แปลก! อยู่กินแบบผัวเมียปีกว่า สาวแจ้งจับข่มขืน - แม่ผัวเชื่อลูกขอเลิก ถูกเล่นงาน (คลิป)

17 ส.ค. 60
หลังจากที่ นางเอ (นามสมมติ) อายุ 42 ปี ชาวจังหวัดพิษณุโลก เข้าร้องเรียนต่อนายธานินทร์ สมบูรณ์สาร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วยนักสหวิชาชีพ หลังจากแจ้งความดำเนินคดีกับ นายบี (นามสมมติ) อดีตสามี อายุ 36 ปี ว่า ระหว่างอยู่กินฉันท์สามีภรรยาในช่วงวันที่ 12 ถึง 13 มิถุนายน 2560 ตนถูกข่มขืน 3 ครั้ง ในห้องพักของสามี สร้างผลกระทบต่อสภาพจิตใจเป็นอย่างมาก และได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีข้อกล่าวหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และกระทำรุนแรงภายในครอบครัว” กับ อดีตสามี เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2560 ไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นางเอ (นามสมมติ) ที่บอกว่าถูกอดีตสามีข่มขืน
ทางด้าน นางเอ เล่าว่า ได้อยู่กินกับสามี แต่ไม่ได้จดทะเบียนกัน ต่อมานายบีมีพฤติกรรมรุนแรง ทำร้ายร่างกาย จึงขอเลิกรา แต่นายบีไม่ยอมเลิก ยังกลับมาหาพร้อมกับข่มขืนตนหลายครั้ง แม้ตนนอนป่วยไม่มีแรงจะขัดขืนหรือต่อสู้ก็ตาม จึงเข้าแจ้งความไว้ที่สภ.เมืองพิษณุโลก ให้ดำเนินคดีกับอดีตสามีเอาไว้เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่เรื่องก็เงียบไป จึงไปร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมพิษณุโลก เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และอาจถูกข่มขู่จากอดีตสามีได้ ขณะที่ แม่ของนายบี ได้เข้าพบ ร้อยตำรวจเอกอำนาจ อ่อนปาน รองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก ผู้รับแจ้งความดำเนินคดีเพื่อนำเอาคลิปเสียงที่เหตุการณ์เป็นหลักฐานเพื่อใช้สู้คดีที่นางเอ แจ้งความเอาไว้ว่ามีการใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกาย เรื่องทั้งหมดเกิดหลังจาก นางเอ ทะเลาะกับลูกชายและแยกทางกัน โดยไม่แน่ใจว่าเกิดจากปัญหาหึงหวงหรือไม่ ส่วนสาเหตุที่พาลูกกลับบ้านเพราะเกรงว่าลูกจะระงับอารมณ์ไม่อยู่ และอาจจะใช้กำลังทำร้ายร่างกายของนางเอ มิได้มีเจตนากีดกัน
แม่ของนายบีที่เข้าพบพนักงานสอบสวน
ซึ่งทางด้านนายบี ได้เข้ารับแจ้งข้อกล่าวหาในวันที่ 8 สิงหาคม 2560 พร้อมทั้งปฏิเสธข้อกล่าวหานางเอ พร้อมทั้งให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า รู้จักกับนางเอทางเฟซบุ๊กและอยู่กันฉันท์สามีภรรยาที่ห้องพักที่ทำงาน ประมาณ 1 ปีเศษ ต่อมานางเอมีความหวาดระแวงว่าตนจะมีผู้หญิงอื่น จึงทะเลาะมีปากเสียงกันเป็นประจำโดยไม่เคยทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด จนกระทั่งวันที่ 13 มิถุนายน 2560 ได้บอกเลิกกัน นางเอได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ติดตามหาตนเองจนได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลฟกช้ำตามร่างกาย โดยในวันที่นางเอกล่าวหาว่าตนเองข่มขืนไม่เป็นความจริงเพราะตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน เป็นต้นมามีปัญหาทะเลาะกันมาโดยตลอด ส่วนข้อมูลอื่นๆขอสู้คดีในชั้นศาล ส่วนความคืบหน้าทางด้านคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอการพิสูจน์รอยนิ้วมือของผู้ถูกกล่าวหา จากส่วนกลาง และจะรวบรวมนำส่งอัยการเพื่อส่งฟ้องศาลต่อไป
นายนิติธร แก้วโต ทนายความ
ส่วนนายนิติธร แก้วโต  ทนายความ เปิดเผยว่า สำหรับกรณีดังกล่าว ได้รับการเปิดเผยว่า หากนางเอจะดำเนินคดีกับอดีตสามีนั้น ต้องดูว่าหากเอาผิดประเด็นทำร้ายร่างกาย ต้องดูว่าได้รับบาดเจ็บมากหรือไม่ หากบาดเจ็บเกิน 20 วัน แสดงว่าบาดเจ็บสาหัส จะต้องมีโทษทางอาญาเพิ่มตามลำดับ ตามมาตรา 297 ระบุว่า ผู้ใดกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำรับอันตรายสาหัสต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี สำหรับประเด็นการข่มขืนนั้นสามารถแจ้งความฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมายได้ แต่ก็สามารถยอมความกันได้ ยกเว้นหากเป็นการข่มขืน กระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัลเป็นกระทำเป็นความผิดอันไม่อาจยอมความได้ ทนายนิติธร ยังฝากถึงผู้หญิงทุกคนว่า ในกฎหมายมาตรา 276 เมื่อก่อนผู้ใดไปข่มขืนหญิงอื่นซึ่งไม่ใช่ภรรยาตนผิดกฎหมาย แต่ข่มขืนภรรยาตนเองไม่ผิดกฎหมาย แต่ตอนนี้กฎหมายได้แก้แล้ว เป็นว่า ผู้ใดข่มขืนผู้อื่นโดยไม่ระบุเพศ ผู้ใดที่นี้จะเป็นผู้หญิงก็ได้ชายก็ได้ไปข่มขืนอีกฝ่ายหนึ่ง ก็มีความผิดหมด ต่อให้เป็นอดีตสามีก็ไม่มีสิทธิ โดยถือเป็นความผิดทางอาญา จะต้องได้รับโทษตามกฎหมาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4 ปีถึง 20 ปีและปรับตั้งแต่ 8 พันบาท ถึง 4 หมื่นบาท

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ