หมอแชร์ประสบการณ์ป่วย "มะเร็งไทรอยด์" กับความโชคดีที่สุดถึง 9 ครั้ง ที่เจ้าตัวเผยว่าอาจจะดีกว่าการถูกรางวัลที่ 1 ถึง 17 ใบซะอีก
17 ก.ย. 25666 เฟซบุ๊ก “Somros MD Phonglamai” โพสต์แชร์ประสบการณ์ป่วย "มะเร็งไทรอยด์" กับความโชคดีที่สุดในชีวิตถึง 9 ครั้ง บอกโชคดีกว่าถูกรางวัลที่หนึ่ง 17 ซะอีก ระบุว่า “ผมโชคดี ถูกรางวัลมากกว่ารางวัลที่หนึ่ง 17 ใบ 102 ล้านบาทอีกครับ
โพสต์นี้ได้รับพลังใจจากเพจสู้ดิวะ ในฐานะที่เป็นหมอและคนไข้มะเร็งเหมือนกัน หวังว่าอ่านจบแล้ว เพื่อนๆจะได้ข้อคิดไปแบ่งปันให้คนที่เรารักต่อนะครับ
1.ผมชื่อ สมรส เริ่มจากผมเป็นหมอเฉพาะทางด้านฟื้นฟู และรักษาคนไข้อัมพาตเยอะอายุน้อยมาก เลยกลัวว่าจะมีอะไรในหัวไหม ยิ่งไปเห็นพี่อิท Ittichai Sakarunchai คุณหมอผ่าตัดสมองโพสต์เรื่องเส้นเลือดโป่งพองในหัวแตก เลยตั้งใจจะไปตรวจสแกนสมอง MRI MRA ว่ามีระเบิดเวลาซ่อนในหัวเราไหมนะ ? โชคดีครั้งที่ 1 ถ้าไม่เห็นโพสต์พี่อิทคงไม่คิดจะตรวจ
2.ผมไปติดต่ออาจารย์เดชา คุณหมอผ่าตัดสมองที่ รพ.กรุงเทพพัทยาเลยแนะนำให้ทำเป็นแพ็คเกจ stroke screening program ไปเลยคุ้มกว่า เพราะดูเส้นเลือดแดงที่คอด้วย ก็เลยได้ทำอัลตราซาวด์ที่คอ โชคดีครั้งที่ 2 ถ้าอาจารย์เดชาไม่แนะนำ package ก็ไม่ได้ตรวจ
3.อาจารย์ดิว Wittawat Takong Interventionist อัลตราซาวด์ที่คอให้ เส้นเลือดดีมาก แต่เอ๊ะ มีก้อนที่คอ ผมมองหน้าอาจารย์ดิวที่กำลังวัดขนาดก้อนอยู่ด้วยสายตาจริงจัง “มีโอกาสเป็นมะเร็งกี่ % ครับ” ผมยิ้มถาม ตอนนี้หัวใจเริ่มเต้นเร็ว “มีโอกาสสูงครับอาจารย์ มากกว่า 90% คงต้องเจาะชิ้นเนื้อต่อครับ”
ในทางการแพทย์ เราเรียนการบอกข่าวร้ายกับคนไข้มา (Breaking Bad News) ไม่คิดว่าจะต้องเจอกับตัวเองเพราะก่อนหน้านี้แข็งแรงมากๆ โดยคนไข้จะมีกลไก 5 อย่างหลักๆ 1.ปฏิเสธความจริง 2.โกรธ 3.ต่อรอง 4.ซึมเศร้า 5.ยอมรับ
“ครับ เดี๋ยวผมนัดเลยให้เร็วที่สุด” ผมข้ามไปขั้นยอมรับข่าวร้ายเลยใน 1 วินาที อาจเพราะเป็นลิ่มเลือดอุดตันในปอดมาก่อน เจ็บหน้าอกทรมานอย่างมาก เป็นมะเร็งอีกก็เลยเข้าใจได้ โชคดีครั้งที่ 3 ถ้าอาจารย์ดิวไม่ใช่คนละเอียด ไม่ได้ตั้งใจดูให้ อาจจะไม่ทราบ
4.ผลชิ้นเนื้อเป็นมะเร็งไทรอยด์สองประเภทรวมกัน พอเกิดในผู้ชาย มันมีโอกาสรุกรานมากกว่าที่เกิดในผู้หญิง ตอนนั้นรีบหาหมอผ่าตัดว่าจะให้อาจารย์ท่านไหนผ่าดี ต้องผ่าเร็วที่สุดที่ทำได้ อาจารย์ก้อย endocrine แนะนำอย่างละเอียดและขู่ว่ารีบผ่านะคะ! ห้ามรอ ห้ามประมาท! พี่เอฟ พี่ป้อม พี่ปูดมยา อาจารย์ก้อยไปคุย (บลัฟ) กับป๋าไพบูลย์ว่าผ่าให้ผมหน่อย ซึ่งท่านก็คิวแน่นมากๆ อายุก็เริ่มมาก แต่ก็รับผ่าให้ผมภายในสองสัปดาห์ และโรงพยาบาลก็ช่วยดูแลอย่างดี
โชคดีครั้งที่ 4 ถ้าไม่ได้พี่ๆ คุยกับป๋าให้ อาจไม่ได้ผ่าเร็วขนาดนี้ ถ้าไม่ได้ทำงานที่ รพ.กรุงเทพพัทยา ก็คงไม่เร็วและพี่ๆ น้องๆ ดูแลดีขนาดนี้
สาเหตุของมะเร็งไทรอยด์ เช่น
- การสัมผัสรังสี เช่น คนไข้มะเร็งฝังแร่ กลืนแร่มา แล้วเราเดินผ่าน, หมอที่ทำงานกับสารทึบสี, กินอาหารปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสี, สารกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลหรือถูกเผา
- ได้รับไอโอดีนมากเกินไป (เช่น เกลือเสริมไอโอดีน) หรือการขาดไอโอดีน
- การได้รับฮอร์โมนที่มากเกินไป
- ความอ้วน
- เนื้อแดง อาหารโปรเซส (ไส้กรอก กุนเชียง แหนม แฮม)
- การดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
5.ตอนผ่าตัด พบว่าตัวมะเร็งกำลังไปแตะกล้ามเนื้อด้านหลังแล้ว ดูเกรี้ยวกราดรุกรานจริงๆ ไม่ได้ดูง่ายเหมือนมะเร็งไทรอยด์คนอื่นๆ ถ้าผ่าช้าไปอีกเดือน อาจจะกินลึกและผ่ายากกว่านี้มาก ได้พี่จิมมี่เข้าเคสช่วยป๋า ไม่โดนเส้นประสาทใดๆ เสียงไม่แหบลง แคลเซียมไม่ตกเลยแม้แต่ 0.1 และเย็บแผลให้งดงา ตอนป๋าไพบูลย์ดึงสายระบายออกจากอก “ปรี๊ด!” เข้าใจคนที่โดนปาดคอเลยจริงๆ จำฝังใจ โชคดีครั้งที่ 5 ถ้าไม่รีบผ่า มะเร็งน่าจะรุกรานไปลึก อาจกินหลอดลมหรือหลอดอาหาร ยากขึ้นมาก
6.ผมต้องหาที่กลืนแร่ไอโอดีน 131 ซึ่งเป็นแร่กัมมันตภาพรังสี (ผมถึงอินกับเรื่องที่ซีเซี่ยมหลุดมากๆ เพราะตอนนนั้นเป็นมะเร็งแล้ว) โดยพี่เบิร์ด คมวุฒิ ช่วยติดต่ออาจารย์กุ้ง Nuclear Med ที่รามาฯ ช่วยดูแลผม ทำให้ได้กลืนแร่เร็วที่สุดเท่าที่เร็วได้ โชคดีครั้งที่ 6 ถ้าพี่เบิร์ดไม่แนะนำให้ คงกลืนแร่ช้ากว่านี้มาก
7.ผมใช้ได้แต่สิทธิ์ 30 บาท เนื่องจากประกันไม่รับทำจากโรคลิ่มเลือดอุดตันในปอดเมื่อ 4 ปีก่อน ผมติดต่อไปตามสิทธิ์โรงพยาบาลต้นสังกัด.... ต้องเดินเรื่องหลายต่อและเอกสารเยอะมากๆ บังเอิญปรึกษาพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ หมอสงขลานครินทร์ จนไปโทรคุยกับพี่แกน Sx พี่แกนแนะนำว่า ตอนนี้พึ่งเริ่มมีโครงการ Cancer Anywhere และผมก็สามารถใช้สิทธิ์ได้ จึงได้ไปรักษากับอาจารย์กุ้งได้โดยไม่สะดุด โชคดีครั้งที่ 7 ถ้าไม่มีพี่ๆ น้องๆ สงขลานครินทร์ ช่วยแนะนำจนได้โทรคุยกับพี่แกน คงเสียเวลาอีกนาน
8.จากนั้นก็ไปแอดมิทเพื่อกลืนแร่ไอโอดีน 131 เป็นแคปซูลขนาดใหญ่นิดนึง ชิ้นเดียว แต่ถูกใส่มาในกล่องตะกั่วหนัก 10 กิโลกรัม หลังกินมีคลื่นไส้ มึนหัว นอนไม่หลับอยากจะอาเจียน ช่วงนั้นมี PM 2.5 เต็มไปหมด ทรมานมากๆ
ห้ามเจอใครเลย 2 สัปดาห์ ตอนนั้นภูมิคุ้มกันตก และมีติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ฉี่เป็นเลือดสีชมพูแสบสุดๆ กลั้นปัสสาวะไม่ได้ โทรไปปรึกษาพี่จิมมี่ยูโร กินยาอยู่สองสัปดาห์จนหายขาด ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะเป็นติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ UTI สแกนหามะเร็งหลังกลืนแร่ พบการแพร่กระจายไปต่อมน้ำเหลืองใกล้ๆ แต่ยังไม่แพร่ไปอวัยวะอื่นๆ โชคที่ครั้งที่ 8 ถ้าพี่จิมมี่ไปอยู่วัดในป่า (พี่เป็นสายธรรมะ) ก็คงทรมานกว่านี้มาก
9.ระหว่างที่เป็นมะเร็ง ผ่าตัด และกลืนแร่หลายเดือนนั้น ผมโดนหมอปลอมและบริษัทอาหารเสริมโอ้อวดโฆษณาเกินจริง ฟ้องว่าผมไปหมิ่นประมาทเขา ยิ่งเพิ่มความเครียดและทำให้สุขภาพกายสุขภาพใจแย่มากๆ ต้องรวบรวมหลักฐานทุกอย่างทั้งๆ ที่ยังผ่าตัดมะเร็ง ติดต่อเพื่อนตำรวจ ทนาย อัยการ ต้องติดต่อขอเอกสารจากแพทยสภา ติดต่อศาล เพื่อให้กระทบร่างกายน้อยที่สุด ขณะนั้นไม่มีต่อมไทรอยด์แล้ว ร่างกายมีภาวะไทรอยด์ต่ำมากๆ ท้องอืด ปวดหัว ทรมานสุดๆ
โชคดีครั้งที่ 9 มีกัลยาณมิตรตำรวจ ทนาย อัยการ ทำให้ชนะคดี จริงๆ ฟ้องอาญาและแพ่งกลับได้ หมอปลอมจะติดคุก บริษัทอาหารเสริมจะล้มละลาย แต่เนื่องจากยังอยู่ในช่วงรักษามะเร็ง ก็เลยหยุดพักร่างกายจิตใจไปก่อน เจริญเมตตาเยอะๆ
ผมโคตรโชคดีมากๆ โชคดี 9 เด้ง ผมว่าโชคดีกว่าถูกรางวัลที่หนึ่ง 17 ใบ 102 ล้านอีกนะครับ ผมควรจะตายไป 2 รอบแล้ว
10. ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขียนมา เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปีจนถึงตอนนี้เลย มีเรื่องเจ็บปวดต้องฝ่าฟันอีกมากมายที่ไม่ได้เขียนถึง ภาวะไทรอยด์ต่ำ TSH 86 ซึมเศร้าบ้าง ขยับตัวช้าเป็นสล็อต จนมาถึงตอนนี้ที่ภายนอกผมอาจดูแข็งแรง สูงใหญ่ สดใส ทันสมัย พลังงานล้น ไปบรรยายดูเท่ๆ เป็นหมอที่เก็บรายละเอียดเยอะ แต่ภายใน ผ่านอะไรมาเยอะเลยครับ
11.จากเรื่องราวเหล่านี้ จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึง
- พูดถึงความตายบ่อยๆ เตรียมตัวตายทุกวัน ผมเป็นลิ่มเลือดอุดตันในปอดตั้งแต่ 4 ปีก่อน ต้องกินยาละลายลิ่มเลือดทุกวัน
- ใช้รถคันเดิม 12 ปี อยู่แบบสมถะๆ
- แต่งตัวชุดขาวห่มขาวทำงาน ได้เตือนใจตัวเอง
- เต็ม 100 กับคนไข้ อธิบายเยอะจนเสียงแหบ
- เต็ม 100 กับคุณหมอที่มาปรึกษา
- เต็ม 100 กับงานวิชาการ เพราะอยากรีบถ่ายทอดก่อนจะตาย
- ไปเรียนรู้ความรู้ใหม่ๆ จากยุโรป แล้วนำมาช่วยคนไทย มาสอนหมอไทย
- ไม่ชอบการโฆษณาเกินจริง (จาก บ.อาหารเสริมที่มาฟ้องผม)
- ไม่ชอบคนขี้โม้หรือโกหก (จากหมอปลอมที่มาฟ้องผม)
- จริงใจ ตรงไปตรงมา อะไรไม่เก่งก็บอกเลย ไม่ต้องมาเสียเวลากับเรา มีอะไรอยากเตือนก็เตือนเลย จนอาจจะดูดุดันเกินไป สำหรับวัฒนธรรมไทยบางคน
- ลดค่ารักษาลง (กันยายน) เพราะอยากช่วยคนได้มากขึ้น ฟื้นฟูได้นานพอที่จะได้ผลชัดเจน และเปลี่ยนชีวิตคนไข้ได้
- ชอบไปคอมเมนต์ในเพจอื่นๆ บ้าง โดยเฉพาะเรื่องการเมือง เพราะอยากให้คนไทยมีชีวิตที่ดีกว่านี้ เคยคิดอยากลง สส.ด้วยนะ แต่น่าจะเครียดกว่าเดิมมาก
12.ผมมีความฝันก่อนตาย 3 อย่าง
- สนับสนุนทางวิชาการ ช่วยทำงานวิจัย เพื่อพัฒนา TMS, PMS, TPS หรือ innovation อื่นๆ ได้ถูกบรรจุเป็นมาตรฐานการรักษาที่ช่วยคนไข้ได้จริง บนหลักฐานทางการแพทย์จริงๆ ไม่ใช่แฟชั่นความหวือหวาหรือการตลาดโฆษณาเกินจริง
- ทำองค์กรในฝันที่มี DNA แบบเรา เน้นงานนวัตกรรมวิชาการ เน้น DNA transform digital, Ai, global citizen, ikigai-rinen ยั่งยืนอยู่ต่อไปแม้ไม่มีผมแล้ว
- อนัตตาโสดาบัน, พุทธวิทยาศาสตร์ Scientific Buddhism, อาจไปบวชหรืออยู่เป็นฆราวาส
ขอบคุณนะครับที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ โชคดีจังที่มีเพื่อนดีๆ แบบทุกคน หวังว่าเพื่อนๆ จะได้ประโยชน์จากเรื่องราวความเจ็บปวดของผมบ้างนะครับ และเตือนใจคนที่เรารัก #สู้ดิวะ #โชคดีจังที่เป็นมะเร็ง #DrSomros
นพ. สมรส พงศ์ละไม (ก้อนอิฐ)”
ขอบคุณข้อมูลจาก : Somros MD Phonglamai