พิสูจน์ความจริงคนในพื้นที่ ทำไมอุ้มเผานั่งยางน้องพลอยคนจึงไม่เห็น ทั้งที่ได้กลิ่นไหม้ศพ (คลิป)

15 ส.ค. 60
จากกรณีที่นางพัชรี ปั้นทอง พร้อมด้ายทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร ได้เดินทางไปยื่นหลังสือร้องทุกข์ต่อ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งเดินทางนำเรื่องราวที่ น.ส.พลอยนรินทร์ ผลิผล ลูกสาว หายตัวไปกว่า 3 ปี โดยทราบว่า ส.อ.พลกฤต วิเศษ หรือเอส แฟนหนุ่มได้อุ้มตัวและหายไปอย่างไร้ร่องรอย จนกระทั่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวสิบเอกรายนี้ได้และมีการรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุฆ่า น.ส.พลอยนรินทร์ พร้อมพยายามอำพรางศพแล้ว โดย นายพลกฤต วิเศษ ซึ่งเป็นอดีต "ส.อ." ยอมเปิดปากสารภาพว่า ได้ไปรับ น.ส.พลอยนรินทร์ จากหน้าโรงงาน นำตัวขึ้นรถ พร้อมจักรยานของ น.ส.นรินทร์ ระหว่างทางทั้งสองนั่งคู่กันมา ได้มีการพูดคุยอ้อนวอนในเรื่องของการไปอยู่ด้วยกัน โดย ส.อ.พลกฤต ยอมที่จะออกจากราชการทหาร แต่ น.ส.พลอยนรินทร์ ไม่ยอมคุยดี และมีปากเสียงกันรุนแรง จน น.ส.พลอยนรินทร์ ชักอาวุธมีดแบบพับขนาดเล็ก ออกมาแทงเข้าที่แขนซ้ายของ ส.อ.พลกฤต จนได้รับบาดเจ็บ จากนั้น ส.อ.พลกฤต จึงเกิดความโมโหแย่งมีดแล้วบีบคอจน น.ส.พลอยนรินทร์ ขาดใจตายแล้ว จึงขับรถต่อกลับเข้าไปที่ค่ายทหารเพื่อหายางรถยนต์ 3 เส้น น้ำมันเบนซิน 3 ขวด ขับออกไปทาง ร.ร.แก่งคอย ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ ส.อ.พลกฤต เคยเรียน จนกระทั่งไปเผาทำลายศพที่เขตพื้นที่ สภ.หินซ้อน จ.สระบุรี ดังกล่าว
นายเจษฎาภรณ์ พิมูลชาติ อาสากู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จ.สระบุรี
ล่าสุด (14 ส.ค.) นายเจษฎาภรณ์ พิมูลชาติ อาสากู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จ.สระบุรี บอกว่า เมื่อวันที่ 5 พ.ย.57 ได้รับแจ้งให้ตามหาบุคคลสูญหายเป็นร่างทรงหญิง จึงเดินตามหาจนมาพบบริเวณนี้ พบเศษยางรถยนต์ถูกเผา พร้อมชิ้นส่วนมนุษย์บางส่วน ไม่พบกะโหลก ซึ่งตรวจสอบแล้วไม่ใช่บุคคลที่ตามหา และไม่ทราบว่าชิ้นส่วนที่พบเป็นบุลคลใด จึงได้แจ้งให้ สภ.หินซ้อน และกองพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บหลักฐานไปแล้วตั้งแต่ 3 ปีก่อน กู้ภัยบอกว่าบริเวณนี้เป็นจุดที่ไม่ค่อยมีคน และเป็นทางน้ำไหล เวลาฝนตก เศษดินจะไหลลงมาทับถมกัน เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกกู้ภัยมาสอบถามว่าเมื่อ 3 ปีก่อน มีเหตุใดในบริเวณนี้บ้าง จึงคาดว่าน่าจะเป็นจุดนี้
นายศรายุธ สุวรรณรัตน์ ผู้ใหญ่บ้าน
ขณะที่ นายศรายุธ สุวรรณรัตน์ ผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า ตนทราบเรื่องที่เคยเจอโครงกระดูกเผาในพื้นที่ของหมู่บ้าน เมื่อ 3 ปีก่อน คือมีการพบโครงกระดูก คล้ายถูกเผานั่งยาง ขณะเกิดเหตุตนไม่ทราบว่าเกิดขึ้นเมื่อใด แต่จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ของหลวง ไม่มีใครเป็นเจ้าของ โดยเมื่อ 3 ปีที่แล้วก่อนที่จะมีการพบโครงกระดูกประมาณ 1 สัปดาห์ ตนเคยนำวัวไปกินหญ้าใกล้จุดเกิดเหตุ ซึ่งได้กลิ่นคล้ายหมาเน่า ตอนนั้นสงสัยว่าจะใช่กลิ่นซากศพหรือไม่ ตนจึงไปคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าพบกลิ่นเน่าเหม็นในพื้นที่ ตอนนั้นทั้งตนและเจ้าหน้าที่ก็เข้าใจว่าเป็นกลิ่นสุนัขตาย จึงไม่ได้ไปตรวจสอบ มาทราบภายหลังว่าพบโครงกระดูกมนุษย์ในจุดดังกล่าว นายศรายุธ ระบุว่า เส้นทางดังกล่าวเป็นทางผ่าน ทำให้ไม่ค่อยมีคนสังเกต รวมทั้งเส้นทางนี้ค่อนข้างเปลี่ยว โดยเฉพาะเวลากลางคืน
นายเฉลิมฤทธิ์ พงษ์สุวรรณ ชาวบ้านในชุมชน
ด้าน นายเฉลิมฤทธิ์ พงษ์สุวรรณ อายุ 39 ปี ชาวบ้านในชุมชน ผู้ที่เข้าไปพบซากโครงกระดูกที่จุดเกิดเหตุเป็นรายแรก เผยว่า เมื่อช่วงปี 2557 มีครอบครัวหนึ่งเข้ามาในพื้นที่ โดยระบุว่าตามหาคนหาย ตนจึงอาสาไปช่วยค้นหา จนพบกับโครงกระดูก ส่วนของซี่โครง พบกับชิ้นส่วนของกรามฟัน พร้อมเหล็กดัดฟัน กระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ และชิ้นส่วนของยางที่ถูกเผาไหม้ แต่พบว่าจุดเกิดเหตุมีหญ้าและใบไม้ขึ้น จึงคาดว่าเหตุการณ์คงเกิดมาหลายเดือนก่อนที่ตนจะพบ ส่วนบริเวณกิ่งไม้ด้านบนยังพบร่องรอยที่ถูกเปลวไฟเผา ขณะนั้นดูไม่ออกว่าเป็นกระดูกของผู้หญิงหรือผู้ชาย
จุดที่ชาวบ้านบอกว่ามีคนนำศพไปทิ้ง
จากนั้นจึงแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่กู้ภัย ให้เข้ามาตรวจสอบ ขณะนั้นก็ไม่พบชิ้นส่วนกระดูกส่วนอื่น อย่างพวกกะโหลก แขน หรือขา ขณะที่ตนไปพบโครงกระดูก ตอนนั้นรู้สึกขนหัวลุกเกิดมาไม่เคยเห็น ถนนจุดดังกล่าวจะมีแท่นปูนสูงบัง รวมทั้งพื้นมีระดับที่ต่ำกว่าถนน เมื่อคนข้ามเข้าไปข้างทาง ทำให้คนที่ขับรถผ่านไปมาอาจไม่เห็นได้ ด้านใน จากการสังเกตพบจุดนี้ค่อนข้างลับตาคน และค่อนข้างเปลี่ยว นอกจากนี้ทีมข่าวยังเดินทางไปยังบ้านนางปราณี มุ่งกลาง วัย 63 ปี อยู่ในหมู่ 13 บ้านท่าเสา ต.หมวกเหล็ก อ.หมวกเหล็ก จ.สระบุรี เป็นบ้านที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุที่สุด ห่างจากจุดเผาเพียงไม่ถึง 1 กิโลเมตร ซึ่งตนได้ยินชาวบ้านคุยกันเรื่องพบศพคนถูกเผานั่งยาง แต่ส่วนตัวก็ไม่เคยเดินทางไปดูที่จุดเกิดเหตุ ที่ผ่านมาตนเคยได้กลิ่นควันไฟ คล้ายกับกลิ่นยางไหม้ แต่ไม่ได้สงสัยอะไร เนื่องจากคิดว่าชาวบ้านเผาป่า นางปราณี เผยต่อว่า มีครั้งหนึ่ง เมื่อประมาณ 3 – 4 ปีก่อน ตนได้กลิ่นเหม็นเน่าเหมือนศพ ตนยังพูดกับสามีตนว่า ได้กลิ่นเหม็นเน่าไหม ซึ่งสามีก็บอกประมาณว่าคงเป็นกลิ่นซากศพสัตว์ตายทั่วไป ตนก็ไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั่งมาพบโครงกระดูกตามที่เป็นข่าว นางปราณียังบอกอีกว่า พื้นที่จุดดังกล่าวก่อนหน้านี้เคยมีคนนำศพมาทิ้งหลายครั้ง แต่ก็ไม่ทราบว่าเป็นศพใครบ้าง  
ข้อความที่เพื่อนน้องเอ ส่งหาน้องพลอย
ขณะที่ น้องเอ เพื่อนสนิทของน้องพลอย เปิดเผยกับทีมข่าว ว่า มันเป็นความเสียใจที่ยิ่งใหญ่ที่เพื่อนที่รักจากไป และเศร้าสะเทือนใจมาก คิดถึงหัวอกครอบครัวพลอยที่แตกสลายตนได้ส่งข้อความหาพลอยตลอด ตั้งแต่ที่พลอยหายตัวไปปี 2557 ส่งไปตลอด อย่างเช่นพลอยไปไหน ทำไมไม่ติดต่อกลับมาบ้าง ถ้าพลอยคิดอะไรไม่ออกให้โทรมา แต่ก็ไม่มีการตอบกลับ ตนมีความหวังว่าพลอยยังมีชีวิตอยู่ พลอยเป็นคนที่รักเพื่อนรักครอบครัว ตนทราบมาบ้างว่าพลอยจะเลิกกับผู้ชายคนนี้ พลอยอยากมีชีวิตที่ดี และย้ำกับเพื่อนว่าเลิกแน่นอน ช่วงมหาวิทยาลัยเป็นคนร่าเริง ไม่มีอะไรกังวลใจ ตอนนั้นมีผู้ชายเข้ามาจีบบ้าง แต่ก็ยังไม่ได้คบใครเป็นแฟน ส่วนตัวและเพื่อนพลอยเราแค่รู้จักแฟนเก่าพลอย เพราะชายคนนี้ไม่ค่อยสุงสิงกับพวกตนอยู่แล้ว ไม่ค่อยพูดคุยกัน ไม่เคยไปไหนด้วยกัน เพราะชายคนนี้จะพยายามให้พลอยตีตัวออกห่างพวกตน ซึ่งอดีตสิบเอกรู้ว่าพลอยเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ไม่มีทางจะต่อสู้ ส่วนตัวสงสารเพื่อนที่ต้องมาจบชีวิตด้วยการถูกเผา เพราะช่วงที่หายตนมีความหวังว่าจะได้เจอพลอย แต่วันนี้มันไม่มีวันนั้นอีกแล้ว ตนช่วยอะไรเพื่อนไม่ได้เลย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ