วันที่ 12 ก.พ.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาพากันเดินทางมาขอต่อวีซ่า ที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเชียงใหม่ได้ เพื่อขออยู่พำนักในจังหวัดเชียงใหม่ต่อไป เพราะยังไม่อยากเดินทางกลับประเทศจีนในช่วงนี้ หลังจากมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวจีนพากันมาต่อแถวเข้าคิว เพื่อทำเรื่องขอต่อวีซ่าในแต่ละวัน เฉลี่ยวันละ 200-300 ราย
น.ส.วัชรีวรรณ วงศ์สุวรรณ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยเซียงไฮ้เจียวทง ซึ่งเป็นนักศึกษาคนไทยที่ไปเรียนต่ออยู่ที่นั่นและในช่วงปิดเทอมได้ลากลับมาเยี่ยมบ้านที่จังหวัดเชียงใหม่ ประกอบกับยังไม่สามารถจะเดินทางกลับไปเรียนต่อได้ จึงมาเป็นล่ามอาสาให้กับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองช่วยสื่อสารให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มายื่นต่อหนังสือวีซ่า เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนมากยังไม่อยากกลับไปเมืองจีนในช่วงนี้ เนื่องจากยังห่วงเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า จึงได้มายื่นหนังสือต่อวีซ่าขออยู่ต่อ โดยบางรายได้รับอนุญาตให้อยู่ต่อครั้งละ 15 วัน บางรายได้อยู่ต่อครั้งละ 30 วัน แล้วแต่ทางกงสุลจีนจะเป็นคนอนุญาต ซึ่งในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ตกค้างอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ มาเข้าแถวต่อคิวเพื่อต่อวีซ่าเป็นจำนวนมาก
ด้าน พ.ต.ต.หญิง จารุวรรณวงศ์ สุวรรณสารวัตรตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเชียงใหม่ได้เปิดศูนย์ให้ความช่วยเหลือบุคคลต่างด้าวสัญชาติจีน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ โดยได้เปิดศูนย์ไปเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ มาขอยื่นต่อวีซ่าเพื่อขอพำนักอยู่เป็นจำนวนมาก ทางตำรวจตม.เชียงใหม่จะอนุญาตให้เฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาจากเมืองอื่นเท่านั้น ส่วนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาจากเมืองอู่ฮั่นที่เป็นเมืองต้นตอของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนานั้น ก็มีมายื่นขอต่อวีซ่าจำนวน 50 คน แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้พำนักอยู่ต่อไปได้ จึงได้ถ่ายรูปทำประวัติและส่งตัวกลับประเทศจีนไป