สาวงง! ขอเข้าห้องน้ำกลับโดนเจ้าของร้านทำร้าย

6 ก.พ. 63
สาวคนหนึ่งโพสต์เฟซบุ๊ก ระบุโดนเจ้าของร้านอาหารรุมทำร้าย เพียงแค่ไปขอเข้าห้องน้ำ หลังร้านปิดแล้ว โดยโดนกล่าวหาว่า ร้านคู่แข่งส่งมาเป็นสปาย ที่ร้าน มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพตนเอง ได้รับบาดเจ็บตามร่างกาย พร้อมข้อความ ระบุใจความว่า เมื่อคืนเวลาประมาณเที่ยงคืน ในขณะที่ตนขับรถไปกับเพื่อน 2 คน เป็นผู้หญิง ตนได้ชวนเพื่อนจะไปดื่มต่อที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งริมคลองในตัวเมืองมหาสารคาม ร้านอยู่เส้นตัดใหม่ เรากำลังจะไปอุดหนุนเขา เป็นลูกค้าเขา แต่พอไปที่ร้าน ร้านได้ปิดไฟหมดแล้ว ก็คิดว่าร้านน่าจะปิดแล้ว แต่เพื่อนที่ไปด้วยกันบอกว่าปวดฉี่จะไปขอเข้าห้องน้ำ แต่ก็ไม่ได้เข้าเพราะพนักงานบอกว่าร้านปิดแล้ว และขณะที่ตนกำลังจะขับรถออกไป แล้วมีผู้หญิง (ซึ่งมารู้ทีหลังว่าเป็นเจ้าของร้าน) เดินมาถ่ายรูปรถตนเอง และบอกว่าถ่ายรูปไว้แล้วเก็บเป็นหลักฐาน ตนก็งง จากนั้นเจ้าของร้านก็ตะโกนมาว่า “มึงลงมามึงแน่จริงมึงลงมา” ตนเลยโมโหมาก แล้วเดินลงไป พูดว่า “มีปัญหาอะไรกับรถกู” จากนั้นก็โดนรุมทำร้าย ขณะที่ทางเจ้าของร้าน ได้โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงว่า กรณีที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นความจริงตามที่กล่าวอ้างมา โดยเมื่อเวลา 00.20 ได้มีรถเก๋ง และกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งมาจอดรถบริเวณที่ลับตาบริเวณเยื้องๆ หน้าร้าน และจับจ้องมองมาในร้านเป็นเวลาพอสมควร ซึ่งกลุ่มนี้ไม่ได้มาทานอาหารที่ร้านแต่อย่างใด (แต่อ้างว่าเพื่อนมารับประทานข้าวที่ร้าน) ต่อมา เวลา 00.30 น. ได้มีผู้หญิง 2 คนถือถุงพลาสติกทึบ มาคนละถุง และทำทีมาขอเข้าห้องน้ำ ซึ่งดูเหมือนมีพิรุธ จึงได้ห้ามเข้าไป ต่อมาตนรู้สึกไม่สบายใจ จึงได้เดินไปถ่ายทะเบียนรถที่น่าสงสัยไว้ เพราะไม่เคยพบเห็นมาทานข้าวที่ร้าน และมีปากเสียงและทะเลาะวิวาทกับคนขับรถคันดังกล่าว หลังจากมีเรื่องกันทางเราได้ไปแจ้งความแล้ว จึงวอนขอให้ผู้ที่โพสต์ หยุดการโพสต์ และ แชร์ซึ่งไม่เป็นธรรมกับทางเรา ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังร้านดังกล่าว พบว่าร้านยังปิดอยู่และไม่มีใครอยู่ที่ร้าน เมื่อโทรศัพท์ไปยังผู้ที่โพสต์เฟซบุ๊กและทางเจ้าของร้านก็ยังสามารถติดต่อได้ จึงเดินทางไปยัง สภ.เมืองมหาสาคาม พันตำรวจโทวุฒิ ศรีวิลัย รองผู้กำกับสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงานแล้ว โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นหลังเที่ยงคืนที่ผ่านมา ผู้เสียหายได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่าถูกทำร้ายร่างกายที่บริเวณหน้าสถานประกอบการแห่งหนึ่ง จากนั้นไม่นานทางเจ้าของร้านก็ได้เดินทางมาแจ้งความว่าถูกทำร้ายร่างกายเช่นเดียวกัน ซึ่งร้อยเวรได้ลงบันทึกไว้และส่งตัวทั้งคู่ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลมหาสารคาม เบื้องต้นยังไม่ได้สอบปากคำอะไรมาก เนื่องจากต้องให้ผู้เสียหายและเจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ จึงให้กลับไปพักผ่อนก่อน หลังจากนี้จะเรียกมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อที่จะได้ทราบว่าใครเป็นฝ่ายลงมือก่อเหตุก่อน ส่วนในการดำเนินคดีก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ว่าใครทำร้ายใครก่อนหรือเป็นการทะเลาะวิวาท ก็ต้องสอบสวนกันอีกที

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ