“มนต์สิทธิ์ คำสร้อย” แจ้งเอาผิดนิติฯ คอนโด ปมเงินค่าส่วนกลาง

11 ธ.ค. 62
หลังจากเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง "มนต์สิทธิ์ คำสร้อย" ออกมาร้องทุกข์กับ ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ เนื่องจากสงสัยในพฤติกรรมของคณะกรรมการนิติบุคคลของคอนโดฯ ที่ตนเองพักอาศัยย่านสะพานควาย เพราะไม่มีการประชุมและแสดงบัญชีรายรับ-รายจ่ายต่อลูกบ้าน มานานกว่า 7 ปีแล้ว ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อช่วงเช้า วันนี้ (11 ธันวาคม 2562) ทางคุณมนต์สิทธิ์ , ทนายสงกาญ์ และลูกบ้าน ก็ได้เดินทางมาที่สน. บางซื่อ เพื่อเข้าร้องทุกข์แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ทำการสืบสวนสอบสวน ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากพยานเอกสารหลักฐานทั้งหมดเกี่ยวกับนิติบุคคลนี้ โดยอยากให้เรียกดูบัญชีย้อนหลังตั้งแต่ปี 2537 จนถึงปัจจุบัน รวมถึงเรียกตัวคนที่บอกว่าเป็นนิติบุคคลมาสอบถาม สำหรับหลักฐานได้มาจากสำนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร สาขา ห้วยขวาง กทม. โดยพบว่า นิติบุคคลนี้ได้จดทะเบียนมาตั้งแต่ปี 2537 แล้ว แต่ไม่มีการดำเนินการใด ๆ ตามขั้นตอนของกฏหมาย จากการเรียกเก็บเงินจากลูกบ้านประมาณ 150 ห้อง มาโดยตลอด ซึ่งนับถึงปัจจุบันเป็นเวลานานกว่า 25 ปี

นอกจากนี้ยังไม่มีการแสดงบัญชีรายรับและรายจ่าย และไม่แสดงสมุดบัญชีเงินฝากในนามนิติบุคคลตั้งแต่เริ่มเปิดบัญชีจนถึงปัจจุบัน ซึ่งการกระทำดังกล่าวเรียกได้ว่าเป็นการปกปิดข้อเท็จจริง โดยคุณมนต์สิทธิ์เผยว่า ได้ซื้อคอนโดมิเนียมอาคารชุดชื่อ อินทามระเพลส เมื่อปี2548 โดยมีกลุ่มบุคคล2-3 ราย อ้างว่าเป็นกรรมการของนิติบุคคลอินทามระเพลส แล้วเรียกเก็บเงินค่าส่วนกลางเป็นรายเดือน เดือนละประมาณ พันกว่าบาทจนถึงปัจจุบัน โดยตนพยายามขอให้ประชุมมาโดยตลอด แต่เขาก็หลีกเลี่ยงมาเป็นเวลากว่า 10 ปี เพราะตนอยากจะรู้เรื่องการจัดการค่าส่วนกลาง นอกจากนี้ยังมาขอขึ้นค่าส่วนกลางอีก แถมไม่ได้มีการเรียกประชุมก่อน คุณมนต์สิทธิ์เล่าต่อว่า หลังจากออกข่าวไป ทางนิติบุคคลก็ได้นำ รายรับคงเหลือมาติดที่บอร์ด โดยเงินเหลือ 7 แสนบาทสำหรับในเดือนตุลาคม แต่จวบจนถึงวันนี้ที่มีเรื่อง ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อหรือพูดคุยกับทางนิติบุคคลเลย ตนจึงอยากจะเรียกทุกคนประชุมเองในวันที่ 15 ธันวาคมนี้

ทนายสงกาญ์ เสริมว่า ปกตินิติบุคคลต้องเรียกประชุมอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และต้องแสดงบัญชีรายรับรายจ่าย โดยตนมองว่าคดีนี้จะเป็นคดีตัวอย่างให้กับผู้พักอาศัย ที่มีนิติบุคคล นอกจากนี้ การที่ไม่ได้ไปจัดตั้งนิติบุคคลที่สำนักงานที่ดิน ถือเป็นการกระทำที่ลักไก่ เรื่องนี้ทำให้พนักงานที่กรมที่ดินยังสงสัยว่าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ทนายสงกาญ์ เผยว่า หากเรื่องนี้เข้าข่ายว่าเป็นการหลอกลวงประชาชน จะกลายเป็นคดีฉ้อโกงประชาชน โดยมีโทษสูง จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ยังมองว่าอาจจะมีเรื่องของการยักยอกทรัพย์อีกด้วย เพราะไม่มีการแสดงสเตทเมนต์มาเป็น 10 ปี โดยตนคาดว่าภายในอีกไม่กี่วันก็จะได้ความชัดเจนในเรื่องนี้ ด้านคุณ วีรชัย อินทวี หนึ่งในลูกบ้าน ได้ออกมาแฉพฤติกรรมของนิติบุคคลว่า เมื่อทนไม่ไหวจึงอยากเรียกทุกคนประชุมถึงเรื่องนี้ ก็เลยไปติดป้ายประกาศวันเวลาที่จะประชุม ปรากฎว่าถูกฉีกออกทุกที่ที่ไปติด เมื่อเอาไปติดอีก ก็ถูกฉีกออกอีก อย่างไรก็ตาม มีคนส่งข่าวมาให้กับคุณมนต์สิทธิ์ว่า 1 ใน 3 คนที่จัดตั้งตัวเป็นนิติบุคคล ได้หอบกระเป๋า 3 ใบ ออกจากที่พักไปเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าเป็นการหลบหนี หรือแค่ไปเที่ยวต่างจังหวัดธรรมดา

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส