จ่อหมายจับเพิ่มทั้งผู้ร่วมขบวนการ-จนท.รัฐ คดีเสี่ยแป้งแหกคุก

20 พ.ย. 66

กมธ.ยุติธรรมสภาผู้แทนราษฎรเร่งหาข้อมูล เสี่ยแป้ง หลบหนี ยันมี หมายจับเพิ่มทั้งผู้ร่วมขบวนการ-จนท.รัฐ ด้านรพ.เปิดวงจรปิดทุกจุด พบความผิดปกติบางอย่างในวันนำตัวนักโทษรายนี้เข้ามา แม้ว่าจะมีการแจ้งเลื่อนนัดไปก่อนหน้าวันเกิดเหตุแล้ว

ที่ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ในฐานะประธาน ได้นำคณะกรรมาธิการการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนสภาผู้แทนราษฎร เข้าศึกษาดูงานและตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ เสี่ยแป้ง ผู้ต้องขังเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชหลบหนี ขณะเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.มหาราช นครศรีธรรมราช

โดยได้เชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช และส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับกรมราชทัณฑ์ ในจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าชี้แจงกับกรรมาธิการ โดยในที่ประชุมกรรมาธิการได้ให้ความสนใจกับการย้ายเรือนจำจากจังหวัดพัทลุงมายังนครศรีธรรมราช และขั้นตอนการได้รับอนุญาตให้ออกมารักษาตัวและการสั่งการให้นำตัวออกมาจากเรือนจำ

นายศุภวิชญ์ ทวีสุขกาญจน์ นักทัณฑวิทยาชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ระบุว่า ขณะนี้ผู้บัญชาการเรือนจำนครศรีธรรมราชที่เข้ารับตำแหน่งคนใหม่ได้เข้าพื้นที่พัทลุงและตรัง เพื่อติดตามนักโทษชายเชาวลิต และชี้แจงว่าเหตุที่เรือนจำพัทลุงได้ส่งตัวย้ายนายเชาวลิตมาที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช จากพฤติการณ์ที่กระด้างกระเดื่องกับเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งมีลักษณะของการข่มขู่คุกคามเจ้าหน้าที่เรือนจำพัทลุง จนเข้าสู่การย้ายเรือนจำ ตามระเบียบราชทัณฑ์ และระบุด้วยว่านายเชาวลิต ถูกบันทึกประวัติว่า “มีพฤติการณ์” คือหมายถึงเป็นนักโทษที่ก้าวร้าว และมีอิทธิพลและได้รับการพิจารณาให้ออกมารักษาตัวภายนอกเรือนจำ จากแพทย์ที่เข้าตรวจรักษาตามโครงการราชทัณฑ์ปันสุข และปฏิเสธว่าเรือนจำไม่ได้ทราบจากผู้ที่เลื่อนนัดจากแพทย์ เป็นเหตุให้นำตัวออกมาตามนัดเดิม

าขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแล้ว 4 ราย คือเจ้าหน้าที่เวร ขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ผู้ที่รับว่าเป็นคนเปลี่ยนตรวนและกุญแจ และผู้อำนวยการส่วนควบคุม ซึ่งการสอบสวนวินัยร้ายแรงนี้ เริ่มตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสที่ 16 พ.ย. ที่ผ่านมา

ขณะที่พลตำรวจตรีสมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า การสอบสวนของเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการอย่างละเอียดมาตั้งแต่เกิดเหตุการออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องจำนวน 7 ราย ทุกคนให้การสอดคล้องต้องกัน และยังเชื่อมโยงไปหาบุคคลอื่นอีก นอกจากนั้นยังพิจารณาจากกล้องวงจรปิดถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ในขณะที่มีภาพนายเชาวลิต ก่อเหตุพยายามหลบหนี ตั้งแต่คืนแรกจนกระทั่งคืนที่สอง เป็นเหตุให้นำไปสู่ออกหมายจับ จนท.ทั้ง 3 ราย เกี่ยวข้องกับความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามมาตรา157 ส่วนหมายจับเพิ่มหรือไม่นั้นอาจเพิ่มอีกในส่วนของพลเรือนและส่วนของเจ้าหน้าที่ ซึ่งอยู่ในระหว่างการรวบรวมข้อมูล

ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกันคณะกรรมาธิการ ได้เดินทางไปยัง รพ.มหาราช นครศรีธรรมราช เพื่อรับฟังข้อเท็จจริง โดยมีรายงานจากภายในว่าจะมีการเปิดเผยข้อมูลวงจรปิดจากทุกจุดในโรงพยาบาล ให้คณะกรรมาธิการพิจารณา และเปิดเผยข้อมูลหลักฐานความผิดปกติบางอย่างในการนำตัวนักโทษรายนี้เข้ามาที่ รพ.แม้ว่าจะมีการแจ้งเลื่อนนัดไปก่อนหน้าวันเกิดเหตุแล้ว.

advertisement

ข่าวฮิตติดเทรนด์

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส