ลูกชายโวย พ่อป่วยเป็นนิ่วในไตอักเสบ แต่หมอนัดตรวจอีกทีปีหน้า บอกรอไม่ไหวไปตรวจที่อื่น

เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Chanon Vigo Zing” โพสต์ใบนัดคนไข้ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.เพชรบูรณ์ ระบุวันนัด 21 ต.ค.63 พร้อมข้อความว่า “กราบเรียน…ผมมีเรื่องจะมาเล่าให้ฟังครับวันที่ 21 ที่ผ่านมา ผมพาพ่อผมไปหาหมอที่โรงพยาบาล (แกเป็นนิ่วที่ไตแกปวดท้องมาก) ทั้ง ๆ ที่โรงบาลหนองไผ่ส่งตัวไป แต่ไม่ได้พบหมอพบแต่พยาบาลหน้าห้องรับเรื่อง ยาก็ไม่ให้ ผมถามไม่มียาหรือครับบอกว่าไปหายาแก้ปวดกินไปก่อน และวันนี้ไม่ได้พบหมอ เชื่อไหมว่าพ่อผมก็ปวดท้อง นัดอีกที่ 21 ต.ค.63 ข้ามปี พยาบาลบอกว่ามีหมอคนเดียวถ้ารอคิวไม่ไหวก็ขอทางโรงบาลหนองไผ่ส่งตัวไปรักษาที่อื่น นี่หรือโรงพยาบาล…หรือว่ามีดีแต่ถนน กับที่ท่องเที่ยวครับ ทางการแพทย์บริการไม่ได้เรื่องเลย ช้า นาน พ่อผมจะทนปวดได้นานแค่ไหน (อยากให้ปรับปรุงทางการแพทย์หน่อยครับจังหวัดอื่นเขาไปถึงไหนกันแล้วสงสารคนยากคนจนบ้างครับบางคนรอเป็นวัน..ขอบคุณครับ)

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง สอบถาม นายพินัส ศิลาคำ อายุ 64 ปี ชาว ต.บ้านโภชน์ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า ผู้ที่โพสต์ข้อความดังกล่าวคือลูกชายตน ขณะนี้เดินทางกลับไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด วันก่อนเกิดเหตุตนมีอาการปวดท้องอย่างมาก จึงไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลหนองไผ่ และพบว่าเป็นนิ่วในไตและไตอักเสบ จึงทำเรื่องส่งตัวให้ไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลดังกล่าว เมื่อวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา กระทั่งเดินทางไปแต่เช้า ช่วงบ่ายได้ทำการเอ็กซเรย์อีกรอบ จากนั้นพยาบาลได้เขียนใบนัดให้มาพบแพทย์ในวันที่ 21 ต.ค.63 ด้วยความสงสัย จึงได้สอบถามว่าเหตุใดจึงนัดเป็นปีหน้า พยาบาลคนดังกล่าวแจ้งว่าคนไข้โรคนิ่วมีจำนวนมาก ต้องเป็นไปตามคิว พร้อมทั้งแจ้งว่าถ้ารอไม่ไหวจะไปรักษาที่อื่นก็ขอทำใบส่งตัวได้ ตนจึงขอยาแก้ปวดไปกินเนื่องจากยังมีอาการปวดเป็นอย่างมาก แต่พยาบาลคนดังกล่าวได้บอกว่าให้ไปขอที่โรงพยาบาลหนองไผ่ หรือไม่ก็ไปซื้อตามคลินิกต่าง ๆ ก็ได้ ตนจึงกลับมาบ้านและไปฉีดยาแก้ปวดที่คลินิก พร้อมซื้อยาแก้ปวดมาจำนวนหนึ่ง ทั้ง ๆ ที่มีอาการปวดท้องเป็นอย่างมาก จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ลูกชายไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงได้นำเรื่องราวโพสต์ลงในเฟซบุ๊กดังกล่าว

ด้าน ลูกชายของ นายพินัส เล่าว่า รู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก เนื่องจากพ่อเป็นนิ่วในไตและไตอักเสบ เมื่อไปโรงพยาบาลแทนที่จะได้พบแพทย์เพื่อแนะนำเกี่ยวกับการรักษา กลับให้พยาบาลนัดให้มาพบอีกครั้งในวันที่ 21 ต.ค.63 ซึ่งนานข้ามปี และเกรงว่าพ่ออาจะมีอาการป่วยกำเริบเกินกว่าที่จะรักษา เนื่องจากอายุมากแล้ว จึงอยากให้โรงพยาบาลทบทวนและพัฒนาการทำงานให้รวดเร็วและดูแลคนไข้ให้ดีกว่านี้ จากนั้นผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปยังโรงพยาบาลดังกล่าวเพื่อขอทราบรายละเอียด โดยผู้บริหารได้แจ้งว่า จะทำการชี้แจงต่อสื่อมวลชนในเร็ว ๆ นี้