เร่งค้นหาศพท่อนบน คนขับแบ็กโฮตกตึกตาย

12 มี.ค. 63
สำนักงานเขตห้วยขวาง สั่งปิดพื้นที่ อาคารของโรงแรมแห่งหนึ่ง สูง 11 ชั้น ในเขตห้วยขวาง แล้วรถแบ็กโฮหล่นลงมาจนคนขับเสียชีวิตและไม่อนุญาตให้ทำการรื้อถอนหรือดำเนินการใดๆจนกว่าจะตรวจสอบแล้วสร็จ จากเหตุการณ์ รถแบ็กโฮที่ร่วงลงมาจาก อาคารแห่งหนึ่ง ซ.ประชาราษฎร์บำเพ็ญ ซอย 6 เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ พบว่า การเดินรถด้วยความผิดพลาด แล้วเกิดพลิกตกลงมาข้างช่องตึก เป็นเหตุให้คนขับรถแบ็กโฮเสียชีวิต พร้อม สอบปากคำผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และเรียกสอบเจ้าของอาคารอย่างละเอียด ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุพบเป็นพื้นที่ซึ่งอยู่ระหว่างการรื้อถอนอาคารซึ่งเหลืออยู่ 6 ชั้นโดยมีแท่งปูนขนาดใหญ่ที่เกิดจากการรื้อถอนอาคารอยู่ด้านล่าง และมีผู้เสียชีวิตติดอยู่ใต้ซากอาคาร ทราบชื่อภายหลังคือ นายสมโชค เจือนรัมย์ อายุ 40 ปี ชาวบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นคนขับรถแบ็กโฮ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ,ทีมกู้ภัย และสภาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย เข้ามาประชุมวางแผนในการกู้ร่างผู้เสียชีวิต โดยปิดพื้นที่เกิดเหตุไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปด้านใน สอบถามนายพสธร จอมรัตน์ อายุ 49 ปี เพื่อนร่วมงานผู้เสียชีวิต กล่าวว่า จุดเกิดเหตุเป็นโรงแรมเก่าสูง 11 ชั้น ซึ่งพวกตนได้รับมอบหมายให้เข้ามารื้อ ซึ่งทำงานได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว โดยนายสมโชคเป็นคนขับรถแบ็กโฮคันเล็กคอยเจาะเพื่อรื้อถอนด้านบนอาคาร ซึ่งก่อนเกิดเหตุสามารถรื้อถอนได้ถึงชั้น 6 แล้ว ซึ่งรถแบ็กโฮของนายสมโชคก็จอดอยู่บริเวณชั้น 6 และไม่ได้เจาะเพิ่มตั้งแต่เมื่อวานนี้ (10 มี.ค.) เนื่องจากมีคำสั่งให้หยุดงานเพื่อย้ายไปไซต์งานอื่น ส่วนที่เหลือก็ให้รถแบ็กโฮคันใหญ่จัดการต่อ โดยช่วงเกิดเหตุตนและคนงานรวมกว่า 10 คน กำลังทำงานเก็บรายละเอียดอยู่ด้านล่างตึก ระหว่างนั้นนายสมโชคน่าจะขึ้นไปเลื่อนรถคนเดียว จู่ๆก็มีเสียงดัง เมื่อหันไปดูพบว่าตึกบางส่วนถล่มลงมา โดยมองไม่เห็นรถแบ็กโฮและนายสมโชคแล้วเพราะถูกทับอยู่ด้านล่างส่วนตัวไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะที่ผ่านมานายสมโชคเป็นคนรอบคอบ และคอยเตือนคนอื่นเสมอให้ระมัดระวังเพื่อความปลอดภัย แต่กลับเกิดเหตุ ทั้งนี้ก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ด้านนายทองแดง พิศพงษ์ อายุ 42 ปี น้องเขยของผู้เสียชีวิตซึ่งเดินทางมาดูที่เกิดเหตุกล่าวว่า ทางญาติยังช็อกและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ที่ผ่านมานายสมโชคทำงานก่อสร้างรวมถึงขับรถแบ็กโฮมาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุเพราะเจ้าตัวเป็นคนที่ค่อนข้างระมัดระวังในตอนนี้ก็ต้องรอให้เจ้าหน้าที่กู้ร่างนายสมโชคออกมาเพื่อนำกลับไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป ด้านนายอนุชิต พิพิธกุล ผู้อำนวยการเขตห้วยขวาง กล่าวว่า เบื้องต้นอาคารดังกล่าวเป็นโรงแรมสูง 11 ชั้น และมีการขออนุญาตรื้อถอน แต่ต้องตรวจสอบว่าการรื้อถอนเป็นไปตามเงื่อนไขหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบว่าขณะรื้อถอนมีเจ้าหน้าที่วิศวกรคุมงานหรือไม่ เพราะทราบว่าช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงที่คนงานเริ่มเลิกงานแล้ว ส่วนการนำรถแบ็กโฮคันเล็กขึ้นไปรื้อถอนด้านบนอาคารสามารถทำได้ แต่ต้องตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งว่านำขึ้นไปกี่คัน และทำตามที่กำหนดหรือไม่ ทั้งนี้ตนได้สั่งปิดพื้นที่ไม่อนุญาตให้ทำการรื้อถอนหรือดำเนินการใดๆ จนกว่าจะตรวจสอบเสร็จสิ้น วันนี้ ผู้สื่อข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่เกิดเหตุ พบว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ กทม. เจ้าหน้าที่วิศวกรโยธา เจ้าหน้าที่ทหาร เเละเจ้าหน้าที่กู้ภัย กำลังร่วมค้นหาร่างท่อนบนของผู้เสียชีวิต ที่ยังหาไม่พบ โดยมีการนำเครื่องมือหนัก รวมถึงรถแบ็กโฮขนาดเล็ก มาร่วมปฏิบัติการ นายธีระยุทธ์ เพชรเเก้ว เเละนายจิรัฐฒิกร บรรจงกิจ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เปิดเผยกับทีมข่าวว่าตั้งเเต่เมื่อวาน หลังจากได้รับเเจ้งเหตุ ได้รีบเดินทางมายังจุดเกิดเหตุทันทีเพื่อค้นหาร่างผู้เสียชีวิต พบว่าสภาพศพขาดครึ่ง โดยพบส่วนล่างช่วงเอวถึงขา ที่บริเวณข้างปล่องลิฟต์ชั้น 2 ส่วนท่อนบนขึ้นไป ยังหาไม่พบ จึงได้ส่งท่อนล่างไปยังสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลรามาธิบดีก่อน วันนี้มีการวางเเผนการค้นหาใหม่ โดยร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมป้องกันเเละสาธารณภัย เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เเละวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ นำเครื่องมือหนักมาช่วยปฏิบัติการ เนื่องจากโครงสร้างอาคารเริ่มไม่เเข็งเเรงเเล้ว หากกู้ภัยค้นหาเพียงลำพัง อาจไม่ปลอดภัย รศ.สิริวัฒน์ ชัยชนะ อุปนายกวิศวกรรมสถานเเห่งประเทศไทย ในพระราชินูปถัมป์ เปิดเผยว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าเป็นอุบัติเหตุขณะรื้อถอน ไม่ใช่ตึกถล่ม ซึ่งสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าเมื่อวานช่วงเย็น หลังจากเลิกงานผู้ตายพยายามจะเคลื่อนย้ายรถแบ็กโฮ เพื่อนำมาไว้ด้านล่าง แต่ระหว่างที่เคลื่อนย้าย รถแบ็กโฮอาจจะสะดุดอะไรบางอย่างทำให้ รถหงายและคว่ำ จังหวะนั้นผู้ตายพยายามกระโดดออกจากรถ แต่รถที่คว่ำนั้นได้ร่วงลงมาตามทำให้ทับและเฉือนร่างของผู้ตายขาดเป็น 2 ท่อน ซึ่งท่อนล่างหาพบแล้ว แต่ท่อนบนยังหาไม่พบซึ่งยังไม่รู้ว่าติดอยู่ที่ใด หรืออาจมีเศษปูนทับอยู่ ดังนั้นการค้นหาในวันนี้ จะนำเศษซากจากการรื้อถอน ที่พิงอาคารอยู่ออกจากตัวอาคารก่อน

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ