ยายวัย 78 หอบเอกสาร สลิปใบเสร็จขึ้นโรงพักท่าตะเกียบ วอนตำรวจช่วยตามมิจฉาชีพ อ้างเป็นทหารรบสงคราม ตุ๋นเงินเกือบ 3 ล้าน เจ้าหน้าที่ธนาคารห้ามแล้วไม่ฟัง
วันที่ 21 มิ.ย. 67 ที่ สภ.ท่าตะเกียบ นางสมจิตร (สวนนามสกุล) อายุ 78 ปี ชาวบ้าน ม.17 บ้านชมพู ต.ท่าตะเกียบ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมหลานสาว หอบเอกสารสลิปการโอนเงินเข้าพบ พ.ต.ท.สุรพิสิฐ ไหมงำ หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.ท่าตะเกียบ เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษขบวนการตุ๋นเงิน โดยใช้บัญชีม้า จนคุณยายสมจิตรต้องสูญเงินเก็บทั้งชีวิต เกือบ 3 ล้านบาท
พ.ต.ท.สุรพิสิฐ ได้ฟังคำบอกเล่าของคุณยายสมจิตรถึงกับอึ้ง พร้อมอุทานว่า ยายจ๋าโดนมิจฉาชีพหลอกแล้ว คุณยายนำสลิปที่พอเห็นหลักฐาน จำนวน 38 ใบ ที่เริ่มโอนครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย. 66 มาจนถึงปัจจุบันเมื่อปลายเดือน พ.ค. 67ยอดรวม2,900,000 บาท โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจให้คุณยายค่อยๆ ตั้งสติเล่าย้อนเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น
ยายสมจิตร เล่าว่า ตนเล่นเฟซบุ๊กเมื่อปีที่แล้ว จู่ๆ ก็มีชาวต่างชาติอ้างเป็นทหารรบสงครามแชตมาขอความช่วยเหลือ บอกว่าช่วยผมด้วย ผมต้องการนำกล่องที่บรรจุเงินสดดอลล่าร์ ตีเป็นเงินไทย 53 ล้านบาทเข้ามาในประเทศไทย แต่มีค่าใช้จ่ายด้านภาษีนำเข้ากับ ปปง. หากคุณยายช่วยจะให้เงินคืนคุณยาย 7 ล้านบาท พร้อมค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวพูดคุยกับคุณยายทราบว่า เจ้าหน้าที่ธนคารได้เตือนคุณยายแล้วว่าถูกมิจฉาชีพหลอก แต่คุณยายไม่เชื่อ จึงไปให้ตามร้านขายของชำแถว อ.ท่าตะเกียบ ตามร้านสะดวกซื้อโอนเงิน ยอดโอนครั้งสุดท้ายเมื่อปลายเดือน พ.ค. 67
ที่ผ่านมา 2 ใบเสร็จโอนไปบัญชีม้าที่ใช้ชื่อจุฑาทิพย์ รวม 5 แสนบาท คุณยายบอกว่ารายได้ของตนเอง หลังสามีเสียชีวิตก็มีสวนมะม่วงส่งออก 100 ไร่ ให้ชาวบ้านเช่าที่การเกษตรปีละ 2 แสนกว่าบาท มีค่าเช่าห้องแถว ยายสมจิตรบอกผ่านสื่อฯว่า หากมิจฉาชีพดูข่าว ช่วยนำเงินมาคืนยายบ้าง ถึงจะคืนไม่ครบ ยายแก่ชรามากช่วยไปเพราะสงสาร
ด้าน พ.ต.ท.สุรพิสิฐ ได้เชิญคุณยายขึ้นสอบ 2 วันติด เพื่อเตรียมออกหมายเรียกกลุ่มบัญชีม้าจำนวน 5 คน ที่ทราบชื่อสกุลที่อยู่ที่เป็นหลักแหล่งแล้ว เพื่อมาดำเนินการขั้นตอนกฏหมายต่อไป