ญาติเหยื่อโจรชิงทอง ฝากความหวังให้ตำรวจนำตัวมาลงโทษให้สาสม

20 ม.ค. 63
ตำรวจจะดมกำลังเข้มทุกพื้นที่ต้องสงสัย หลังมีเบาะแส คนร้ายกราดยิงชิงทอง และยิงคนตาย 3 คน บาดเจ็บ 4 คน จังหวัดลพบุรี ใช้เป็นพื้นที่หลบหนี ขณะที่พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า ขอเวลา 7 วันจะนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ ด้านญาติผู้บาดเจ็บฝากความหวังไว้กับตำรวจชุดทำงานทุกคน อยากให้ช่วยจับตัวคนร้ายให้ได้เร็วๆ จะได้ลงโทษให้สาสม หลังจากเมื่อวานนี้ ( 19 ม.ค.) พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พบผู้ต้องสงสัย มีรูปพรรณคล้ายคนร้าย ที่ก่อเหตุกระหน่ำยิงคนเสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บ อีก 4 คน ก่อนชิงทอง ร้านทองออโรร่า ภายในห้างโรบินสัน อำเภอลพบุรี จังหวัดลพบุรี เมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา โดยพบผู้ต้องสงสัยที่จังหวัดหนองคาย มีรูปร่าง ส่วนสูง ลักษณะคล้ายคนร้าย และพบว่า ใช้เป้คล้ายกัน จึงได้เชิญตัวมาสอบปากคำ แต่ยังไม่ได้จับกุม และที่ต้องเรียกสอบปากคำนั้นเนื่องจากจุดที่พบคือ จังหวัดหนองคาย ซึ่งถือว่า เป็นพื้นที่สะดวกต่อการหลบหนี และเข้าข่ายพื้นที่เฝ้าระวังสะกัดคนร้ายเป็นกรณีพิเศษ ทั้งนี้ พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า ขอเวลา 7 วันจะนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ ล่าสุดวันนี้ ( 20 ม.ค.) คุณพนิตา สืบสมุทร ผู้สื่อข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจังหวัดลพบุรี ได้ไปคุยกับนางลำไย นาคประเสริฐ อายุ 65 ปี ญาติของนายประเสริฐ คงลี อายุ 22 ปี รปภ.ของห้าง 1 ในเหยื่อ ที่บาดเจ็บจากเหตุการณ์ คนร้ายใจเหี้ยมบุกปล้นทอง ภายในห้างทองออโรร่า โรบินสัน ลพบุรี บอกว่า ยังติดตามข่าวอยู่ตลอดแบบเกาะติด ไม่เปิดดูจากทีวี ก็ดูจากโทรศัพท์ เพราะอยากรู้ความเคลื่อนไหวว่าไปถึงแล้ว จนเมื่อวานนี้ ที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่า คุมตัวผู้ต้องสงสัย ที่มีลักษณะรูปร่าง ใช้กระเป๋าเป้คล้ายกับคนร้ายได้ ที่จังหวัดหนองคาย ยิ่งทำให้ครอบครัวมีความหวังมากยิ่งขึ้น จากที่เคยรอ 7 วันบ้าง 10 วันบ้าง คิดว่าตอนนี้ใกล้แล้ว ส่วนอาการโดยรวมของหลานชาย ค่อนข้างดีขึ้น เริ่มพูดคุยสื่อสารได้บ้าง แต่หากพูดเยอะจะเหนื่อย ยังต้องระบายเลือดออกจากปอดอยู่ตลอดเวลา และยังคงพักรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู ที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงยุติธรรมเข้ามาช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษา เพราะตอนนี้ความเป็นอยู่ของครอบครัวเริ่มย่ำแย่ ขาดเสาหลักของบ้านทั้งที่เป็นหลานคนโตที่พอจะพึ่งพาได้ ที่เหลือยังอยู่ในวัยเรียน ยายลำไย ยอมรับว่า ทุกวันนี้ต้องใช้ชีวิตแบบระมัดระวังมากขึ้น กลัวหลานจะเป็นอันตราย ตัวยายจะตายเมื่อไรก็ช่าง เพราะแก่แล้ว แต่หลานยังมีอนาคต อยากให้มีชีวิตต่อ ฝากความหวังไว้กับตำรวจชุดทำงานทุกคน อยากให้ช่วยจับตัวคนร้ายให้ได้เร็วๆ จะได้ลงโทษให้สาสม คนแบบนี้อยู่ต่อไปก็เป็นภัยกับสังคม

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ