"ดีเจมะตูม" ขอพักงานในรายการดัง 2 เดือน เพื่อทบทวนตัวเอง ปมดราม่าเหยียดอาชีพ

2 ก.พ. 63
หลังจากแฮชแท็ก #ตูมสนิท มาเเรงขึ้นอันดับ 1 ในทวิตเตอร์กับประเด็นดราม่าต้อนรับต้นปีของ "ดีเจมะตูม เตชินท์" เรื่องการใช้คำพูดไม่เหมาะสม โดยไปวิพากษ์วิจารณ์รูปลักษณ์และอาชีพของหญิงสาวรายหนึ่งที่มาเป็นแขกรับเชิญในรายการดัง จนเจ้าตัวต้องออกมาขอโทษ แต่เหมือนเรื่องไม่จบจ้า!! ล่าสุด ทีมข่าวบันเทิงอมรินทร์ทีวี ได้เจอกับ "ดีเจมะตูม" โดยเจ้าตัวได้เปิดเผยถึงประเด็นดราม่าให้ฟังว่า ก็รู้สึกผิดที่ไม่น่าจะมีคำพูดนี้ออกไป โดยที่ตนเองก็ไม่ได้โทษใคร แต่เป็นความผิดของตนเองทั้งนั้น เพราะคำพูดมันออกมาจากปากเรา แต่สิ่งหนึ่งที่อยากจะบอกคือ ไม่ได้ต้องการใช้คำพูดเพื่อบูลลี่แต่เป็นไปตามคอนเทนต์ของรายการเพื่อให้สนุกสนาน หลังจากนี้ส่วนตัวก็จะระมัดระวังคำพูดให้มากขึ้น และได้ตัดสินใจพักงานกับทางรายการไปก่อน 1-2 เดือน เพื่อทบทวนกับสิ่งที่เกิดขึ้น ยืนยันจะเปลี่ยนแปลงและระมัดระวังคำพูด แต่ไม่ถึงขั้นเปลี่ยนสไตล์ตัวเอง ทั้งนี้ หลังเกิดเรื่องก็ได้คุยกับน้องที่เป็นผู้เข้าร่วมรายการแล้ว ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้ติดใจอะไร ทุกอย่างเหมือนเดิม ยอมรับว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เครียดมาก เพราะเป็นการกระทำที่เกิดจากเนื้องาน ไม่ใช่สไตล์ชีวิตส่วนตัว "จริง ๆ แล้วแฮชแท็กนี้มันมีมานานแล้ว เพราะด้วยคาแรคเตอร์ของเราที่เป็นเจ้าหญิงแห่งวงการตีสนิทกับคนนั้นคนนี้ ซึ่งอันนั้นเราเลิกมาตั้งแต่ปีที่แล้ว พอปีนี้ที่มันขึ้นเทรนด์อันดับหนึ่ง เพราะมาจากรายการหนึ่ง เรื่องของการบูลลี่ อย่างที่ตูมได้ชี้เเจงในไอจีเลย ว่าตูมเองก็รู้สึกผิดแล้วก็พลาดมาก ที่เราใช้คำพูดจากความคึกคะนองของเรา เราอาจจะไม่ได้คิดถึงคนฟังหรือคนที่อยู่หน้างานตอนนั้น จริงการถ่ายทำวันนั้นคือเทปหนึ่งใช้เวลา 5 ชั่วโมง มันยาวมาก เล่นกันสด ไม่มีสคริปต์ ทั้งนี้ตูมเองก็ไม่ได้โทษรายการว่าทำไมตัดออกมาตอนนั้น เพราะทุกสิ่งทุกอย่างเราจะไปโทษปีชง หรือโทษโน้นโทษนี้ไม่ได้ เราต้องโทษตัวเองก่อน เพราะว่ามันหลุดออกมาจากปากของเรา เลยตามที่ชี้แจงในไอจีว่า อยากจะขอโทษ ไม่น่าใช้คำพูดนี้ออกมา จะระวังให้มากขึ้น" ขณะที่เล่นมุกไปเรามีความรู้สึกตะหงิดใจไหม? "ไม่หรอกครับ เพราะว่าทุกคนคือ ถ้าใครที่ติดตามรายการจริง ๆ จะทราบว่าตูมเป็นคนชอบแซวชอบกัดผู้หญิงที่สวยเพราะจะได้มาตบมากัดตัวเองตอนจบ อะไรประมาณนี้ อีกทั้งคอนเทนต์ของรายการเองก็เป็นอะไรที่ตามหานักร้องเสียงเพราะกับเสียงเพี้ยน แต่ก็มีการเเซวคนหล่อคนสวย คือทุกคนจะมีมุก มีทางของตัวเอง แต่มะตูมไม่ได้ระวังตรงนี้ ก็เลยครับตามนั้น" สีหน้าของน้องที่โดนเเซวโอเคไหม? "คือตูมเข้าไปอ่านในเฟซบุ๊กน้อง เพราะเราก็กังวลอยากจะคุยกับน้องเป็นการส่วนตัว เรามีความรู้สึกกับน้องวันนั้นแบบเดินเข้าไปชมน้องว่าสวยจังเลย ตอนที่กล้องไม่ได้จับ น้องก็ยังคอมเมนต์อยู่เลยว่าจริง ๆ น้องไม่ได้เป็นอะไรเลย แบบยังปกติกับพี่มะตูมทุกอย่าง แต่ตอนนั้นหนาวเพราะแอร์มันเย็น" ได้คุยกับดีเจแมนไหม เพราะตอนนั้นมีจังหวะเหมือนเขาจะเบรก? "ไม่ได้คุยเลยครับ ก็ครับไม่รู้จะพูดอะไร เพราะตูมไม่ได้คุยกับพี่แมนเลย " รายการไปสดเลย ? "ใช่ครับ ทุกคนไม่มีสคริปต์ เพราะรายการที่รู้แค่ว่าใครจะพูดตอนไหน แต่การคิดมุกก็พูดกันสด ๆ ไม่มีอะไรเลย ทั้งนี้ทั้งนั้นตูมไม่โทษใครเลย เพราะเป็นความผิดของตูมคนเดียว ตูมน้อมรับผิดไว้คนเดียว แล้วจะพยายามไม่ให้เกิดอะไรแบบนี้บ่อยๆ" ประเด็นบูลลี่เราระแวงเลยไหมเวลาจะพูดหรือจะเล่นอะไร ? "มันต้องระมัดระวังมากขึ้น แต่ส่วนตัวแล้วถามว่าเปลี่ยนสไตล์ตัวเองเลยไหม คือตัวเราเองเข้าใจคำว่าบูลลี่ คำว่าบูลลี่คือการกดคนอื่นโดยที่เอาปมด้อยเขามา สำหรับตูมนั้น เวลาเล่นกับเพื่อนสนิทก็จะด่าแบบดีออก หากคนเห็นข้างนอกไม่รู้ว่าเราสนิทกัน เขาก็จะมองว่านี้คือการบูลลี่เหมือนกัน มันก็เลยต้องดูว่าเวลาตรงนั้น กาลเทศะตรงนั้นเหมาะสมไหม ที่จะใช้คำพูดคำจาที่เป็นกันเองกับคนรู้จัก" รู้สึกยังไงบ้างที่เราก็ต่อต้านการบูลลี่แต่เล่นซะเอง? "ตูมคิดว่าให้มองเรื่องของเจตนา ไม่ได้อยากใช้พื้นที่ตรงนี้เพื่อขอโอกาส เพราะจริง ๆ แล้วตูมมองว่าทุกคนมันมีพลาดกันได้ กับเรื่องของการใช้คำพูด ซึ่งเราเองก็ทำงานทุกวัน ดังนั้นเจตนาของตูมจริง ๆ เลย คือเราเป็นคนตลกและสนุกจริง ๆ นะ การที่เราพูดเล่นหรือพูดเเซว คือเราอยากให้คนที่อยู่รอบ ๆ ตัวเราหัวเราะ เท่านั้นเองครับ เพราะเราก็ยังด่าตัวเองเลย เราไม่ได้คิดว่าบูลลี่ตัวเองเลย คือเจตนาของเราคือเรารับเงินจากรายงานมาแล้ว แล้วเราจะมานั้งอยู่เฉย ๆ เราอยากทำให้มันออกมาดีที่สุดกับทุก ๆ งาน แต่ไม่ใช่ทุกอย่างจะมองว่าสิ่งที่ตูนทำทุกอย่างคือการบูลลี่ เหมือนตอนนี้เดี๋ยวหาว่าตูมบูลลี่คนผมยาวเพราะไปต่อผมมา อะไรยังงี้ เพราะคนมันมองไปได้อีกประเด็นหมดเลย ทั้งนี้ในอนาคตเราต้องวางตัว คำพูดให้มันเหมาะสม และระมัดระวังมากขึ้น" ครั้งก่อนก็โดนวิจารณ์ด้านลบเยอะ แต่ครั้งนี้ดูเหมือนจะซีเรียสกับเรื่องดังกล่าว ? "ใช่ครับ อันนี้คือซีเรียสมากตั้งแต่มีข่าวในวงการมาเลยครับ เพราะอันนี้มันเกิดขึ้นในส่วนของเนื้องานของตูม ไม่ได้เกิดขึ้นจากชีวิตส่วนตัว คนไม่ได้ด่าตูมจากไอจี ไม่ได้เห็นตูมชงอันนี้แล้วไม่ชอบ ไปคอมเมนต์ดารา ไปถ่ายรูปกับดารา อันนั้นคือชีวิตส่วนตัวของตูม ตูมรู้สึกว่าตูมไม่ได้ทำอะไรผิด แต่อันนี้มันคือสื่อสาธารณะ และเป็นรายการที่มีคนติดตาม เครียดครับ ซึ่งทางเราเองก็ได้เข้าไปคุยกับทางผู้ใหญ่ว่าขอโทษที่ทำให้เกิดกระเเสลบแบบนี้ ทางผู้ใหญ่เองก็ให้ตูมตัดสินใจ ตูมก็เลยเลือกพักงาน" ตั้งแต่ตอนไหน? "คือตอนนี้ที่มันออนอยู่คือเทปสำรอง ที่ถ่ายไว้แล้วก่อนเกิดเรื่อง แต่หลังจากที่เกิดเรื่อง ตูมของดรับรายการดังกล่าวไปก่อน ไม่ใช่ออกนะ แค่อยากพักแล้วไปย้อนดูเทปเก่า ๆ ของตนเอง คืออยากปรับปรุงเพราะรู้สึกผิดจริง ๆ " พักงานนานไหม ? "ไม่นานหรอกครับ จริง ๆ ก็แค่เดือน 2 เดือน ก็น่าจะได้แล้ว เพราะรายการนี้เป็นอีกรายการที่ตูมรักมาก วันที่ตูมไปทำวันแรกตูมก็โดนอยู่แล้ว เพราะว่าตูมรับช่วงต่อจากพี่นุ้ย แล้วเราไปอยู่เป็นนักสืบประจำ ทำให้คนเปรียบเทียบตั้งแต่เเรกอยู่เเล้ว คือเราทำอะไรคนก็ด่าอยู่แล้ว" ผู้ใหญ่ว่าไงบ้างที่เข้าไปคุย? "ผู้ใหญ่น่ารักมาก เขาเข้าใจและให้การสนับสนุน ไม่มีใครตำหนิอะไรเลย เขาบอกแค่จะระมัดระวังเรื่องการตัดต่อ" จริง ๆ ถอนคิวไปเยอะไหมหลังจากเกิดเรื่อง? "ประมาณ 6-7 เทป" ได้บอกกับตัวเองไหมว่าจะระมัดระวังให้มากขึ้น? "บอกครับ ไม่ใช่แค่รายการดังกล่าว แต่จะระมัดระวังกับทุก ๆ อย่างที่เป็นสื่อสาธารณะ ต้องระวังมากขึ้น แต่ในไอจีสตอรี่ อาจจะไม่ เพราะมันคือไลฟ์สไตล์ของเรา คือตูมจะพยายามทำให้มันออกมาดีที่สุดในสไตล์ของตัวเอง แต่จะไม่เปลี่ยนตัวเอง" จิตตกไหมกับเรื่องที่เกิดขึ้น? "การที่เราออกจากโรงพยาบาลมา หยิบโทรศัพท์มาแล้วอ่านทวิตเตอร์ แล้วเจอชื่อเราขึ้นอันดับ 1 เรารู้อยู่แล้วว่ามันต้องไม่ใช่เรื่องที่ดี คือเราไม่ใช่ดาราที่ประชาชนเอ็นดูอยู่แล้ว ด้วยคาเเรคเตอร์ของเราก็ต้องมีจิตตกบ้างหนู แต่มันไม่ได้ตกขนาดที่ว่า (ทำหน้าตาหวาดกลัว) เพราะตูมโชคดีเหลือเกินที่วันที่ตูมโดนคนด่าครึ่งประเทศ ค่อนประเทศ ตูมยังมีเพื่อนในวงการพี่น้องในวงการมาให้กำลังใจเรา แล้วมาวันเกิดเราแบบจัดเต็ม" น้อยใจไหมว่าคนมองเราทำอะไรก็ผิด? "ไม่น้อยใจครับ เพราะว่าการที่คนเราทำอะไรผิดบ้าง ถูกบ้าง นั้นมันก็คือมนุษย์ ตูมเองก็ยังเป็นมนุษย์ในอนาคตตูมก็ต้องทำผิดอีกแน่นอน มันต้องมีอีกแน่นอน การที่เราไม่ได้ถูกจับผิดแต่เป็นที่สนใจของคนในวงกว้าง หรือประชาชนครับ นั้นแสดงว่าเราเป็นคน สาธารณะแล้ว เราแค่ต้องมีสติมากขึ้น" สุดท้ายอยากจะขอโทษอีกครั้งไหม? "อืม ขอโทษพร่ำเพรื่อครับ เพราะตูมพูดไปหมดแล้ว วันนี้ตูมไม่ได้มาขอโทษ แต่มาบอกความรู้สึกว่าต่อไปนี้จะพัฒนา ขอบคุณคอมเมนต์ที่ติเพื่อก่อ จริง ๆ ขอบคุณมากครับ สัญญาจะไม่ทำให้ผิดหวังกับตัวคนนี้ และสัญญาว่าจะพัฒนามุกหรือเล่นอะไรที่มันสนุก ๆ ออกมา ให้ทุกคนได้มีความสุขต่อไป "

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส