บุกทุบรถหรู ผช.เจ้าอาวาสวัดดัง ย่านคันนายาว

29 ม.ค. 63
คนร้ายบุกทุบรถหรูของผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดครองครุ คันนายาว กระจกแตก รถบุบ พังยับทั้งคัน ตำรวจคาดเป็นคนในพื้นที่ แต่ยังสงสัยปมการก่อเหตุ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (28 ม.ค.) โดยคนร้ายลอบเข้ามาทุบรถยนต์หรูของพระมหารณฤทธิ์ รวยรื่น ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดครองครุ เขตคันนายาว สภาพกระจกประตู หน้า - หลัง แตกทั้งบาน ไฟหน้าทั้ง ซ้าย-ขวาแตก จึงแจ้งตำรวจ สน.โคกคราม เข้าตรวจสอบ เบื้องต้นคาดว่า คนร้ายน่าจะเป็นคนในพื้นที่ และไม่น่าจะหลบหนีไปไกล ตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั้งในวัด และบริเวณใกล้เคียง เพื่อใช้เป็นเบาะแสในการติดตามจับกุมคนร้าย ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปที่วัดครองครุ คันนายาว และได้มีโอกาสพูดคุยกับพระมหารณฤทธิ์ ฐิตวังโส ผู้ช่วยเจ้าอาวาส ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เหตุการณ์เกิดขึ้น เมื่อเวลาประมาณ 03:00 น ของวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา โดยภาพกล้องวงจรปิด สามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้อย่างชัดเจน คือนายอนุวัฒน์ มีแก้ว ซึ่งแอบเข้ามาอยู่ในวัดอยู่ ตั้งแต่ 2-3 เดือนที่ผ่านมา โดยอาศัยอยู่ที่ศาลาปฏิบัติธรรม ด้านนอกกำแพงวัด แต่เนื่องจากนายอนุวัฒน์ มีพฤติกรรมชอบดื่มเหล้าจนเมามาย แล้วเดินเข้ามาในพื้นที่ของวัด จนมีญาติโยมที่มาช่วยงานวัด นำเรื่องมาบอกตนหลายครั้ง เมื่อวันก่อนเกิดเหตุ ตนจึงได้เดินไปหานายอนุวัฒน์ที่ศาลาปฏิบัติธรรม และได้มีการพูดคุยกับนายอนุวัฒน์ว่า ให้ทำการย้ายออกจากวัดภายใน 2-3 วัน เนื่องจากพฤติกรรมของนายอนุวัฒน์ไม่เหมาะที่จะอยู่ในพื้นที่นี้ นายอนุวัฒน์จึงตอบกลับมาว่าทำไมท่านใจร้ายจัง ทำไมไม่มีเมตตา ตนจึงบอกกับนายอนุวัฒน์ไปว่า ถ้านายอนุวัฒน์จะอยู่ภายในวัดนี้ ก็ต้องอยู่ในศีลในธรรม เป็นผู้ปฏิบัติธรรม หรือไม่ก็บวชเป็นพระ จึงจะสามารถอยู่ในวัดได้ แต่เนื่องจากนายอนุวัฒน์นั้นเคยผ่านคดีอุกฉกรรจ์มาทางวัดจึงไม่สามารถให้บวชได้ จากนั้นนายอนุวัฒน์แสดงท่าทีไม่พอใจ โมโห และแสดงท่าทีเกรี้ยวกราดใส่คนอื่น ทำให้คนภายในวัดเริ่มกลัว เพราะนายอนุวัฒน์มีเคยต้องโทษจำคุก 15 ปี ในคดี ฆ่าคนตายถึง 2 คดี ก่อนจะพ้นโทษออกมา ก็มาอาศัยอยู่ที่วัด ทั้งนี้ จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด ที่สามารถจับภาพคนร้าย แต่งตัวปกปิด มิดชิดมีการสวมหมวกคุมใบหน้า โดยคนร้าย ได้ปีนกำแพง บริเวณหน้าวัดเข้ามา เดินผ่านกล้องภายในวัด จนไปถึงศาลาที่ใช้จอดรถ ก่อนจะลงมือทุบรถ โดยผู้ช่วยเจ้าอาวาสบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ข้าวของภายในรถไม่ได้มีอะไรหายไปเลย มีเพียงการทุบทำลายกระจกรถเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนกำลังลงพื้นที่ เพื่อหาหลักฐาน และติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ