กรณีโลกออนไลน์ แชร์เรื่องราวของโรงเรียนชื่อดังในจังหวัดปทุมธานีผ่านแฮชแท็กทวิตเตอร์
#รรชื่อดังย่านปทุม หลังเกิดเหตุนักเรียนชายชั้นมัธยมศึกษาคนหนึ่งใช้มีดปาดคอเพื่อนนักเรียนด้วยกันจนบาดเจ็บสาหัสกลางโรงเรียน ซึ่งหลังเกิดเหตุทางโรงเรียนพยายามที่จะปิดเรื่องนี้ให้เงียบที่สุด เพราะเกรงจะกระทบต่อชื่อเสียงของโรงเรียนนั้น
ล่าสุดวันนี้ ( 22 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่พูดคุยกับ น.ส.เกด(นามสมมติ) นักเรียนคนหนึ่งที่อยู่ในโรงเรียนเดียวกัน เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุคือวันศุกร์ที่ผ่านมา (20 ธ.ค.) ซึ่งเป็นวันที่มีการสอบของนักเรียนชั้น ม.1 ม.2 และ ม.6 ส่วนตนไม่มีสอบจึงไม่ไปโรงเรียน แต่ทราบจากเพื่อนว่า นายอาร์ม(นามสมมุติ) นักเรียนชั้น ม.6 ก่อเหตุใช้ขวดแก้วที่ทุบจนแตกกรีดคอเพื่อนนักเรียนชั้น ม.6 ซึ่งอยู่คนละห้องได้รับบาดเจ็บที่บริเวณคอด้านหลัง สาเหตุเกิดจากนายอาร์มต้องการจะเข้าไปทำร้ายนักเรียนหญิงชั้นม.6 ที่นั่งอยู่ข้างกับผู้บาดเจ็บ คาดน่าจะเกิดจากความไม่พอใจที่นักเรียนหญิงรายนี้เลิกคุยกับตัวเอง แต่ผู้บาดเจ็บเข้าไปช่วยห้ามจึงถูกลูกหลง
น.ส. เกดเผยอีกว่า ตนรู้จักนายอาร์ม เพราะอีกฝ่ายเคยทักมาทางแชทเฟซบุ๊กในลักษณะเข้ามาจีบตนตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยคุยกันมาได้ประมาณ 1 เดือนก็เลิกคุยเพราะอยากตั้งใจเรียน อีกฝ่ายก็ไปโพสต์ในทำนองว่าตนเลือกทางเดินเองให้เตรียมรับผลที่จะตามมา ลักษณะคล้ายจะตามล้างแค้น ซึ่งนายอาร์มจะทำแบบนี้เป็นประจำกับผู้หญิงที่คุยด้วย หากเลิกคุยก็จะเอาไปโพสต์ประจานหรือด่าให้เสียหาย
น.ส.เกด
ทั้งนี้ที่ผ่านมานายอาร์มเคยพูดกับตนว่าเป็นคนชอบใช้ความรุนแรง หากใครทำให้ตัวเองไม่พอใจจะจัดการให้เจ็บที่สุด ชอบชกต่อยรวมถึงเคยพกมีดมาโรงเรียนเพื่อจะทำร้ายคนอื่นด้วย โดยตนเองก็เคยเกือบโดนทำร้ายหลังจากเลิกคุยกับอีกฝ่าย เพราะสังเกตว่านายอาร์มชอบแอบมองตนแบบแปลก ๆ พยายามเดินมาใกล้ ๆ คล้ายจะเข้ามาตี ตนจึงอยู่ห่าง ๆ และเดินกับเพื่อนตลอด
นายอาร์มเริ่มถูกแอนตี้ไม่มีเพื่อนคบตั้งแต่ช่วงที่เลิกคุยกับตนไป ซึ่งสังเกตเห็นว่าคนเดียวเป็นประจำ ทั้งนี้คิดว่านายอาร์มน่าจะเป็นคนที่เก็บกด ไม่ได้เป็นโรคตามที่ข่าวออกมาแต่อย่างใด ตอนนี้เพื่อน ๆ ในโรงเรียนก็ค่อนข้างกลัวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ทราบมาว่านายอาร์มถูกไล่ออกแล้ว
โพสต์ของนายอาร์ม
ทั้งนี้ทีมข่าวเดินทางมายังโรงเรียนที่เกิดเหตุ ได้พบกับรองผู้อำนวยการ ระบุว่า ไม่ทราบเรื่องเพราะไม่ได้อยู่ในวันที่เกิดเหตุและขอให้ติดต่อสอบถามทางผู้อำนวยการโดยตรง ส่วนครูรายอื่น ๆ ต่างปฏิเสธว่าไม่ทราบเรื่องเช่นเดียวกัน
สอบถามวินจักรยานยนต์รับจ้างหน้าโรงเรียน ระบุว่า ตนไม่ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาตนอยู่หน้าโรงเรียนทั้งวัน แต่สถานการณ์ดูเป็นปกติทุกอย่าง ไม่มีรถพยาบาล หรือรถตำรวจเข้าไปภายในโรงเรียนแต่อย่างใด ส่วนตัวคิดว่าหากโรงเรียนต้องการปิดข่าวจริงก็สามารถทำได้ เพราะด้านในก็มีห้องพยาบาลที่สามารถปฐมพยาบาลเด็กได้อยู่แล้วในเบื้องต้น
