีละครเเนวคอมมาดี้ติดต่อมาไหม? "มีมาค่ะ แต่โอกาสและจังหวะมันไม่ได้ เพราะถ่ายอีกเรื่องหนึ่งยังไม่เสร็จ มันก็ไม่ทัน. มันก็คงไม่ใช่ของเรา แต่ถ้ามีก็อยากเล่นคอมมาดี้บ้าง ส่วนมากตอนนี้จะเป็นดราม่าหนักๆ คิดว่าละครที่พลอยรับปีนี้ก็คงสุดๆของพลอยแล้วที่จะร้ายได้ แต่จริงๆแล้วอยากเล่นตลกมาก ถึงหน้าตาจะไม่ค่อยตลกแต่ก็เล่นได้"

ทำไมถึงตัดสินใจรับละครดราม่าหนัก? "ก็เป็นโอกาสและจังหวะเข้ามาแบ้ว พลอยไม่อยากปล่อยให้ข้ามไป อย่างเรื่องเพลิงนาง ก็ต้องขอบคุณพี่ฉอด เพราะพี่ฉอดให้โอกาสพลอยตลอดเวลาเลย ให้บทดีๆมาตลอด แน่นอนไม่ต้องคิดเยอะยังไงก็เล่นค่ะ ส่วนบทมันก็จะดราม่ามาก พลอยก็ลุยค่ะ สบายแล้ว"

หลังจากนี้จะพักเป็นปีไหม ที่บอก? "อุ้ย ไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวไม่มีเงิน อาชีพอย่างเรา เราหยุดไม่ได้ ถ้าจะพักคง 5 -6 เดือน ครึ่งปีก็ได้ นี้ไม่หยุดนานแล้ว เพราะถ่ายละครมันหนักจริงๆ ขอล้างสมองสัก 5-6 เดือนค่ะ แล้วมาเริ่มกันใหม่ หยุดไม่ได้ค่ะร้อนเงิน"

เครียดบทละครที่ดราม่าหนัก ถึงขั้นเครียดนอนไม่หลับหรือไม่ ? " เครียดแค่ว่าเราจะจำบทไม่ได้ เพราะเป็นแบบวันหนึ่งเราถ่าย 20-30 ซีน บทเยอะ ไดนาล็อกเยอะ เลยมีความเครียดกลัวว่าจำบทไม่ได้ ทำให้คนอื่นเสียเวลา อ่านบทบางทีถึงตี 4 ตี 5 คือนั่งอ่านเป็นข้อสอบ มีบ้างนอนไม่หลับแต่กินได้ ซึ่งมีเหตุการณ์หนึ่งที่ไปกองเพลิงนางด้วยความพยายามมาก แบบไม่อยากให้ผิดสักคำเดียว ทุกอย่างต้องเป๊ะ แล้วคือด้วยตัวละครพลับพลาไม่ค่อยพูดภาษาทั่วไป ด้วยความที่นางคือคนฉลาด ก็จะพูดจาซับซ้อน ใครถามมาก็ตอบไม่ตรงคำถาม แล้วเรามีความพยายามตั้งใจมากจนกดดัน เล่นอีกจนให้ได้ พอมันได้บุ๊ปเราก็หันหลังน้ำตาไหลเลย คือเครียดมากกดดันตัวเอง ผู้กำกับก็มาปลอบ เราพยายามมาก"

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส