'ษา วรรณษา' แจ้งความโรคจิตอวดของลับ-แชทเสนอเงินกว่าครึ่งแสน แลกเดท 3 ชม.

อดีตดารานางแบบสาวเซ็กซี่ "ษา- วรรณษา ทองวิเศษ" สุดปรี๊ด เจอหนุ่มโรคจิตแชทเฟซบุ๊ก ชวนออกเดท 3 ชั่วโมงแลกกับเงิน 65,000 บาท ซ้ำยังส่งภาพ 'ของลับ' มาโชว์ดาราสาวอีกด้วย งานนี้ซิงเกิลมัมสุดสตรอง ถึงกับผงะ โร่เข้าแจ้งความเรียบร้อย โดย "ษา วรรณษา" เล่าถึงเหตุสะพรึงลูกตาผ่านทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ว่า "น่ากลัวมาก ค่าตัวเราถูกขนาดนั้นเลยหรอ (หัวเราะ) ปกติเป็นคนเจออะไรแบบนี้อยู่แล้ว ก็จัดการโดยการบล๊อคไป แต่ครั้งนี้มันเกินไป และมีการถามเราด้วยว่า ติดเรื่องราคาไหม ติดอะไรบอกได้นะ เหตุเกิดจากตอนนั้นเรากำลังถ่ายละครอยู่ในกองถ่าย และพี่ๆ ในกองซึ่งเป็นดารารุ่นใหญ่ยังแซวว่า ค่าตัวเราแค่ 65,000 บาทเองหรอ ก็ยังขำกันอยู่ จนกระทั่งช่วงประมาณ 4 ทุ่มกว่าๆ เขาเริ่มโทรมาวีดิโอ เราก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่แล้ว เพราะเราไม่มีการโต้ตอบใดๆ เลยตั้งแต่แรก พอเราไม่ได้รับวีดิโอเขาก็เริ่มรุกรานมากขึ้น มีการส่งรูปอย่างว่าเข้ามา 2-3 รูป ตอนนั้นยังไม่รู้สึกอะไร แต่เขาดันพูดว่า จำผัวเก่าไม่ได้หรอ ที่ส่งรูปมาจะได้จำได้ เราก็เริ่มชีวิตไม่เป็นสุขแล้ว หลังจากนั้นช่วงเที่ยงคืนเขาก็ยังโทรเข้ามาไม่หยุด และนึกถึงน้องอาทขึ้นมาได้ เพราะน้องเป็นอาสาก็จะมีกลุ่มก้อนที่สามารถแชร์รูปพวกนี้และช่วยตามหาคนๆ นี้ให้ได้ และเรามีโทรศัพท์กลางเครื่องหนึ่ง ที่สามารถกดเข้าเฟซบุ๊กของเราได้เลย ด้านน้องอาทจึงเข้าไปตอบให้ น้องเขาก็ลุยเลยกดวีดิโอกลับไปหา (หัวเราะ)" อาทเสริมถึงช่วงเวลาที่วีดิโอไปหาว่า "ตอนนั้นเขาก็กดวีดิโอกลับมา เมื่อเขาได้เห็นหน้าผมเขาก็รีบกดวางทันที แต่ผมก็กดโทรกลับไปใหม่ แต่ษาก็เตือนว่าอย่าไปทำแบบนั้นเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะเข้าไปแจ้งความกัน" ษาเผยต่อว่า "หลังจากที่เราได้โพสต์เรื่องนี้ลงเฟซบุ๊ก ก็มีน้องคนนึงบอกมาว่า ผู้ชายในแชทนั้นเขาเป็นอาจารย์ของหนูนะ ซึ่งยืนยันว่านี่ไม่ใช่เฟซฯ ของอาจารย์แน่นอน และน้องเขาก็ส่งเฟซจริงของอาจารย์มาให้เราดู แน่นอนว่าอันนี้คือเฟซปลอม และในตอนนั้นเราอยู่ที่โรงพักแล้ว กำลังจะเข้าไปลงบันทึกประจำวัน ตัวอาจารย์ก็ติดต่อผ่านน้องอาท และเขาก็ตามมาที่โรงพักในภายหลัง ซึ่งตัวพี่เขาเองก็ไม่ทราบเลยว่าโดนแอบอ้างแบบนี้ ตั้งแต่ปีที่แล้ว เพราะดารานักแสดงบางคนเข้ามาบอกเราว่าเขาก็เคยโดนพี่คนนี้ส่งภาพแบบนี้มาเหมือนกัน เราก็ลงบันทึกประจำวันพร้อมกัน แบ่งเป็น 2 คดี ของพี่ที่ถูกแอบอ้างใช้รูปภาพ เขาลงว่าเป็นคดีเกี่ยวกับการปลอมแปลงโซเชียล และคดีของเราคือคดีล่อลวงและอนาจาร เราเชื่อว่าตำรวจสมัยนี้เก่งและคิดว่าไม่น่าจะตามตัวยาก เพราะรอยสักของคนในรูปใหญ่พอสมควร ยกเว้นว่าเขาจะใช้แทททูนะ (หัวเราะ) เราไม่ได้ออกมาเพื่อจะจับคนร้าย เพราะเราคิดว่าเราจับไม่ได้แน่นอน ซึ่งในตอนแรกเราคิดว่าเราจะโทรไปหาเขาด้วยตัวเอง แต่อาทก็ขัดก่อนว่าถ้าโทรไปคงไม่ได้เห็นหน้าหรอก คงได้เห็นอย่างอื่นแทน (หัวเราะ) เราจึงไม่โทรไป ณ ตอนนี้เราคิดแค่ว่า ตอนนี้อาจจับคนร้ายไม่ได้แต่ในอนาคตเราไม่รู้ และทางตำรวจยังบอกว่า กรณีแบบนี้มีเข้ามาแจ้งความเยอะมาก ทั้งโดนลวนลาม ปลอมแปลงเพื่อไปยืมเงิน เป็นต้น และเราก็ถามกลับไปว่าจับไม่ได้หรอ (หัวเราะ) ตำรวจก็เงียบกริบ คือเราก็ผู้หญิงคนเดียวและไม่มีผู้ชายมาดูแลจึงต้องรบกวนอาทเยอะ" สุดท้ายทั้งคู่จึงขอฝากเตือนไปยังผู้คนในสังคมว่า "หากใครโดนแบบนี้ จะให้ไปวิ่งตามเองก็เสียเงินเปล่าๆ เราต้องปกป้องตัวเองด้วยการไปแจ้งความไว้ดีกว่า ส่วนตัวเราเชื่อว่าเจ้าหน้าที่เก่ง แต่เราอาจจะต้องตามเรื่องเองด้วยอย่างจริงจัง อยากให้ทุกคนช่วยกัน เพราะโซเชียลเป็นอะไรที่แรงมาก และต้องขอขอบคุณทุกคนเลยที่ช่วยในวันนี้ (ยกมือไหว้) และ ณ ตอนนี้เฟซบุ๊กนั้นได้ปิดไปแล้ว ก็สบายใจไปเปราะหนึ่ง แก้ไขตามอาการ สนุกดีเราว่าง (หัวเราะ)"