ไม่ใช่ผีน้องพลอย! แม่ชี้ร่างทรงมั่วนิ่มโผล่ทำแผนฆ่า - ฆาตกรกราบขมาไม่ปริปากปมสังหาร (คลิป)

ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำนายพลกฤต วิเศษ หรือเอส อดีตสิบเอก ผู้ต้องหาก่อเหตุเผาอำพรางศพนางสาวพลอยนรินทร์ ผลิผล หรือน้องพลอย อดีตแฟนสาวเมื่อปี 2557 มาชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เบื้องต้นตำรวจแจ้งว่าจะมีการทำแผนเพียง 8 จุด แต่ภายหลังได้เพิ่มจุดการมำแผนเพิ่มอีก 2 จุด เป็นจุดปั้มน้ำมันและจุดที่ทิ้งนาฬิกาน้องพลอย

โดยจุดที่ 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจนำผู้ต้องหามาทำแผน คือ บริเวณปั้มน้ำมันใกล้บริษัทที่ทำงานของน้องพลอยบริเวณอำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นสถานที่ที่น้องพลอยทำงาน โดยได้โทรตามให้น้องพลอยออกมาเจอบริเวณใกล้บริษัทที่น้องพลอยทำงานอยู่ จุดที่ 2 จุดที่น้องพลอยออกมา โดยนายพลกฤตได้นำรถจักรยานของน้องพลอยขึ้นท้ายรถยนต์ ก่อนจะบังคับให้น้องพลอยขึ้นรถจุดบริเวณปากซอยท่าเรือ โดยช่วงนี้ประชาชนก็ได้ด่านายพลกฤตตลอดเวลาว่าเลว แต่สีหน้าของนายพลกฤตก็นิ่งเฉย โดยช่วงที่ทำแผนนายพลกฤตหลั่งน้ำตา แต่ชาวบ้านก็บอกว่า อย่าดราม่าฆาตกร ขณะที่ นายวิชา ผลิผล และนางพัชรี ปั้นทอง บิดา-มารดาของน้องพลอย ก็ได้เข้ามาพูดคุยกับทาง นายพลกฤต ถึงสาเหตุการลงมือฆาตกรรมทางคุณพ่อถามว่า "ที่บอกรัก แล้วทำไมต้องฆ่าน้องพลอย" ทางพลกฤตก็มีน้ำตาคลอ และยกมือไหว้พ่อของนายพลอย โดยแม่น้องพลอยก็ถามว่า "ฆ่าพลอยจริงหรือไม่" พลกฤตก็ยอมรับ ส่วนแม่ก็ถามว่า "น้องพลอยได้พูดอะไรก่อนตายหรือไม่" พลกฤตก็ตอบมาว่า "จำไม่ได้" จุดที่ 3 สะพานชลประทาน 11 เส้นทางมุ่งหน้าไปอำเภอพุทธบาท จังหวัดสระบุรี จุดที่นายพลกฤตเริ่มทะเลาะกับน้องพลอยและโยนโทรศัพท์ของน้องพลอยที่เชิงสะพาน

จุดที่ 4 หน้าโรงเรียนสร่างโศก อบศรีประชาอุปถัมถ์ จังหวัดสระบุรี ผู้ต้องหาจอดรถยนต์แล้วทำการบีบคอน้องพลอยหลังจากที่มีการทะเลาะกันมาตลอดทาง ซึ่งจุดนี้ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด บีบคอน้องพลอยเพียงอย่างเดียวโดยตำรวจได้ให้ผู้ต้องหาเข้าไปในรถยนต์นิสสัน และทำท่าบีบคือน้องพลอย ซึ่งนั่งอยู่เบาะหลัง กระทั่งหมดสติ และคอพับไปทางด้านซ้าย จากนั้น นายพลกฤต ก็ขับรถ และมุ่งหน้าออกจากจังวัดสระบุรี ไปทางอ.พระพุทธบาท เพื่อไปยังจังหวัดลพบุรี ซึ่งเป็นบ้านพักของ พ่อนายพลกฤต จุดที่ 5 สะพานชลประทานที่ 23 บ้านถนนใหญ่ บริเวณหน้าวัดถนนใหญ่ เป็นจุดที่ผู้ต้องหานำจักรยานของน้องพลอยที่วางไว้บนเบาะหลังรถ โยนทิ้งลงในแม่น้ำ หลังจากนั้นคนร้ายก็ใช้สะพานบ้านถนนใหญ่ เข้ามาตามมาทางซอย จุดที่ 6 ของการทำแผนโดยเป็นจุดที่คนร้ายนำทรัพย์สินของน้องพลอยมาทิ้งถังขยะ

จุดที่ 7 จุดตำบลเขาพระงาม จังหวัดลพบุรี คนร้ายถอดนาฬิกาข้อมือของน้องพลอยแล้วเข้าป่า จุดที่ 8 ศูนย์การทหารปืนใหญ่ ค่าพหลโยธิน จุดนี้ตำรวจชี้แจงว่าเป็นจุดที่ผู้ต้องหามาเอายางรถยนต์ 3 เส้น ภายในค่ายเพื่อนำไปนำเป็นเชื้อเพลิง ก่อนที่จะไปจุดที่ 9 ปั้มน้ำมันบริเวณใกล้กับค่านทหารซื้อน้ำมันดีเซล 2 แกลลอน ซึ่งจุดนี้มีประชาชนส่วนหนึ่งให้ความสนใจ โดยที่ส่วนใหญ่พูดเป็นเสียเดียวกันว่าอยากขอแค่ดูหน้าผู้ต้องหา ส่วนจุดสุดท้ายเป็นจุดที่ผู้ต้องหาอุ้มร่างน้องพลอยลงจากรถก่อนที่จะโยนร่างน้องพลอยข้ามแท่งแบริเออร์ เดินเข้าไปในป่า เพียง10 ก้าวก่อนลงมือเผา ขณะทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ดวงวิญญาณของน้องพลอยได้เข้าร่างชาวบ้าน เพื่อสื่อสารกับพ่อ และแม่ โดยในวันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.) ทางตำรวจจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลทหาร มณฑลทหารบกที่ 18 จังหวัดสระบุรี หากตรวจสอบพบว่ามีผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้อีกก็จับดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

ขณะที่ นางพัชรี ปั้นทอง มารดาของน้องพลอย กล่าวว่า กรณีที่มีร่างทรงเข้ามาหาตนเองพร้อมบอกว่าเป็นน้องพลอย นั้น ส่วนตัวไม่เชื่อ เนื่องจาก ปกติน้องพลอยไม่ได้ใช้คำเรียกแทนตนเองว่า หนู แต่จะเรียกแทนตัวเองว่า พลอย และที่สำคัญ พลอยเป็นคนรักพ่อ แต่ขณะเกิดเหตุร่างทรงกลับไม่เข้าไปหา ผู้เป็นพ่อก่อน อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ถือโทษโกรธร่างทรง แต่อย่างใด ที่ผ่านมา น้องพลอยได้มาเข้าฝันถึง 2 ครั้ง โดยได้มากราบลา รวมไปถึง บอกถึงความทรมาน

นอกจากนี้ นางพัชรี ยังกล่าวด้วยว่า ยังคงไม่เชื่อว่านายพลกฤต จะทำเพียงคนเดียว และหากนางสาวพลอยนรินทร์ฟังอยู่ อยากจะขอโทษที่ช่วยชีวิตไว้ไม่ได้ ขณะที่วันนี้เมื่อช่วงเวลาประมาณ 18 นาฬิกา ทางตำรวจได้นำตัวของผู้ต้องสงสัยรวมถึง นายพลกฤต มาให้ทางพยานในที่เกิดเหตุ จุดที่ 2 มาชี้ตัว เนื่องจากข้อมูลการสืบสวนพบ มีผู้เห็นบุคคลยืนอยู่บริเวณท้ายรถของนายพลกฤต อีก 1 คน แต่รายละเอียดการชี้ตัวทางตำรวจยังไม่สามารถเปิดเผยได้