นักวิชาการมข. ฟันธง ก้าวไกลไม่รอด ส่วน เศรษฐารอดชัวร์

5 ส.ค. 67

นักวิชาการมข. ฟันธง ก้าวไกลไม่รอด ขณะที่ เศรษฐารอดชัวร์ จารึกประวัติศาสตร์ การเมืองไทยยุคใหม่ พรรคชนะเสียงข้างมากต้องถูกยุบ

วันที่ 5 ส.ค. 67 ที่คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) รศ.ดร.พรอัมรินทร์ พรหมเกิด อาจารย์ประจำภาควิชาสังคมวิทยา และมานุษยวิทยา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มข. เปิดเผยว่า 

การพิจารณาตัดสินของ ศาลรัฐธรรมนูญตามที่ได้นัดอ่านคำวินิจฉัย พรรคก้าวไกล ในวันที่ 7 ส.ค.นี้ ตามความผิด มาตรา 112 นั้น โดยส่วนตัวเชื่อว่า พรรคก้าวไกลมีแนวโน้มที่จะถูกพิจารณาตัดสินยุบพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรคทั้ง 11 คนจะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตามคำสั่งของศาล ซึ่งจะเป็นการจารึกประวัติศาสตร์การเมืองใหม่ของไทยที่พรรคที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนทั่วประเทศ จนได้สส.มากที่สุด กลับไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล และต้องมาถูกยุบพรรค ซึ่งจะเป็นแรงเหวี่ยงและแรงกระตุ้นให้ผู้ที่รักประชาธิปไตย และผู้ที่ให้การสนับสนุน พรรคก้าวไกลออกมาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ และแสดงออกถึงความไม่เห็นด้วยในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น เพราะเหตุผลที่ กกต.ระบุคือ พรรคก้าวไกลมีความผิดตาม มาตรา 112 สู่การล้มล้างการปกครอง ทำลายความมั่นคงของรัฐ เป็นความผิดที่รุนแรง ทั้งที่ข้อเท็จริงที่เกิดขึ้นนั้นทุกคนรู้อยู่แก่ใจ 

รศ.ดร.พรอัมรินทร์ กล่าวต่อว่า ในทางกลับกันศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบ มาตรา 82 ว่าความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบ มาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ กรณีนำความกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายพิชิตชื่นบานเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญประเด็นนี้ ศาลจะตัดสินพิจารณาให้นายเศรษฐา รอด และนำรัฐบาลแบบนี้ต่อไป เพราะหากต้องตัดสินว่าผิดทุกอย่าง ก็จะกระทบไปหมด ทั้งการปรับ ครม. การสรรหานายกฯ และเรื่องอื่นๆ ที่ดำเนินการอยู่ทั้งหมดจะต้องหยุดชะงัก และนับหนึ่งใหม่ ดังนั้นเดือน ส.ค.ที่ทุกคนว่าร้อนแรงนั้น ทุกอย่างต้องจับตาและติดตามอย่างใกล้ชิด 

รศ.ดร.พรอัมรินทร์ กล่าวอีกว่า เป็นเรื่องปกติที่มีกระแสข่าวของการที่ สส.ของพรรคก้าวไกลจะถูกทาบทามหรือถูกจีบมาร่วมพรรคการเมืองต่างๆ ซึ่งก็เป็นเรื่องจริงที่กำลังเกิดขึ้น แต่การจะย้ายไปพรรคการเมืองใด ตัวอย่างที่ผ่านมาก็มีให้เห็นแล้ว เพราะเมื่อย้ายพรรคการเลือกตั้งครั้งต่อไปก็ไม่ได้กลับมาหลายคน ดังนั้นการที่พรรคก้าวไกลจะไปร่วมพรรคงานกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคที่มีอุดมการณ์ด้านประชาธิปไตยร่วมกันก็อาจที่จะเป็นไปได้ และโดยส่วนตัวเชื่อว่า หากศาลมีคำตัดสินยุบพรรค ซึ่งจะทำให้กรรมการบริหารพรรคทั้ง 11 คน ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 

แม่ทัพพรรคก้าวไกลคนใหม่ ที่เหมาะสมจะมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนต่อไปคือ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถขับเคลื่อนความเป็นพรรคก้าวไกล และอุดมการณ์ของพรรคก้าวไกลทางการเมืองในอนาคตต่อไปได้อย่างเหมาะสม

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม