จากกรณีผู้ต้องขังในเ
รือนจำจังหวัดพิษณุโลก ป่วยหนัก จนเสียชีวิต 4 ศพ และกรมราชทัณฑ์ ได้เผยแพร่เอกสาร ชี้แจงผลการตรวจหาสาเหตุของกองบริการทางการแพทย์ และกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวานนี้ ว่า น่าจะเกิดจากการระบาดของ
โรคไทยรอยด์เป็นพิษ ซึ่งผลตรวจทางห้องปฏิบัติการของโรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลกและโรงพยาบาลวังทอง พบผู้ต้องขังบางรายมีภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำร่วมด้วย โดยสาเหตุของการระบาด น่าจะเกิดจากอาหารที่ปนเปื้อนฮอร์โมนไทรอยด์ เช่น เนื้อหมู หรือเนื้อไก่ ซึ่งอยู่ระหว่างส่งตัวอย่างไปตรวจทางห้องปฏิบัติการ
นอกจากนี้พบว่า ผู้ต้องขัง ที่เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลกและโรงพยาบาลวังทอง จำนวน 25 คน พบว่า 5 คน มีแขนขาอ่อนแรง ร่วมกับมีอาการชาปวดกล้ามเนื้อ-เหนื่อยง่าย รวมทั้งมีระดับฮอร์โมนกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนไทนรอยด์ต่ำกว่าปกติ และระดับฮอร์โมนอิสระสูงกว่าปกติ ส่วนที่เหลือกล้ามเนื้อแขน-ขาอ่อนแรง และกำลังรอผลตรวจจากห้องปฏิบัติการณ์ พร้อมกันนี้ ได้สั่งให้หน่วยแพทย์เข้าคัดกรอง เฝ้าระวังผู้ป่วย รวมทั้งผู้ที่มีอาการสงสัย เพื่อป้องกันการระบาดเพิ่มขึ้น
สำหรับบรรยากาศหน้าเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก วันนี้(6 ม.ค.) ญาติผู้ต้องขังจำนวนมากได้เดินทางมารับบัตรคิวเข้าเยี่ยมญาติตั้งแต่เช้า โดยต่างเป็นห่วงและกังวลหลังทราบว่าผู้ต้องขังข่วยจนเสียชีวิต และมีอีกหลายคนที่ป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล จากการระบาดของโรคไทรอยด์เป็นพิษ
แม่นักโทษคนหนึ่ง เล่าว่า ลูกต้องโทษอยู่ในเรือนจำแห่งนี้ มา 4 ปีแล้ว ล่าสุดที่เข้าเยี่ยมพบว่า ลูกชายมีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดี ร่างกายผอมลง ทำให้ตนเป็นกังวล ว่าลูกจะป่วยเป็นโรคเดียวกันกับที่มีผู้เสียชีวิต อยากฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ขอให้ดูแลผู้ต้องขังทั้งเรื่องสุขภาพ สถานที่หลับนอนและเรื่องโภชนาการให้มากกว่าที่เป็นอยู่
ขณะเดียวกัน
พันตำรวจเอกณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เดินทางมาที่เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก เพื่อติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคไทรอยด์เป็นพิษ หลังคืนที่ผ่านมาได้ประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกและหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ รวมทั้งจะชี้แจงสถานการณ์การเกิดโรคในเรือนจำจังหวัดพิษณุโลกให้กับญาติ ที่มาเยี่ยมผู้ต้องขังในวันนี้ ได้ทราบถึงสถานการณ์และเพื่อให้เกิดความสบายใจ
ทั้งนี้ยืนยันจะดูแลผู้ต้องขังทั้งหมดเป็นอย่างดี ส่วนผู้ต้องขังที่ป่วยประมาณ 40 ตน ได้ส่งรักษาที่โรงพยาบาล 3 แห่ง ในจังหวัดพิษณุโลก โดยมีแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด ขอให้ญาติไม่ต้องกังวล
